นางศุภจี สุธรรมพันธุ์ ประธานกรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ไทยคม เปิดเผยว่า “ไตรมาส 1/2556 เป็นอีกไตรมาสที่บริษัทฯ มีผลกำไรจากการดำเนินงาน นับเป็นการทำกำไรติดต่อกันเป็นไตรมาสที่ 7 โดยเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้าและไตรมาส 1/2555 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิจากการดำเนินงานปรับตัวสูงขึ้น ถึงแม้จะเกิดความผันผวนในด้านอัตราแลกเปลี่ยน แต่ด้วยนโยบายการจัดการทางการเงินและการบริหารความเสี่ยงทางด้านอัตราแลกเปลี่ยนที่เหมาะสม ส่งผลให้ไทยคมมีผลประกอบการที่มีเสถียรภาพ”
รายได้รวมจากการขายและการให้บริการในไตรมาสที่ 1/2556 รวมทั้งสิ้น 1,774 ล้านบาท โดยธุรกิจดาวเทียมยังคงเป็นธุรกิจที่ทำรายได้หลักให้บริษัทฯ ถึง 86% หรือคิดเป็น 1,542 ล้านบาท ในขณะที่อัตรากำไรสุทธิของงบการเงินเฉพาะกิจการเพิ่มขึ้นจาก 3% ในไตรมาสแรกของปีก่อนเป็น 15% ในไตรมาสนี้
“ตั้งแต่ต้นปี ไทยคมประสบความสำเร็จที่สำคัญหลายประการ เช่น เมื่อเร็วๆ นี้ ไทยคมได้ลงนามในข้อตกลงการให้บริการช่องสัญญาณไอพีสตาร์ทั้งหมดในประเทศจีนร่วมกับ บริษัท ซีเนอร์โทน คอมมิวนิเคชั่น คอร์ปอเรชั่น (Synertone Communication Corporation) และไทยคมยังได้รับความไว้วางใจจาก บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) ในการเช่าช่องสัญญาณไอพีสตาร์เพิ่มเติมสำหรับช่องสัญญาณที่เหลืออยู่ในประเทศไทย ซึ่งความสำเร็จดังกล่าวจะทำให้ไทยคมมีการรับรู้รายได้ในปีนี้เพิ่มขึ้น โดยจะเริ่มรับรู้รายได้เพิ่มเติมตั้งแต่ไตรมาสที่สอง นอกจากนั้น การที่บริษัท เอ็มโฟน ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของเชนนิงตัน ได้ตัดสินใจขอปิดกิจการในประเทศกัมพูชา ส่งผลให้ตั้งแต่ไตรมาสที่ 1 ของปีนี้ ไทยคมไม่ต้องรับผลกระทบจากการขาดทุนของเอ็มโฟนอีกต่อไป”
ในส่วนของโครงการดาวเทียมไทยคม 6 และ ไทยคม 7 ซึ่งจะเป็นดาวเทียมดวงใหม่ที่จะเพิ่มปริมาณช่องสัญญาณและขยายตลาดของไทยคมนั้น ในขณะนี้ บริษัทสามารถขายช่องสัญญาณล่วงหน้าของดาวเทียมไทยคม 6 ได้แล้วกว่า 60% ซึ่งดาวเทียมไทยคม 6 จะช่วยตอกย้ำความเป็นดาวเทียม Hotbird ที่ตำแหน่ง 78.5 องศาตะวันออก และบริษัทก็ได้เริ่มการขายช่องสัญญาณของดาวเทียมไทยคม 7 ล่วงหน้าเช่นกัน
“ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมานับว่าเป็นช่วงเวลาแห่งการปรับตัวของไทยคม ด้วยการปรับกลยุทธ์ทางธุรกิจและการตลาด การเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการ รวมทั้งการปรับโครงสร้างขององค์กร ส่งผลให้ไทยคมสามารถพลิกผลประกอบการให้เป็นกำไรอย่างต่อเนื่องได้ในปี 2555 รวมถึงแผนธุรกิจที่ชัดเจนจะเป็นรากฐานที่สำคัญในการผลักดันให้ไทยคมเติบโตขึ้นในปี 2556 นี้และปีต่อๆไป”
ในส่วนของกลุ่มบริษัทในเครือนั้น บริษัท ซีเอส ล็อกซอินโฟ จำกัด (มหาชน) ซึ่งให้บริการด้านอินเทอร์เน็ตและสื่อ ยังคงมีผลประกอบการที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยมีกำไรสุทธิประจำไตรมาส 1/2556 อยู่ที่ 146 ล้านบาท ซึ่งมีรายได้เติบโตมาจากธุรกิจการให้บริการอินเทอร์เน็ตและบริการไอซีที ส่วนบริษัท ดีทีวี เซอร์วิส จำกัด ยังเน้นการเป็นผู้นำเทคโนโลยีในการสร้างตลาด HDTV และ MPEG4 S2 ซึ่งจะเป็นการวางรากฐานของการเติบโตในอนาคตของธุรกิจโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมต่อไป และในส่วนของ บริษัท ลาวโทรคมนาคมนั้น ก็ยังครองความเป็นอันดับ 1 ในธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่ ด้วยส่วนแบ่งการตลาด 45% ซึ่งลาวโทรคมนาคม ยังคงเป็นธุรกิจที่ทำกำไรได้อย่างต่อเนื่อง