นายพงษ์อนันต์ ธณัติไตร ประธานคณะเจ้าหน้าที่ด้านเครือข่ายการขาย ธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า กลยุทธ์สาขาของธนาคารในปีนี้จะมุ่งเน้นใน 4 ด้านหลัก ได้แก่ การปรับปรุงสาขาที่มีอยู่ การสร้างคนและให้ผลตอบแทนที่จูงใจ การยกระดับไอทีและการสื่อสาร และการปรับลดขั้นตอนการทำงาน โดยจะให้ความสำคัญในเรื่องคนเป็นหลัก
“เครือข่ายสาขาและการขายที่มีอยู่ในปัจจุบันมีจำนวนเหมาะสมในการให้บริการลูกค้าได้อย่างทั่วถึงและครอบคลุมทั่วประเทศ และรองรับการเติบโตของธนาคารในอนาคตในปีนี้ และเชื่อว่าการแข่งขันในธุรกิจธนาคารจะให้ความสำคัญกับการพัฒนาคุณภาพของคนที่สาขา มากกว่าการขยายจำนวนสาขาธนาคาร ได้จัดสรรงบจำนวน 550 ล้านบาท ในการพัฒนาคนและให้ผลตอบแทนที่จูงใจแก่พนักงานสาขา ซึ่งจะเป็นแรงขับเคลื่อนที่สำคัญในการช่วยให้ธนาคารสามารถบรรลุเป้าหมายการเป็นหนึ่งในธนาคารที่อยู่ในใจลูกค้าได้” นายพงษ์อนันต์กล่าว
ในส่วนของการปรับปรุงสาขาที่มีอยู่ ธนาคารจะดำเนินการปรับที่ตั้งของสาขาที่มีอยู่ให้ตั้งอยู่ในทำเลที่เหมาะสม และเข้าถึงได้ง่าย ขณะเดียวกันจะมีการปรับโฉมและภาพลักษณ์สาขาให้มีความทันสมัย มีดีไซน์ที่โดดเด่น สะท้อนเอกลักษณ์แบรนด์ของกรุงศรีและความเป็นธนาคารเพื่อลูกค้ารายย่อยอีกด้วย
ปัจจุบันธนาคารกรุงศรีอยุธยามีสาขาจำนวน 602 สาขาทั่วประเทศ และคาดว่าในสิ้นปีนี้จะมีจำนวนสาขาอยู่ที่ 605 สาขา โดยในปีที่ผ่านมา ธนาคารสามารถพัฒนาระยะเวลาเฉลี่ยในการให้บริการต่อลูกค้า/คนลดลงจาก 3.15 นาที เป็น 2.30 นาที ความพึงพอใจของลูกค้าเพิ่มขึ้นจาก 34% เป็น 48% การพิจารณาอนุมัติสินเชื่อ SME ที่เป็นบุคคลทั่วไปลดลงจากเดิม 7 วัน เป็น 3 วัน