นายพงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ในฐานะประธานการประชุมคณะอนุกรรมการกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน เปิดเผยภายหลังการประชุมฯ เมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม 2556 ว่า ตามที่รัฐบาลมีนโยบายเร่งด่วนในการหามาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ที่ได้รับผลกระทบจากความผันผวนทางเศรษฐกิจทั้งจากปัจจัยภายในและภายนอกประเทศให้แล้วเสร็จภายในเดือน มิ.ย.56 นั้น
กระทรวงพลังงานในฐานะหน่วยงานภาครัฐที่กำกับดูแลด้านพลังงานของประเทศ จึงได้จัดเตรียมมาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการในการลดค่าใช้จ่ายด้านพลังงาน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของต้นทุนในการดำเนินกิจการ โดยที่ประชุมคณะอนุกรรมการกองทุนฯ ได้เห็นชอบสนับสนุนงบประมาณจำนวน 581.44 ล้านบาท ให้สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) และกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน (พพ.) ไปดำเนินมาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการ SMEs จำนวน 2 โครงการ ได้แก่ 1. “โครงการ SMEs ประหยัดไฟ ช่วยไทยลดใช้พลังงาน” ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อสนับสนุนให้สถานประกอบการ SMEs ทั่วประเทศ เปลี่ยนมาใช้หลอดไฟประสิทธิภาพสูง โดยที่ประชุมฯ อนุมัติงบประมาณจำนวน 420.44 ล้านบาทให้ สนพ.ไปจัดสรรให้การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) ดำเนินโครงการดังกล่าว
2. “โครงการสนับสนุนการให้คำปรึกษาเพื่อลดต้นทุนพลังงานในโรงงานอุตสาหกรรมขนาดกลางและขนาดเล็ก” โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้โรงงานอุตสาหกรรม SMEs ได้รับคำแนะนำในการดำเนินมาตรการอนุรักษ์พลังงาน ที่โรงงานสามารถดำเนินการปรับปรุงการใช้พลังงานให้มีประสิทธิภาพในเครื่องจักร วัสดุและอุปกรณ์ได้ด้วยตนเอง โดยเน้นมาตรการที่ไม่ต้องลงทุนหรือลงทุนน้อย และมีระยะเวลาคืนทุนสั้น ซึ่งจะช่วยลดค่าใช้จ่ายด้านพลังงานได้อย่างรวดเร็ว โดย พพ. ได้รับงบประมาณในการดำเนินโครงการฯ จำนวน 161 ล้านบาท ตั้งเป้าโรงงาน SMEs เข้าร่วมไม่น้อยกว่า 2,000 แห่ง
“การดำเนินโครงการทั้ง 2 โครงการดังกล่าว นอกจากจะช่วยลดค่าใช้จ่ายด้านพลังงาน และช่วยบรรเทาผลกระทบทางเศรษฐกิจให้ผู้ประกอบการ SMEs แล้ว ยังช่วยสนับสนุนการดำเนินการตามแผนอนุรักษ์พลังงาน 20 ปี ด้วย โดยคาดว่าจะช่วยลดการใช้พลังงานของประเทศลงได้ไม่น้อยกว่า 17 ktoe/ปี หรือคิดเป็นเงินที่ประหยัดได้ปีละ 700 ล้านบาท” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานกล่าว