เอวอน คอสเมติคส์ ประเทศไทย ปลื้มคว้ารางวัลผลงานยอดเยี่ยมในกลุ่มประเทศเอเชียแปซิฟิกฉลอง ความสำเร็จในปีที่ 35 เผยในปี 55 น้ำหอมยังครองแชมป์ด้วยสัดส่วนในธุรกิจกว่า 30% ตามมาด้วย สกินแคร์ 25% และเครื่องสำอางค์สีสัน 18% วางหมากขยายไลน์สินค้าสู่กลุ่มผู้ชายด้วยกระแสตอบรับเริ่มต้นแบบดีเกินคาด หลังไตรมาสแรกกวาดยอดสั่งซื้อกลุ่มผลิตภัณฑ์ชายทะลุ 200%
นางศุภราภรณ์ เอสซี เปา กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอวอน คอสเมติคส์ ประเทศไทย จำกัด เปิดเผยว่า ในโอกาสก้าวสู่ปีที่ 35 ของ เอวอน คอสเมติคส์ ประเทศไทย บริษัทฯ ยังคงมุ่งเน้นไปที่การขยายผู้จำหน่ายอิสระและนักธุรกิจ ที่เราเรียกว่าผู้บริหารกลุ่มเป็นหลัก ซึ่งถือเป็นหัวใจสำคัญของรูปแบบการดำเนินธุรกิจแบบ MLM ของเอวอน โดยจะปรับเปลี่ยนการให้บริการและรูปแบบการจ่ายผลตอบแทนที่ไม่ซับซ้อน และเพิ่มสิทธิประโยชน์ให้แก่นักขายและนักธุรกิจมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการบริการของ คอล เซ็นเตอร์ ที่เป็นแบบ One Stop Service, การให้บริการทางระบบออนไลน์ ได้แก่ การสั่งซื้อสินค้า การเช็คยอด การเช็คสินค้า และรายละเอียดสินค้าที่ต้องการ นอกจากนี้นักธุรกิจเอวอนยังสามารถตรวจสอบข้อมูลของตนเองและลูกทีมทางออนไลน์เพื่อทำการวิเคราะห์และวางแผนงานได้อย่างต่อเนื่องและเต็มประสิทธิภาพ พร้อมทั้งมีการจัดการอบรมแผนการทำธุรกิจทั้งในกรุงเทพฯ และทั่วภูมิภาค เพื่อสร้างเครือข่ายของนักธุรกิจให้เพิ่มขึ้น เพื่อให้ เอวอน ประเทศไทย สามารถเติบโตได้ตามเป้าหมายที่วางไว้
“เอวอน มุ่งเน้นที่ผลิตภัณฑ์นวัตกรรมที่สามารถตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคได้อย่างครบครัน ทั้งผลิตภัณฑ์ สกินแคร์ ที่คิดค้นเทคโนโลยีเอกสิทธิ์เพื่อการต่อต้านริ้วรอยในกลุ่มแบรนด์เอนิว ผลิตภัณฑ์เมคอัพที่มีการปรับเปลี่ยน ให้ดูทันสมัยมากยิ่งขึ้น ผลิตภัณฑ์เพอร์ซันนัล แคร์ ที่มีให้เลือกสรรในชีวิตประจำวันอย่างเต็มรูปแบบ ผลิตภัณฑ์น้ำหอม ที่เป็นน้ำหอมแฟชั่นหรูหราระดับฮอลลีวู้ด แต่อยู่ในระดับราคาที่คุ้มค่า รวมทั้งผลิตภัณฑ์ชุดชั้นในและจิวเวลรี่ที่จะช่วยเสริมบุคลิกภาพของผู้สวมใส่” นางศุภราภรณ์ เอสซี เปา กล่าวเสริมต่อว่า “ในปีนี้ เอวอน คอสเมติคส์ ประเทศไทย ได้ขยายไลน์สินค้าสำหรับผู้ชาย ทั้งสกินแคร์ เพอร์ซันนัล แคร์ และชุดชั้นในชาย เพื่อขยายฐานลูกค้า และเพิ่มยอดขายเพื่อสร้างผลกำไรให้แก่ผู้จำหน่ายอิสระและนักธุรกิจเอวอน โดยแผนการโปรโมทนั้นยังคงใช้การประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อแค็ตตาลอกเป็นหลัก และเสริมด้วยการใช้ เซเลบริตี้ โมเดลชายในกลุ่มสินค้าสำหรับผู้ชาย และเซเลบริตี้ โมเดลหญิงใหม่ถึง 2 คน และเมคอัพสไตลิสท์ชื่อดังสำหรับกลุ่มสินค้าเมคอัพ รวมทั้งการมุ่งการประชาสัมพันธ์ผ่านทางโซเชี่ยล เน็ตเวิร์ค เพื่อขยายฐานลูกค้าสู่กลุ่มคนรุ่นใหม่ และเป็นอีกช่องทางในการสร้าง แบรนด์ผ่านทางผู้บริโภคสู่ผู้บริโภค เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและความน่าเชื่อถือให้กับ แบรนด์เอวอน ตลอดจนการจัดโปรแกรมโปรโมชั่นต่างๆ ให้กับนักธุรกิจและผู้จำหน่ายอิสระอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างแรงจูงใจในการทำธุรกิจ”
ทั้งนี้ ในโอกาสครบรอบ 35 ปี เอวอนวางแผนที่จะนำเสนอสินค้าใหม่สู่มือผู้บริโภคชาวไทยอย่างต่อเนื่อง ในทุกกลุ่มผลิตภัณฑ์โดยเฉพาะในกลุ่มผลิตภัณฑ์สกินแคร์และเมคอัพที่เน้นในเรื่องของนวัตกรรมเป็นหลัก ซึ่งจะเน้นไปที่สกินแคร์เพื่อการต่อต้านริ้วรอยในแบรนด์เอนิว ซึ่งถือเป็นแบรนด์สกินแคร์อันดับ 1 ของ เอวอน ส่วนเมคอัพจะมีการพลิกโฉมด้านสีสันให้ดูทันสมัยมากขึ้น และสามารถขยายกลุ่มลูกค้าไปสู่กลุ่มคนรุ่นใหม่ได้มากยิ่งขึ้น “ในปีนี้นอกจากเราจะขยายกลุ่มสินค้าไปเติมเต็มในกลุ่มผู้ชายแล้ว เอวอน ยังเน้นการปรับโฉมของกลุ่มผลิตภัณฑ์เมคอัพภายใต้คอนเซ็ปท์ “อิกไนท์ โปรเจค” (Ignite Project) ที่เป็นการจุดประกายแห่งสีสันสุดอินเทรนด์ ที่จะตอบโจทย์ความต้องการของหญิงสาวรุ่นใหม่ผู้รักความทันสมัย และสนุกกับการแต่งหน้าในหลายเฉดสี ให้เลือกสรร พร้อมกับเสริมทัพคอลเลคชั่นนี้ด้วยการใช้ เซเลบริตี้ โมเดล (Celebrity Models) ปรากฏโฉมในแค็ตตา ลอกและสื่อสิ่งพิมพ์ต่างๆ ได้แก่ แต้ว ณฐพร เตมีรักษ์, ยิปซี คีรติ มหาพฤกษ์พงศ์ และ เมคอัพ สไตลิสท์ชื่อดังในโลกโซเชี่ยล เน็ทเวิร์ค และสื่อโทรทัศน์ปัจจุบันคือ แพรี่พาย อมตา จิตตะเสนีย์ มาสร้างสีสันให้กับคอลเลคชั่นอิกไนท์โปรเจค นอกจากนี้ เอวอนยังนำเสนอกลุ่มผลิตภัณฑ์สกินแคร์ระดับเวิล์ดคลาสแบรนด์เอนิว ได้แก่ เอนิว จีนิคส์, เอนิว เอ-เอฟ 33 ที่ตอบโจทย์ตลาดต่อต้านริ้วรอยในระดับ Premium ซึ่งได้แรงบันดาลใจจากงานวิจัยรางวัลโนเบล และเอนิว อควา ยูธ, เอนิว ไวทัลล์ ที่ตอบโจทย์ลูกค้าในกลุ่มวัยนักศึกษาจนถึงวัยทำงานตอนต้นที่ต้องการผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่มีประสิทธิภาพ และครบขั้นตอนการบำรุง” นางศุภราภรณ์ เอสซี เปา กล่าว
ด้านมุมมองของเอวอน คอสเมติคส์ ประเทศไทย ต่อภาพรวมธุรกิจขายตรงของไทยในปี 56 และใน อนาคตนั้น นางศุภราภรณ์ เอสซี เปา แสดงความเห็นต่อประเด็นดังกล่าวว่า “ภาพรวมธุรกิจขายตรงในปี 56 จนถึงอีก 5 ปีข้างหน้า ยังคงสามารถเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง และยังเป็นธุรกิจที่สามารถตอบโจทย์ในทุกมิติของชีวิต ไม่ว่าจะเป็นการสร้างรายได้เสริม การพลิกวิกฤติให้เป็นโอกาสในสถานการณ์ที่ยากลำบาก การเปลี่ยนแปลงชีวิตให้ดียิ่งขึ้น และการต้องการเป็นเจ้าของธุรกิจหรือเป็นเจ้านายตนเอง เป็นต้น โดยแนวโน้มของพฤติกรรมผู้บริโภค ที่เปลี่ยนไปจะส่งผลให้ธุรกิจเติบโตอย่างต่อเนื่องเช่นกัน เพราะผู้บริโภคในปัจจุบันมักจะชอบค้นหาข้อมูลของสินค้า อย่างละเอียด และธุรกิจขายตรงนั้นสินค้าจะต้องเป็นสินค้าที่มีคุณภาพระดับสูงเพื่อการแข่งขันในตลาดและเน้นการนำเสนอด้วยการสาธิต ทำให้ผู้บริโภคเกิดการทดลองใช้และเชื่อมั่นในผลิตภัณฑ์ และเป็นการต่อยอดรวมถึงสร้างพลังให้กับธุรกิจขายตรงได้ดียิ่งขึ้น
“สำหรับการถดถอยทางเศรษฐกิจที่ผ่านมานั้นไม่ก่อให้เกิดผลกระทบต่อธุรกิจขายตรง แต่กลับเป็นการพลิกวิกฤติให้เป็นโอกาส โดยการเพิ่มจำนวนผู้จำหน่ายอิสระให้มองหาอาชีพที่จะสามารถสร้างรายได้และความมั่นคงให้กับชีวิตของพวกเขา และธุรกิจขายตรงก็เป็นอีกธุรกิจหนึ่งที่สามารถตอบโจทย์นี้ได้ ที่สำคัญการเติบโตของธุรกิจขายตรงจะยิ่งชัดเจนมากขึ้นในช่วงการก้าวเข้าสู่ประชาคมอาเซียน (AEC) เพราะสามารถเอื้อประโยชน์ให้กับธุรกิจขายตรงในการขยายเครือข่ายไปสู่ประเทศอาเซียนด้วย”
“นับเป็นเรื่องที่น่ายินดีที่ เอวอน ประเทศไทย มีนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ ได้ขึ้นตำแหน่ง ระดับเอ็คเซ็คคิวทีฟ 5-ไดมอนด์ (Ex-5 Diamond) เป็นคนแรก นั่นคือ คุณณพรัช สินพร นอกจากนี้ในเดือนเมษายนที่ผ่านมา เอวอน ประเทศไทย ได้พาคณะสุดยอดนักธุรกิจระดับ The Best of the Best ของประเทศจำนวน 8 ท่าน ซึ่งชนะการแข่งขัน Pearl of Asia โปรแกรมการแข่งขันในระดับภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก บินลัดฟ้าไปรับรางวัลที่ประเทศสิงคโปร์ พร้อมทัวร์สุดหรู ระดับเวิลด์คลาส โดยนักธุรกิจคนเก่งจาก เอวอน ประเทศไทย ทั้ง 8 ท่าน ถึงแม้จะเป็นเพียงผู้หญิงตัวเล็กๆ แต่ก็ได้สร้างผลงานและขยายธุรกิจอย่างยอดเยี่ยมตลอดปี 2555 และสามารถเอาชนะผู้เข้าแข่งขันทั้งหมดเกือบ 3,000 คน จากภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ซึ่งผู้ชนะจากประเทศไทยพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ภูมิใจที่ได้รับรางวัลเกียรติยศ บนเวทีระดับนานาชาตินี้ และที่สำคัญกว่านั้นพวกเธอภูมิใจอย่างมากที่สามารถสร้างรายได้และความมั่นคงให้กับครอบครัวด้วยตัวเอง ซึ่งนักธุรกิจที่ชนะการแข่งขันรายการ Pearl of Asia จากประเทศไทย จำนวน 8 ท่าน ได้แก่ 1) คุณหทัยภรณ์ บุญพรหม 2) คุณกมลาภรณ์ เมืองศรี 3) คุณอื้อภรกุญช์ แพบัววิทยาธร 4) คุณสิริพักตร์ เหล่ากิตติชัย 5) คุณจิราพัชร โนประโคน 6) คุณวันทนา ปานเกิด 7) คุณเบ็ญจวรรณ เกษมุติ 8) คุณอมรทิพย์ ทิพย์ประทุม” นางศุภราภรณ์ เอสซี เปา กล่าวสรุป