นายเชาว์พันธุ์ พันธุ์ทอง กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอ๊ดวานซ์ ไลฟ์ ประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงภาพรวมของอุตสาหกรรมประกันชีวิตในไตรมาสแรกที่ผ่านมาว่าเบี้ยรับรวมมีการขยายตัวสูงกว่า 20% ซึ่งเป็นการสะท้อนให้เห็นว่าแนวโน้มธุรกิจประกันชีวิตมีอัตราการเติบโตที่ดี และมีความแข็งแกร่ง ประชาชนมีความรู้ความเข้าใจ และให้ความสำคัญกับการซื้อประกันชีวิตอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งประชาชนยังสามารถเข้าถึงผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตผ่านช่องทางต่างๆ ที่มีความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น
“การขยายตัวของอุตสาหกรรมประกันชีวิตในช่วงไตรมาสแรกที่ผ่านมา ยังคงให้ความสำคัญกับการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า และการพัฒนาความร่วมมือทางธุรกิจ กับการขยายช่องทางการขายใหม่ๆเพื่อให้สามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น ขณะเดียวกันผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตได้ถูกนำมาใช้เป็นเครื่องมือหนึ่งในเรื่องการวางแผนการเงินส่วนบุคคล จึงเป็นเหตุให้ประชาชนให้ความสนใจมากขึ้น ประกอบกับผลิตภัณฑ์ด้านประกันชีวิตยังมีความหลากหลายและตอบสนองแต่ละบุคคลได้วางแผนการเงินเพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของตัวเองอีกด้วย” นายเชาว์พันธุ์ กล่าว
ทั้งนี้ในส่วนของผลการดำเนินงานของบริษัทฯ ในไตรมาสแรก 2556 ที่ผ่านมามีอัตราการเติบโต เช่นกัน เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมียอดเบี้ยรับรวมทั้งสิ้น 348 ล้านบาท เติบโตถึง 136% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่เบี้ยรับใหม่ปีแรกเติบโตสูงถึง 225 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 102 % เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน นอกจากนี้ในส่วนของเบี้ยรับปีต่อไปเติบโตถึง 123 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 60% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งเป็นอัตราการเติบโตที่โดดเด่นพุ่งล้ำหน้าอุตสาหกรรมทุกปี
สำหรับช่องทางการขายผ่าน Wealth Management มีอัตราการเติบโตถึง 272% และช่องทางการขายผ่านเทเลมาร์เก็ตติ้ง มีอัตราการเติบโตถึง 21% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าประกันชีวิตเข้ามามีบทบาทสำคัญและเป็นส่วนหนึ่งของการวางแผนการเงินในการสร้างความมั่งคั่ง นอกเหนือจากการคุ้มครอง และลดหย่อนภาษี อีกทั้งยังให้ผลตอบแทนอยู่ในระดับสูงเมื่อเทียบกับการฝากประจำอีกด้วย
“จากผลการดำเนินงานที่โดดเด่นในไตรมาสนี้ สืบเนื่องมาจากประชาชนมีความรู้ความเข้าใจในผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตมากขึ้น อีกทั้งการพัฒนาผลิตภัณฑ์ในช่วงต้นปีที่ผ่านมายังสามารถตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า
ได้ตรงจุดทั้งในเรื่องของผลตอบแทน ความคุ้มครอง รวมถึงการพัฒนาทีมที่ปรึกษาด้านการวางแผนการเงินที่มีศักยภาพมากขึ้นในการให้ความรู้ คำแนะนำและตอบสนองความต้องการในการให้บริการวางแผนการเงิน หรือ A Life Plan อย่างใกล้ชิดกับลูกค้าได้เป็นอย่างดี” นายเชาว์พันธุ์ กล่าว
อย่างไรก็ตามในส่วนของแผนการดำเนินงานในระยะต่อไป ในปีนี้ บริษัทตั้งเป้าหมายการเติบโตเบี้ยรับรวมไว้ที่ 2,500 ล้านบาท หรือเติบโตเพิ่มขึ้น 100% จากปี 2555 ที่มีเบี้ยรับรวมอยู่ที่ 1,248 ล้านบาท ส่วนนโยบายการลงทุน จะเน้นสัดส่วนของนโยบายการลงทุนเหมือนในปีที่ผ่านมา ที่มีนโยบายการลงทุนในสินทรัพย์ที่เหมาะสม และสอดคล้องกับภาระผูกพันที่มีอยู่ โดยจะเน้นสัดส่วนการลงทุน 75% ในพันธบัตรรัฐบาล และตราสารหนี้ภาครัฐ กองทุนรวม และหุ้นกู้เอกชนที่มีเครดิตเรทติ้งที่ดี เงินกู้กรมธรรณ์ และ เงินฝาก เนื่องจากมองว่าการลงทุนประเภทนี้ให้ผลตอบแทนค่อนข้างมั่นคง อีกทั้งบริษัทจะเน้นการพัฒนาช่องทางการให้บริการ ผลิตภัณฑ์ ผลตอบแทน เจาะกลุ่มไลฟ์สไตล์อีกด้วย