คำแถลงดังกล่าวเป็นการอ้างถึงสมาชิกและเครือญาติของครอบครัวซิงห์ซึ่งเป็นอดีตผู้ถือหุ้นของแรนแบ็กซี่ อย่างชัดเจน
ทั้งนี้ ข้อกล่าวหาของไดอิจิ ซังเกียว ในเรื่องการปกปิดและบิดเบือนข้อมูลไม่เป็นความจริงและไม่มีมูล
ไดอิจิ ซังเกียว ได้เข้าซื้อผลประโยชน์ในแรนแบ็กซีจากตระกูลซิงห์ ในปี 2551 หลังจากที่ผ่านกระบวนการเจรจาอย่างยาวนานตามขั้นตอนการทำข้อตกลงที่สำคัญ และหลังจากที่ได้สอบทานธุรกิจอย่างเต็มรูปแบบเกี่ยวกับกิจการของแรนแบ็กซี่ โดยตัวแทนเจรจาของไดอิจิ ซังเกียว นำโดยนายทาคาชิ โชดะ ซึ่งเป็นตัวแทนคณะกรรมการและประธานคนปัจจุบันของไดอิจิ ซังเกียว และดร.สึโตมุ อูเนะ กรรมการผู้บริหาร ซึ่งปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานของแรนแบ็กซี บุคคลทั้งสองและไดอิจิ ซังเกียว ได้รับคำปรึกษาในด้านกฎหมาย
ในระหว่างกระบวนการเจรจา ไดอิจิ ซังเกียว และตัวแทนของบริษัทได้รับทราบการตรวจสอบโดยกระทรวงยุติธรรมของสหรัฐและสำนักงานอาหารและยาของสหรัฐ นอกจากนี้ คณะบุคคลดังกล่าวยังสามารถเข้าถึงเอกสารที่แรนแบ็กซี่ครอบครองในระหว่างการตรวจสอบโดยกระทรวงยุติธรรมของสหรัฐ และสำนักงานอาหารและยาของสหรัฐ ได้อย่างเต็มที่
ไดอิจิ ซังเกียว ได้ทำข้อตกลงหลังจากผลการตรวจสอบสถานะทางธุรกิจเป็นที่น่าพอใจ พร้อมกับรับทราบการตรวจสอบโดยกระทรวงยุติธรรมของสหรัฐและสำนักงานอาหารและยาของสหรัฐ และภายใต้คำปรึกษาในเรื่องกฎหมาย
นอกจากนี้ มัลวินเดอร์ (Malvinder) ยังตกลงทำงานให้กับแรนแบ็กซี่ต่อไปอีกเป็นระยะเวลา 5 ปีตามคำร้องขอของไดอิจิ ซังเกียว โดยมัลวินเดอร์ได้ลาออกจากจากแรนแบ็กซี่ในช่วงกลางปี 2552 ในขณะที่ดร.สึโตมุ อูเนะ ได้มีหนังสือแสดงความขอบคุณที่เขาและตระกูลซิงห์ได้ให้ความช่วยเหลือแก่แรนแบ็กซี่ โดยดร.อูเนะได้ระบุในจดหมายฉบับดังกล่าวดังข้อความต่อไปนี้:
“ในนามของสมาชิกคณะกรรมการบริหารของบริษัทแรนแบ็กซี่ ลาบอราทอรีส์ จำกัด เราขอขอบคุณอย่างยิ่งสำหรับความช่วยเหลือของท่านและครอบครัว ซึ่งมีคุณค่าอย่างมากต่อแรนแบ็กซี่ ภายใต้การนำของครอบครัวของท่านนั้น แรนแบ็กซี่ได้เติบโตจากบริษัทเวชภัณฑ์ขนาดเล็กที่จัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ยาให้กับชาวอินเดียอย่างยาวนานในช่วงศตวรรษที่ผ่านมา จนปัจจุบันกลายเป็นบริษัทข้ามชาติขนาดใหญ่ซึ่งมียอดขายหลายพันล้านดอลลาร์ และมีลูกค้าในทุกทวีปและสามารถแข่งขันในระดับโลกด้วยสิ่งที่ดีที่สุดในอุตสาหกรรม”
ในช่วงปลายเดือนเมษายนที่ผ่านมา มัลวินเดอร์ได้รับคำเชิญจากแรนแบ็กซี่เพื่อเข้าร่วมงานการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ของแรนแบ็กซี่ ในขณะที่ดร.อูเนะได้พบปะกับมัลวินเดอร์ในงานเลี้ยงอาหารเที่ยง โดยไม่มีสัญญาณจากดร.อูเนะหรือตัวแทนของแรนแบ็กซีหรือไดอิจิ ซังเกียวในขณะนั้นว่า มีการปิดบังหรือบิดเบือนข้อมูล
ข้อเสนอในช่วงต่อมา ซึ่งมีขึ้นหลายปีภายหลังการรับทราบข้อมูลว่ามีการปกปิดและ/หรือบิดเบือนข้อมูลต่อไดอิจิ ซังเกียวนั้น ไม่เป็นความจริงและมีจุดประสงค์เพื่อหักเหความสนใจไปจากความผิดพลาดของไดอิจิ ซังเกียว ในเรื่องการป้องกันตนเองและผู้ถือหุ้นของบริษัทในระหว่างการเจรจาและทำสัญญาร่วมกับตระกูลซิงห์ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นของแรนแบ็กซี่
รายงานเมื่อเร็วๆนี้ระบุว่า แรนแบ็กซี่ได้บรรลุข้อตกลงในการจ่ายค่าปรับให้กับกระทรวงยุติธรรมของสหรัฐ และสำนักงานอาหารและยาของสหรัฐ หลังจากที่ได้มีการสอบสวน และภายใต้ข้อตกลงดังกล่าวนั้น แรนแบ็กซี่ตกลงที่จะจ่ายค่าปรับเป็นเงินจำนวนมากให้กับกระทรวงยุติธรรมของสหรัฐ และสำนักงานอาหารและยาของสหรัฐ การตัดสินใจจ่ายค่าปรับครั้งนี้เป็นการดำเนินการโดยแรนแบ็กซี่ และไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับตระกูลซิงห์ซึ่งไม่ได้รับคำปรึกษาใดๆจากไดอิจิ ซังเกียว/แรนแบ็กซี่
ติดต่อ:
Raghu Kochar
อีเมล์: [email protected]
มือถือ : +919811617256
แหล่งข่าว: ฝ่ายประชาสัมพันธ์ของครอบครัวซิงห์