อินเดียเป็นประเทศที่มีประชากรมากที่สุดเป็นอันดับสองรองจากจีน (ประมาณ 1,240 ล้านคน) แม้จะเป็นประเทศที่ประชาชนส่วนใหญ่ไม่ได้ร่ำรวยแต่ด้วยวัฒนธรรมที่มีความผูกพันกับทองคำทำให้อินเดียมีสัดส่วนในการบริโภคทองคำสูงที่สุดในโลก และการอ่อนตัวลงของราคาทองคำในช่วงตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมาก็เป็นการกระตุ้นการบริโภคทองคำในอินเดียได้เป็นอย่างดี โดยไตรมาสแรกของปีการบริโภคทองคำในภาคเครื่องประดับของอินเดียโตขึ้น 27% (year-on-year) ขณะที่จีนเติบโต 20% (year-on-year) สะท้อนแรงซื้อที่กลับมา ซึ่งจากการรายงาน “Gold Demand Trends — First quarter 2013” ของ World Gold Council กล่าวว่ามีการสะสมเข้ามาตั้งแต่ช่วงเดือนกุมภาพันธ์ โดยเป็นการซื้อเพื่อเตรียมก่อนช่วงเทศกาลแต่งงานในไตรมาส 2 ขณะที่การซื้อทองคำเพื่อการลงทุนในอินเดียโตขึ้นถึง 52% ในไตรมาสแรก จะเห็นได้ว่าความต้องการทองคำของอินเดียนั้นมีการเติบโตขึ้นตามการผกผันของราคาทองคำที่ต่ำลง นอกจากนี้ประเด็นเรื่องการซื้อตามเทศกาลก็ถือว่ามีผลอย่างมากต่อพฤติกรรมของคนอินเดีย
เทศกาลสำคัญที่มีความเกี่ยวข้องกับการซื้อทองคำที่น่าสนใจมีอยู่สองเทศกาลครับ เทศกาลแรกคือเทศกาลแต่งงานที่ชาวอินเดียนิยมให้สินสอดกันเป็นทองคำรูปพรรณ นอกจากนี้ยังมีการใช้เป็นเครื่องประดับสำหรับเจ้าบ่าวเจ้าสาวด้วยยอดการแต่งงานปีละหลายล้านคู่ทำให้ความต้องการทองคำมีจำนวนมาก อีกเทศกาลคือเทศกาลดีวาลี (Diwali) หรือเทศกาลแห่งแสงที่ชาวอินเดียนิยมซื้อของกำนัลให้แก่คนในครอบครัว ซึ่งมักจะเป็นอัญมณีและเครื่องประดับทำให้มีความต้องการทองคำเข้ามาในช่วงดังกล่าวเช่นกัน โดยเทศกาลดีวาลี (Diwali) จะมีในช่วงเดือนตุลาคม — พฤศจิกายน ของทุกปี ซึ่งทั้งสองเทศกาลที่กล่าวมาก็มักจะมีการนำมาในการพูดถึงประกอบการวิเคราะห์ทิศทางราคาทองคำใกล้เคียงกับเทศกาลตรุษจีนนั่นเอง
แม้ว่าทุกวันนี้ทิศทางราคาทองคำไม่ได้ถูกกำหนดด้วย Demand — Supply ที่เกิดในตัว physical gold มากนักเนื่องจากการซื้อขายในตลาดล่วงหน้ามีปริมาณการซื้อขายมากกว่ามาก แต่การเข้าใจพฤติกรรมการบริโภคของชาติที่มีการซื้อขายทองคำจำนวนมากก็น่าจะเป็นประโยชน์ต่อผู้ที่อยู่ในอุตสาหกรรมทองคำรวมถึงผู้ลงทุน
โดย กมลธัญ พรไพศาลวิจิต
ผู้จัดการฝ่ายวิเคราะห์ บริษัท จีที เวลธ์ แมเนจเมนท์ จำกัด