ในงานสัมมนา “ยุทธศาสตร์คงความเป็นหนึ่ง อุตสาหกรรมยางไทย” ที่ทีเอ็มบีร่วมกับ กรมศุลกากร และสำนักงานกองทุนสงเคราะห์การทำสวนยาง(สกย.) เพื่อเปิดตัวระบบการชำระเงินผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ หรือ ทีเอ็มบี ซิงเกิ้ล วินโดว์ ที่หาดใหญ่ เมื่อเร็วๆนี้ นายบุญทักษ์ หวังเจริญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ทีเอ็มบี กล่าวว่า ยางพาราเป็นผลผลิตการเกษตรอันดับ 1 ของไทยและเป็นสินค้าสำคัญระดับโลก ซึ่งขณะนี้ไทยอยู่ในฐานะผู้ผลิตรายใหญ่ที่สุดด้วยสัดส่วนผลผลิตมากกว่า 1 ใน 3 ของโลก และสร้างรายได้จากเงินตราต่างประเทศมากกว่า 2.7 แสนล้านบาท ในปี 2555 ไทยส่งออกผลผลิตกว่าร้อยละ 75 ของผลผลิตทั้งหมด
ด้วยเหตุนี้ทีเอ็มบี ได้ให้ความสำคัญแก่อุตสาหกรรมยางพารา โดยตอกย้ำจุดยืนสนับสนุนผู้ประกอบการยางพารา ด้วยการศึกษาและทำความเข้าใจในอุตสาหกรรมนี้อย่างครบวงจร และนโยบายของทีเอ็มบีที่มุ่งสนับสนุนผู้ประกอบการด้วยบริการธุรกรรมทางการเงินที่ครบวงจร (Transactional Banking) จึงได้พัฒนาระบบทีเอ็มบี ซิงเกิ้ล วินโดว์ (TMB Single Window) ซึ่งเป็นระบบชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์ ที่สอดคล้องกับโครงการ National Single Window ของกรมศุลกากร ซึ่งสามารถช่วยเพิ่มประสิทธิภาพกระบวนการนำเข้า-ส่งออกให้กับผู้ประกอบการ ด้วยการเปลี่ยนขั้นตอนการจัดเตรียมเอกสารชำระเงินในรูปกระดาษให้เข้าสู่ระบบเอกสารอิเล็กทรอนิกส์
(e-Document) และเปลี่ยนขั้นตอนการชำระเงินด้วยเงินสดหรือการซื้อแคชเชียร์เช็ค เป็นการชำระเงินผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ (e-Payment) โดยทีเอ็มบีเป็นธนาคารพาณิชย์แห่งแรกที่ทำให้ผู้ประกอบการสามารถจัดการทุกขั้นตอนได้ในระบบเดียวกัน ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดการต้นทุนและทำธุรกรรมทางการเงินได้สะดวกยิ่งขึ้น และเตรียมพร้อมให้สอดรับกับระบบอาเซียน ซิงเกิ้ล วินโดว์ (ASEAN Single Window) ต่อไป
ความร่วมมือในการพัฒนาระบบทีเอ็มบี ซิงเกิ้ล วินโดว์ กับ e-Cess ของ สกย.ครั้งนี้ เป็นเพียงส่วนหนึ่งของโครงสร้างระบบทั้งหมด มีเป้าหมายที่จะเชื่อมโยงกิจกรรมต่างๆ สำหรับการทำธุรกิจระหว่างประเทศเข้าด้วยกัน เพื่อให้พร้อมสำหรับการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนในปี 2558 นี้