โดยที่ผ่านมา ความเป็นเจ้าแห่งนวัตกรรมของราโด โดยเฉพาะในเรื่องวัสดุศาสตร์ ไล่เรียงกันให้เห็นอย่างต่อเนื่อง อย่างเช่น เป็นเจ้าแรกที่ใช้วัสดุฮาร์ดเมทอลประกอบกับกระจกแซฟไฟร์คริสตัล ที่สามารถเพิ่มความทนทานในการขีดข่วนให้นาฬิกาอย่างมหาศาล ต่อมามีการสร้างนาฬิกาด้วยวัสดุไฮเทคเซรามิก เรือนบางที่สุดในโลก ด้วยความหนาเพียง 4.9 มิลลิเมตร ในขณะที่ตัวเครื่องนาฬิกาบางเพียง 1 มิลลิเมตร จนกระทั่งสร้างวัสดุใหม่ให้วงการนาฬิกา กับวัสดุเซรามอส ซึ่งนำไฮเทคเซรามิกซึ่งเป็นไทเทเนียมคาร์ไบด์ ไปผสมกับอัลลอยโลหะ ที่นำมาซึ่งคุณสมบัติของความสบายและความทนทาน เข้าด้วยกัน
และราโด ยังคงไม่หยุดนิ่งกับความเป็นกูรูด้านนวัตกรรมนาฬิกา ล่าสุด ได้ทำการปฏิวัติวงการนาฬิกากันอีกครั้งกับการเปิดตัวคอลเลคชั่น นาฬิกา ราโด ไฮเปอร์โครม ที่นำมาซึ่งความลงตัวของดีไซน์และอินโนเวชั่นอย่างสมบูรณ์แบบ ที่แม้ดีไซน์จะเบาสบาย สวยงาม แต่ยังมาพร้อมกับอินโนเวชั่น ที่มอบความทนทานให้เป็นอย่างสูงอีกด้วย โดยเฉพาะรุ่นไฮไลท์ของคอลเลคชั่น คือ ราโด ไฮเปอร์โครม แบบจับเวลาเครื่องอัตโนมัติ ตัวเรือนไฮเทคเซรามิกสีดำ หน้าปัดขนาด 45 มิลลิเมตร ชิ้นงานที่เป็นความก้าวล้ำสู่ขั้นใหม่แห่งเทคโนโลยี ด้วยการใช้เทคนิคการฉีดขึ้นรูป ที่มีความสลับซับซ้อนในการผลิตตัวเรือนแบบชิ้นเดียวทั้ง ตัวเรือนที่เรียกว่า “โมโนบล็อก” ครั้งแรกของเรือนเวลาไฮเทคเซรามิก ซึ่งการผลิตแบบโมโนบล็อก จะแตกต่างจากตัวเรือนอื่นๆ โดยตัวเรือนแบบโมโนบล็อกนี้ สามารถผสานขาตัวเรือนและประกับด้านข้างเข้าไว้รวมเป็นโครงสร้างหนึ่งเดียวกัน เพื่อความแข็งแกร่งของนาฬิกา ทั้งนี้วัสดุไฮเทคเซรามิกมีค่าความแข็งอยู่สูงถึง1,250 วิคเกอร์ ในขณะสตีลโดยทั่วไป มีค่าความแข็งเฉลี่ยเพียง 225 วิคเกอร์ ทำให้ ราโด ไฮเปอร์โครม แบบจับเวลาเครื่องอัตโนมัติ จึงเป็นส่วนผสมที่ลงตัวระหว่างตำนานความคลาสสิกตามแบบฉบับราโด กับวัสดุไฮเทคเซรามิกแห่งอนาคต ด้วยจุดเด่นคือ มีความพิเศษในเรื่องความทนทานต่อการขีดข่วนสูงมาก ไม่ระคายเคืองต่อผิวหนัง น้ำหนักเบา และยังสามารถปรับอุณหภูมิเข้ากับผิวของผู้สวมใส่ได้อีกด้วย
นอกจากนี้แล้ว ภายในงานได้จัดโชว์ Rado HyperChrome โดยนำเสนอที่สุดของนาฬิกาแห่งนวัตกรรมกับคอลเลคชั่น ราโด ไฮเปอร์โครม หน้าบทใหม่ของความก้าวล้ำแห่งการพัฒนาวัสดุสำหรับอนาคต ภายใต้ระบบ แสง สีและเสียงที่ตื่นตา ตื่นใจ นำโดย บอย-ปกรณ์ ฉัตรบริรักษ์ ร่วมกับนายแบบและนางแบบอาชีพ และ โชว์เคส “ราโด ไฮเปอร์โครม” อีกมากมาย รวมถึงแบบลิมิเต็ด เอดิชั่นแกลมสเลมหน้าปัดสีทองขัดเงาที่ผลิตเพียง 333 เรือนทั่วโลก
เจ้าแห่งนวัตกรรมนาฬิกาวันนี้ ต้องมีชื่อ “ราโด” ขึ้นอยู่อันดับต้นๆ ของวงการ สมดั่งปรัชญาของผู้ก่อตั้งราโดที่ว่า “ถ้าเราสามารถจินตนาการได้ เราจะทำได้ และถ้าเราทำได้ เราจะทำ” นั่นเอง
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม ได้ที่
บริษัท แม็กซิม่า คอนซัลแตนท์ จำกัด โทร 02-619-0429-30
สุจินดา, แสงนภา, ปนัดดา