ครม. เห็นชอบให้ไทยเป็นภาคีอนุสัญญามรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้

พุธ ๐๕ มิถุนายน ๒๐๑๓ ๑๕:๐๒
นายสนธยา คุณปลื้ม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม(วธ.) กล่าวว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้ประเทศไทยเข้าเป็นภาคีอนุสัญญา ว่าด้วยการสงวนรักษามรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ (Convention for the Safeguarding Intangible Cultural Heritage) ขององค์การศึกษาวิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ หรือยูเนสโก (UNESCO) ตามที่กระทรวงวัฒนธรรมเสนอ ซึ่งอนุสัญญานี้จะเป็นเครื่องมือทางกฎหมายระหว่างประเทศ ในการปกป้องคุ้มครองมรดกทางวัฒนธรรมในส่วนที่จับต้องไม่ได้ทั้งในระดับชาติ ระดับภูมิภาค และระดับโลก รวมทั้งเป็นการเคารพความหลากหลายทางวัฒนธรรมของชุมชน กลุ่มชน และปัจเจกบุคคล ทั้งนี้ กระทรวงวัฒนธรรมจะดำเนินการการเข้าเป็นภาคีอนุสัญญาโดยเสนอเข้าสู่การพิจารณาของรัฐสภา ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 190 วรรคสอง ซึ่งหลังจากที่ได้รับการเห็นชอบจากรัฐสภาแล้ว กระทรวงวัฒนธรรมจะดำเนินการยื่นหนังสือถึงยูเนสโกเพื่อเข้าเป็นภาคีอนุสัญญา ในการประชุมสมัยสามัญของยูเนสโก ครั้งที่ 37 ในเดือนพฤศจิกายนนี้ ที่ประเทศกัมพูชา

นายสนธยา กล่าวอีกว่า การเข้าเป็นภาคีในอนุสัญญาฯ ดังกล่าว เป็นการแสดงเจตจำนงทางนโยบายของไทยในการเข้าไปมีส่วนร่วมในเวทีระหว่างประเทศ เพื่อปกป้องคุ้มครองมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ที่มีอยู่ในอาณาเขตประเทศไทย ขณะนี้ มีประเทศที่เข้าร่วมเป็นภาคีอนุสัญญาแล้ว 153 ประเทศ โดยมีประเทศในกลุ่มสมาชิกอาเซียนเข้าร่วมแล้ว 6 ประเทศ ได้แก่ บรูไน กัมพูชา อินโดนีเซีย ลาว ฟิลิปปินส์ และเวียดนาม สำหรับอนุสัญญานี้จะปกป้องคุ้มครองมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้รวม 5 สาขา ได้แก่ 1.ประเพณีและการแสดงออกของมุขปาฐะ รวมถึงภาษาในฐานะพาหะของมรดกภูมิปัญญาของวัฒนธรรม 2.ศิลปะการแสดง 3.แนวปฏิบัติทางสังคม พิธีกรรม และงานเทศกาล 4.ความรู้และแนวทางปฏิบัติเกี่ยวกับธรรมชาติและจักรวาล และ5. งานช่างฝีมือดั้งเดิม ทั้งนี้ กระทรวงวัฒนธรรมโดยกรมส่งเสริมวัฒนธรรม ได้เตรียมการจัดตั้งสำนักมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม เป็นหน่วยดำเนินงาน และจัดทำฐานข้อมูลมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ ซึ่งดำเนินการมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2548 ปัจจุบันมีคลังข้อมูล ด้านศิลปะการแสดง 350 เรื่อง ด้านงานช่างฝีมือดั้งเดิม 500 เรื่อง และด้านมุขปาฐะ 40 เรื่อง และได้มีการประกาศขึ้นทะเบียนมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมของชาติไปแล้ว ตั้งแต่ปี 2552 — 2555 จำนวน 150 รายการ อาทิ โขน โนรา ซิ่นตีนจก กริช และเครื่องจักสานย่านลิเภา เป็นต้น

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๐๙:๓๑ ไทยเครดิตรายงานผลประกอบการปี 2567 ทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 3,624.0 ล้านบาท
๐๙:๔๑ หมอหมีขอเม้าท์! เผยสูตรลับสุขภาพดีด้วยตัวเอง ตามแบบฉบับ เม้าท์กับหมอหมี
๐๙:๑๖ แอ็กซอลตา ประกาศเทรนด์สีรถยนต์ปี 2025 ได้แก่ สีเอเวอร์กรีน สปรินท์ (Evergreen Sprint)
๐๙:๓๔ เกาะติดเลือกตั้ง อบจ. 68 กับไทยพีบีเอส เสียงท้องถิ่นชี้อนาคตประเทศไทย
๐๙:๑๙ น่ารักจนใจเจ็บ! Harupiii อินฟลูญี่ปุ่นรักไทย เปลี่ยนวลีดัง ทำไมทำไม สู่เพลงใหม่ยอดวิวถล่มทลาย
๐๙:๓๔ การแข่งขัน MUICT ENVI Mahidol Hackathon 2025 ภายใต้หัวข้อ : Digital Innovation for Carbon Neutrality Society
๐๙:๒๔ จากภูมิปัญญาพื้นบ้านสู่สินค้าส่งออก เครื่องเคลือบจากอำเภออี้หนาน มณฑลซานตง โด่งดังไกลถึงต่างแดน
๐๙:๓๘ ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย ประกาศกำไรสุทธิ ปี 2567 จำนวน 2,852.1 ล้านบาท เติบโต 77.7%
๐๙:๕๔ RBF สานพลังปลูกป่าชายเลน ศูนย์ศึกษาธรรมชาติกองทัพบกบางปู ร่วมแก้วิกฤตโลกร้อน ในโครงการ RBF GREEN VOLUNTEER ปีที่
๐๙:๐๖ ต้อนรับความมั่งคั่งและโชคลาภ พร้อมเฉลิมฉลองเทศกาลตรุษจีนที่โรงแรม อินเตอร์คอนติเนนตัล กรุงเทพฯ