นายวนา พูลผล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บลจ. ยูโอบี (ไทย) จำกัด ได้กล่าวว่า “จากปัจจัยกดดันทั้งในประเทศและต่างประเทศ ส่งผลให้ตลาดหุ้นไทยมีความผันผวนในระยะสั้น แต่ในระยะยาวยังเห็นปัจจัยสนับสนุน คาดการณ์ SET Index มีโอกาสขึ้นไปแตะระดับสูงสุดในปีนี้ ที่ 1,700 จุด การเสนอขายกองทุนหุ้นไทยUOBT14 ในช่วงนี้ น่าจะตอบโจทย์นักลงทุนที่ต้องการได้รับผลตอบแทนจากการลงทุนหุ้นไทย ซึ่งบริหารเงินลงทุนโดยให้ผู้จัดการที่มีความเชี่ยวชาญ”
ตลาดหุ้นไทยในสัปดาห์ที่ผ่านมา มีปัจจัยกดดันจากต่างประเทศคืออัตราผลตอบแทนพันธบัตรทั้งสหรัฐฯ และญี่ปุ่นที่ปรับตัวสูงขึ้นตามแนวโน้มเศรษฐกิจที่ดีขึ้น ทำให้นักลงทุนคาดการณ์ว่ามาตรการ QE อาจยุติเร็วกว่าที่กำหนดไว้ ส่วนปัจจัยภายในประเทศ ตัวเลขส่งออกของไทยขยายตัวต่ำกว่าที่ตลาดคาดไว้ ในขณะที่ กนง. ยังไม่มีนโยบายที่ชัดเจนต่อการจัดการค่าเงินบาท ด้วยแรงกดดันดังกล่าวจึงเป็นปัจจัยลบต่อตลาดหุ้นไทยในขณะนี้
แม้จะมีปัจจัยกดดันตลาดอย่างต่อเนื่อง บลจ.ยูโอบี มีมุมมองว่าขณะนี้เป็นจังหวะที่ดีต่อการเข้าลงทุนในตลาดหุ้นไทยเนื่องจากยังเห็นสัญญาณที่ดีจากการที่ตลาดหุ้นไทยยังคงได้รับความสนใจเป็นอย่างดีจากนักลงทุนต่างชาติ รวมถึงแนวโน้มเศรษฐกิจไทยที่ยังมีแนวโน้มเติบโตได้ดีในปี 2556-2557 โดยคาดว่าจะเติบโตได้ที่ระดับ 4.7-5.0% นำโดยภาคการบริโภคในประเทศที่ยังคงแข็งแกร่ง และคาดการณ์กำไรบริษัทจดทะเบียนในตลาดหุ้นไทยจะยังคงเติบโตได้ในระดับ 25% ในปี 2556 และ 12% ในปี 2557 จึงถือเป็นหนึ่งในตลาดหุ้นที่มีแนวโน้มการเติบโตทางกำไรสูงสุดในเอเชีย และกลุ่มประเทศเกิดใหม่ อีกทั้งธนาคารแห่งประเทศไทยยังคงมาตรการผ่อนคลายทางการเงินโดยการคงดอกเบี้ยในระดับต่ำเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งถือเป็นปัจจัยสนับสนุนหลักในการลงทุนในตลาดหุ้นไทย
นายวนา พูลผล ได้กล่าวเพิ่มเติมในตอนท้ายว่า “UOBT14 จะเป็นอีกหนึ่งกองทุนที่นักลงทุนสามารถลงทุนเพื่อเป็นทางเลือกรับผลตอบแทนเป้าหมายในระยะเวลาที่กำหนด ซึ่งแน่นอนว่า เรายังคงมุ่งมั่นที่จะบริหารกองทุน และสรรหาผลิตภัณฑ์การลงทุนให้เหมาะสมกับทุกสภาวะตลาด”
โดยท่านสามารถปรึกษาการลงทุนได้ที่ธนาคารยูโอบี ผู้สนับสนุนการขายหรือรับซื้อคืนอื่นๆ ที่บลจ. แต่งตั้ง หรือ งานบริการผู้ถือหน่วยของ บลจ. ยูโอบี (ไทย) โทร. 0-2676-7200 อีเมลล์ [email protected]
บริษัทจัดการจะรับซื้อคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติให้แก่ผู้ถือหน่วยเท่ากับมูลค่าทรัพย์สินคงเหลือทั้งหมด หลังจากหักค่าธรรมเนียม และค่าใช้จ่ายใดๆ แล้ว หากเกิดเหตุการณ์ตามเงื่อนไขดังต่อไปนี้
(1) มูลค่าหน่วยลงทุนมากกว่าหรือเท่ากับ 10.80 บาทต่อหน่วย เป็นเวลา 3 วันทำการติดต่อกัน และ
(2) มูลค่าหน่วยลงทุนที่จะรับซื้อคืนอัตโนมัติให้แก่ผู้ถือหน่วยลงทุน ณ วันทำการใดถัดจากเหตุการณ์ตามเงื่อนไข (1) ไม่ต่ำกว่า 10.70 บาทต่อหน่วย และทรัพย์สินของกองทุนเป็นเงินสดหรือเงินฝากทั้งหมด โดยกองทุนจะทำการรับซื้อคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติภายใน 5 วันทำการนับจากวันที่เกิดเหตุการณ์ (1) ดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม หากภายในระยะเวลา 1 ปี นับจากวันจดทะเบียน ไม่เกิดเหตุการณ์ที่มูลค่าหน่วยลงทุนเพิ่มขึ้นจนเป็นเหตุให้เลิกกองทุนตามเงื่อนไขข้างต้น บริษัทจัดการจะเปิดให้มีการรับซื้อคืนหน่วยลงทุนตามข้อ 7.3 (2) (ตามรายละเอียดที่ระบุในหนังสือชี้ชวน) โดยเริ่มตั้งแต่วันทำการวันแรกถัดจากวันครบระยะเวลา 1 ปี เป็นต้นไป โดยผู้ถือหน่วยลงทุนสามารถขายคืนหน่วยลงทุนได้ที่บริษัทจัดการ และ/หรือ ผู้สนับสนุนการขายและรับซื้อคืน (ถ้ามี) ได้ทุกวันทำการในเวลาทำการ ตั้งแต่เวลาเปิดทำการของธนาคารพาณิชย์ไทยจนถึงเวลา 15.30 น.