“ตงฟง มอเตอร์ส” ขึ้นแท่นครองผู้นำตลาดรถพาณิชย์จีนในเมืองไทย พร้อมเดินหน้าขยายฐานการผลิตรองรับ AEC

พฤหัส ๑๓ มิถุนายน ๒๐๑๓ ๑๔:๔๖
นายพิทยา ธนาดํารงศักดิ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ตงฟง มอเตอร์ส (ประเทศไทย) ผู้นำตลาดรถมินิทรั๊คค่ายแดนมังกร ที่ครองตำแหน่งอับดับหนึ่งรถยนต์พาณิชย์จีนที่ถือว่าเป็นขวัญใจของชาว SMEs ไทย เผยไม่หวั่นคู่แข่งแบรนด์รถจีนค่ายใหม่ ที่กำลังจะเข้ามาทำตลาดในเมืองไทย เชื่อมั่นในความเป็นผู้นำด้านการทำตลาดรถจีนในเมืองไทยที่ประสบความสำเร็จอย่างต่อเนื่อง จากยอดขายที่เติบโตอย่างก้าวกระโดดตั้งแต่ปี พ.ศ. 2551 พร้อมเผยการเตรียมแผนขยายฐานโรงงานการผลิต รับการก้าวสู่ AEC อย่างมีศักยภาพ

“ด้วยการขยายตัวที่สูงขึ้นของอุตสาหกรรมยานยนต์จีนจนเกิดภาวะสินค้าล้นตลาด ทำให้รถยนต์จีนของแบรนด์ต่างๆเริ่มขยายการทำตลาดนอกประเทศมากขึ้น โดยเฉพาะประเทศไทย ที่จัดว่าเป็นอันดับ 1 ของอุตสาหกรรมรถยนต์ในอาเซียน และยังเป็นฐานการผลิตให้กับรถยนต์ชั้นนำของโลกหลายยี่ห้อ โดยมีกำลังผลิตอยู่ที่ 2,500,000 คัน ถือว่าเป็นที่ 5 ของเอเชีย และเป็นที่ 9 ของโลก ทั้งยังเกี่ยวข้องกับอะไหล่ชิ้นส่วนต่างๆมากมาย เฉพาะชิ้นส่วนที่สำคัญมีถึง 3,000 ชิ้นส่วน และมีอะไหล่ต่างๆ อีกถึง 30,000 ชิ้นส่วน จึงทำให้ประเทศไทยกลายเป็นตลาดยุทธศาสตร์สำคัญของประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือ AEC จึงเห็นได้ว่ามีค่ายรถจีนใหม่ๆ หันมาสร้างสีสันในแวดวงยานยนต์ไทยอย่างมาก” นายพิทยา กล่าว

“อย่างไรก็ตาม จากที่ ตงฟง มอเตอร์ส (ประเทศไทย) ได้ทำตลาดรถมินิทรั๊คในเมืองไทยมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2551 จนถึงปัจจุบัน และประสบความสำเร็จด้วยการมียอดขายที่เติบโต 50% ต่อเนื่องกันมาทุกปีนั้น มองว่า รถจีนที่จะเข้ามาทำตลาดในเมืองไทยไม่ได้เป็นคู่แข่งกับ ตงฟง มอเตอร์ส เนื่องจากเป็นรถคนละกลุ่ม แต่ทางบริษัทฯกลับมองว่าเป็นโอกาสอันดีกับตงฟง ที่มีแบรนด์รถอื่นๆจากจีนเข้ามามากขึ้น เพราะส่งผลให้ตลาดรถจีนในเมืองไทยเป็นที่น่าสนใจและยังเป็นทางเลือกใหม่ของลูกค้าอีกด้วย จากการทำตลาดรถจีนในเมืองไทยมาหลายปีทำให้เราเข้าใจถึงกลุ่มเป้าหมายชัดเจนมากขึ้นว่า ลูกค้าหันมาให้ความสำคัญในเรื่องราคาควบคู่คุณภาพ ทำให้เรามองเห็นทิศทางการตลาดของการปรับตัวเพื่อเข้าสู่ AEC อย่างมีประสิทธิภาพ และเหฌนถึงกลไกการเติบโตด้านนวัตกรรมของโลกรถยนต์ที่พัฒนาไปเรื่อยๆ แน่นอนว่ารถจีนกำลังตอบโจทย์รถยนต์ประเภทeconomic ที่ประหยัดทั้งในเรื่องต้นทุน และประหยัดพลังงาน”

นายพิทยา ผู้กุมบังเหียนตลาดรถพาณิชย์จีนในไทย ยังกล่าวเสริมอีกว่า “สำหรับแผนการก้าวเข้าสู่ AEC ในปี 2558 บริษัทฯ ได้เตรียมขยายฐานกำลังผลิตของโรงงานผลิตและประกอบชิ้นส่วนรถยนต์ ที่ตั้งอยู่ที่ นิคมอุตสาหกรรมเกตเวย์ จ.ฉะเชิงเทรา โดยเตรียมการขยายในเฟสที่ 2 ที่จะมีการลงทุนเพิ่มขึ้นถึง 2 เท่าจากเฟสที่ 1 ทั้งในเรื่องเครื่องจักรที่ทันสมัย line การผลิตใหม่ๆ พร้อมกำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้น เพื่อรองรับการเป็นฐานการผลิตส่งออกรถยนต์ในภาคพื้นเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และรองรับตลาดทั้งในประเทศที่โตขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นฐานการผลิตส่งออกรถยนต์ในภาคพื้นเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และรองรับตลาดทั้งในประเทศอีกด้วย โดยตั้งเป้าหมายการผลิตที่ 10,000 คันต่อปี ในปี 2015 ทั้งนี้ บริษัทฯ มั่นใจว่า รถยนต์ของตงฟง เป็นรถที่เหมาะกับประเทศที่กำลังพัฒนาและเต็มไปด้วยผู้ประกอบการระดับ SMEs ในระดับเล็กหรือกำลังเริ่มต้น ที่ความต้องการทางรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ที่มีขนาดเหมาะสม ซึ่ง ตงฟง สามารถตอบโจทย์ในเรื่องของสมรรถนะ ความคุ้มค่า และคุณภาพที่ดี ตลอดจนการบริการหลังการขายที่ครบวงจร เราเชื่อมั่นว่า รถยนต์ตงฟง จะสามารถก้าวเข้าสู่ความเป็นค่ายรถยนต์ชั้นนำในไทยและ AEC ได้ในเวลาไม่ช้าและยังส่งเสริมเศรษฐกิจด้านยานยนต์ของประเทศอีกด้วย"

ตั้งแต่นี้คงต้องคอยจับตาดูค่ายรถจีนต่างๆ อย่างไม่กระพริบตา ตงฟง เจ้าตลาดรถจีน ยังคงยึดหัวหาดพื้นที่อย่างแข็งขัน เพราะมีพันธมิตรคู่ใจชาว SMEs อย่างลิสซิ่งกสิกรไทย คอยสมทบกำลังการซื้อรถตงฟงให้กับคนไทยอย่างใกล้ชิด ขณะนี้คุณพิทยา ผู้บริหารค่ายตงฟง จึงเป็นเสมือนกูรูยานยนต์จีนในไทยที่น่าติดตามเป็นอย่างยิ่ง

เกี่ยวกับ ตงฟง มอร์เตอร์ส (ประเทศไทย)

บริษัท ตงฟง มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด ถือกำเนิดขึ้นตั้งแต่ปี พ.ศ. 2551 ซึ่งเป็นตัวแทนรถยนต์ตงฟง จากค่ายรถยนต์ระดับแนวหน้า ที่มียอดการผลิตเป็นอันดับ 2 ของสาธารณรัฐประชาชนจีน ทำหน้าที่ผลิตและจำหน่ายรถตงฟง บริหารเครือข่ายผู้แทนจำหน่ายกว่า 45 แห่งทั่วประเทศ ดำเนินงานการตลาด และบริหารการบริการหลังการจำหน่ายสู่ความเป็นเลิศ ให้กับรถยนต์ของตงฟงทุกคันในประเทศไทย ในปี 2553 บริษัทฯได้มีการลงทุนร่วมกับ ตงฟง มอเตอร์ส (ประเทศจีน) ตั้งโรงงานผลิต และประกอบชิ้นส่วนรถยนต์ของตงฟงในประเทศไทย เพื่อการจำหน่ายภายในประเทศและส่งออกในภูมิภาคอาเซียน (ASEAN) โดยปัจจุบันมียอดจำหน่ายในตลาดไทยแล้วกว่า 5,000 คัน ประกอบด้วยมินิทรั๊ค 2 รุ่น ขนาดเครื่องยนต์ 1,100 CC และ 1,300 CC, มินิแวน รถตู้เพื่อการพาณิชย์ 2 รุ่น ขนาดเครื่องยนต์ 1,100 CC และ 1,300 CC และรถอเนกประสงค์ 7 ที่นั่ง รุ่น V27 ขนาดเครื่องยนต์ 1,300 CC ทุกรุ่นใช้เบนซินและ LPG ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Hotline : 02-3058513, 1-401-555-222 พร้อมบริการช่วยเหลือฉุกเฉิน ตลอด 24 ชั่วโมง

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๕ พ.ย. ดิ เอราวัณ กรุ๊ป เปิดตัว HOP NextGen ชวนนักศึกษาเยี่ยมชม ฮ็อป อินน์ เรียนรู้เทคนิคบริการแบบ Consistency is Yours พร้อมพัฒนาบุคลากรรุ่นใหม่
๑๕ พ.ย. คิง เพาเวอร์ ต้อนรับเทศกาลแห่งความสุขส่งท้ายปี เปิดแคมเปญ THE POWER OF FUNTASTIC CELEBRATION 2025 ฉลองทุกความสุข สนุกไม่รู้จบ
๑๕ พ.ย. พันธุ์ไทย ชวนแฟนด้อม คัลแลนและพี่จอง จุ่ม การ์ดพันธุ์ไทยใจฟู ลิมิเต็ด อิดิชั่น
๑๕ พ.ย. BAM ทรานส์ฟอร์มองค์กรสู่ DIGITAL ENTERPRISE ตอกย้ำผู้นำ AMC ยุค 4.0 วางเป้าหมายยกระดับองค์กรสร้างโอกาสเติบโตอย่างยั่งยืน เตรียมส่ง อิสระ เดอะซีรีส์ ชวนลูกหนี้ BAM
๑๕ พ.ย. บางจากฯ ได้รับการประเมินด้านความยั่งยืนอันดับสูงสุดของโลก จาก SP Global 2024 ในกลุ่มอุตสาหกรรม Oil Gas Refinery and
๑๔ พ.ย. ซีเอเค อินเตอร์เนชั่นแนล ออกบูธให้ความรู้เรื่องการใช้งานระบบดับเพลิงนร. พระหฤทัยนนทบุรี
๑๒ พ.ย. พนักงานซีเอเค อินเตอร์เนชั่นแนล รับรางวัลเจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทำงานดีเด่น
๑๕ พ.ย. PROSPECT REIT ชูไตรมาส 3/67 โตเกินเป้า อัตราการเช่าพุ่งนิวไฮ หนุนจ่ายปันผลเด่น 0.2160 บาท
๑๕ พ.ย. CHAO ประกาศงบ Q3/67 กำไรพุ่งกว่า 62% รับตลาดส่งออกพีค จีนโตเด่น แย้ม Q4 เดินหน้าบุกตลาดในประเทศ สินค้าใหม่หนุนยอดขายปลายปี
๑๕ พ.ย. ฉลองเทศกาลลอยกระทงประจำปี 2567 ณ โรงแรมแมนดาริน โอเรียนเต็ล กรุงเทพฯ