นางยุวนิตย์ ปิสัญธนะกูล กรรมการผู้จัดการ บริษัทนารายณ์ภัณฑ์ จำกัด เป็นศูนย์จำหน่ายสินค้าหัตถกรรมไทย เปิดเผยว่า จากการเข้าร่วมเป็นสมาชิก Thaitrade.com มากว่า 2 ปีทางบริษัทฯ ถือว่าเป็นเครื่องมือช่วยให้เราสามารถขยายตลาดและฐานลูกค้า สำหรับประโยชน์ที่ได้รับมีมากเนื่องจากเว็บไซต์ Thaitrade.com เป็นตลาดกลางพาณิชย์ดิจิตอลที่มีผู้ซื้อผู้ขายทั่วโลกเข้าใช้บริการ และยังมีทีมงานในการให้คำปรึกษาและเป็นช่องทางช่วยให้ผู้ประกอบการไทยพบกับคู่ค้า ลูกค้าได้ใหม่ได้เพิ่มมากขึ้น รวมทั้งภาครัฐยังให้การสนับสนุนซึ่งเป็นการสร้างความมั่นใจให้แก่ลูกค้าในการเลือกซื้อสินค้าจากนารายภัณฑ์ อีกทั้งยังเป็นช่องทางในการประชาสัมพันธ์ข่าวสาร กิจกรรม และสินค้าของนารายภัณฑ์ให้เป็นที่รู้มากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะลูกค้าต่างชาติ เพราะเป็นกลุ่มลูกค้าหลักของนารายภัณฑ์ ซึ่งมีสัดส่วนถึง 70% ทั้งกลุ่มประเทศยุโรป สหรัฐอเมริกา ตะวันนออกกลาง อินเดีย ญี่ปุ่นและจีน ส่วน 30% เป็นคนไทยมีทั้งกลุ่มข้าราชการ องค์กรเอกชน และนักศึกษา
ปัจจุบันมีสาขาที่เปิดให้บริการในท่าอากาศยานนานาชาติ ได้แก่ เชียงใหม่ กระบี่ สุราษฎร์ธานี อุบลราชธานี อุดรธานี และโทเทิลวิลเลจ จังหวัดภูเก็ต ซึ่งเป็นศูนย์รวมหัตถกรรมที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย นอกจากนี้ยังมีแผนขยายกิจการโดยจะเปิดสาขาเพิ่ม เพื่อให้บริการแก่ประชาชนให้ครอบคลุมทุกภูมิภาค
“ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมายอมรับว่าได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ทางการเมืองและน้ำท่วม แต่บริษัทฯ ยังคงมีการเติบโตคงที่เฉลี่ยปีละ 5% ซึ่งในปี 2556 เตรียมปรับปรุงเว็บไซต์ที่เป็นช่องทางสื่อสารและขายสินค้าออนไลน์ให้ดียิ่งขึ้นปัจจุบันมีเว็บไซต์ที่สามารถเข้าไปเลือกซื้อสินค้าได้อยู่แล้ว แต่การปรับปรุงจะช่วยเพิ่มความสะดวกให้ลูกค้ามากยิ่งขึ้น พร้อมขยายเข้าสู่ดิจิตอลมากขึ้นโดยใช้เฟซบุ๊คเป็นช่องทางสื่อสารกับลูกค้า และกำลังดำเนินการจัดทำเพื่อใช้แอพพลิเคชั่น Instargram และ LINE ในการโปรโมทสินค้า นอกจากนี้ลูกค้ายังสามารถใช้บริการไดเร็กต์เซล และการสั่งทำสินค้าตามแบบ เพราะบางครั้งชิ้นงานที่มีอาจจะไม่ถูกใจลูกค้าก็สามารถสั่งทำพิเศษได้ตามความต้องการของลูกค้า”
“บริษัทฯ มีกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่เป็นหัตถกรรมฝีมือคนไทยจากทุกภูมิภาคในประเทศมารวมไว้ที่เดียว โดยเราได้รวบรวมงานฝีมือคุณภาพดีที่ผ่านการคัดสรรอย่างพิถีพิถันจากการรวมกลุ่มของชุมชนในจังหวัดต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นผลิตภัณฑ์เบญจรงค์ลายไทย ดอกไม้ชุบทอง เฟอร์นิเจอร์เครื่องไม้ ผ้าไหมและจิวเวอรี่ เป็นต้น ทั้งนี้ยังฝากถึงผู้ที่สนใจสินค้าฝีมือคนไทยสามารถมาเลือกซื้อที่นารายภัณฑ์ได้จำหน่ายสินค้าคุณภาพราคาไม่แพง และยังเป็นการช่วยส่งเสริมงานหัตถกรรมของไทยให้เติบโตก้าวหน้า ก่อให้เกิดการสร้างงาน สร้างรายได้ และมีส่วนช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศต่อไป” นางยุวนิตย์ กล่าว
เกี่ยวกับบริษัท นารายณ์ภัณฑ์ จำกัด
บริษัทฯ ก่อตั้งเมื่อปี 2480 โดยรัฐบาลไทยเพื่อรณรงค์ให้คนไทยใช้สินค้าไทยในยุคจอมพล ป.พิบูลย์สงคราม ใช้ชื่อว่า “ร้านไทยอุตสาหกรรม” ขึ้นที่ตำบลสี่กั๊ก พระยาศรี เมื่อวันที่ 11 สิงหาคม 2480 เพื่อเป็นแหล่งจำหน่ายสินค้าหัตถกรรมและอุตสาหกรรมในครัวเรือน โดยร้านดังกล่าวขึ้นอยู่กับกองอุตสาหกรรม กรมพาณิชย์ กระทรวงเศรษฐการ ต่อมาในปี 2481 จึงได้ย้ายร้านมาตั้งอยู่ที่ถนนเจริญกรุง และโอนมาสังกัดสำนักปลัดกระทรวงเศรษฐการ และต่อมาได้จัดตั้งกระทรวงอุตสาหกรรมขึ้น ร้านไทยอุตสาหกรรม จึงได้โอนมาสังกัดกระทรวงอุตสาหกรรม และย้ายมาตั้งสำนักงานที่ถนนหลานหลวง พร้อมกับเปลี่ยนชื่อเป็น “ร้านนารายณ์ภัณฑ์” จนกระทั่งในปี 2527 คณะรัฐมนตรี มีนโยบายปรับปรุงกิจการร้านนารายณ์ภัณฑ์ ซึ่งแต่เดิมเป็นรัฐวิสาหกิจ ให้เป็นลักษณะธุรกิจ โดยมีเอกชนเข้าร่วมดำเนินงาน แต่ยังคงมีวัตถุประสงค์เพื่อสนองนโยบายรัฐบาลในการส่งเสริมและช่วยเหลือชาวบ้านในด้านหัตถกรรมและอุตสาหกรรมในครัวเรือนให้ก้าวหน้ามากยิ่งขึ้น
เกี่ยวกับ Thaitrade.com
Thaitrade.com ตลาดกลางพาณิชย์ดิจิตอลแห่งเดียวของประเทศไทย ที่การันตีคุณภาพสินค้าและบริการโดยภาครัฐ ปัจจุบันมีผู้ประกอบการไทยที่มีคุณภาพผ่านมาตรฐานการส่งออก มาสมัครเป็นสมาชิกผู้ขายจำนวนกว่า 7,600 ร้านค้า มีสินค้ารวมทั้งสิ้นกว่า 150,000 รายการ ครอบคลุมทุกประเภทรวมทั้งหมด 47 หมวดหมู่ และในปี 2556 มีผู้ซื้อผู้ขายจากทั่วโลกเข้ามาใช้บริการสูงกว่า 1.2 ล้านราย
สำหรับผู้ส่งออกไทยที่สนใจสมัครเข้าร่วมโครงการฯ สามารถสมัครได้หลายช่องทาง อาทิ การสมัครผ่านทางเว็บไซต์ www.thaitrade.com, [email protected] และ www.facebook.com/ThaitradeDotCom หรือ สมัครด้วยตนเองที่บูธ Thaitrade.com ภายในงานแสดงสินค้าต่างๆ ที่กรมฯ จัดขึ้น โดยไม่มีค่าใช้จ่ายในการสมัครเข้าร่วมโครงการใดๆ ทั้งสิ้น หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม ติดต่อได้ที่ DITP Call Center 1169 โทรสาร 02 547 5683-4