แคมเปญดังกล่าวสืบเนื่องมาจากโครงการ ”โลกของฉัน” หรือ “My World” ของสหประชาชาติ เป็นการสำรวจความเห็นระดับโลกที่มุ่งจัดลำดับความสำคัญในการพัฒนาคุณภาพชีวิตประชากรทั่วโลก โดยให้ประชาชนได้เลือกประเด็นปัญหา 6 ประเด็น จาก 16 ประเด็น เพื่อกำหนดเป็นวาระการพัฒนาโลกในลำดับต่อไป โดยประเด็นเรื่องสิ่งแวดล้อมจัดเป็นหนึ่งในประเด็นหลักที่คนทั่วโลกให้ความสำคัญ ดังนั้น พี แอนด์ จี, สหประชาชาติ และ เทสโก้ โลตัส จึงร่วมมือกันเปิดตัวแคมเปญ “Everyday I Go Green for My World” รณรงค์ร่วมใจใช้ผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมเพื่อโลกของเรา เพื่อต้องการให้คนไทยได้รู้จักและได้มีส่วนร่วมในการสำรวจความเห็นและการวางนโยบายระดับโลกครั้งสำคัญนี้ เพื่อจะนำไปสู่การกำหนดเป็นแผนพัฒนาได้ตรงเป้าหมายยิ่งขึ้น นอกจากนี้ อีกจุดมุ่งหมายของแคมเปญ คือการนำเสนอผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมในปัจจุบัน ซึ่งมีแนวโน้มที่จะทวีความรุนแรงมากขึ้น ภายในงานจึงมีการให้ความรู้เกี่ยวกับกรีนโปรดักส์และโน้มน้าวให้คนไทยหันมาใส่ใจในการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์และ บรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้นเพื่อโลกของเรา ในส่วนของ พี แอนด์ จี ประเทศไทย นำโดย คุณราอูล ฟอลคอน กรรมการผู้จัดการ บริษัท พรอคเตอร์ แอนด์ แกมเบิล เทรดดิ้ง (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “พี แอนด์ จี ยึดมั่นปรัชญา Touching Lives, Improving Life ซึ่งสะท้อนความมุ่งมั่นในการพัฒนาคุณภาพชีวิตของมนุษย์ผ่านทุกกิจกรรมในการดำเนินธุรกิจ โดยมีพันธกิจที่จะช่วยให้ประชากรทั่วโลกมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นในทุกๆวัน พี แอนด์ จี ภูมิใจมากที่ได้ร่วมกับสหประชาชาติ องค์กรระหว่างประเทศที่ทำประโยชน์ให้กับสาธารณชนโดยไม่แสวงหาผลกำไร และเทสโก้ โลตัส คู่ค้าสำคัญของ พี แอนด์ จี เพื่อมาเป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนให้ทุกคนสามารถมีส่วนร่วมในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ สิ่งเหล่านี้ไม่ใช่เรื่องไกลตัวและไม่ยากที่จะปฏิบัติในชีวิตประจำวันหากเพียงได้รับรู้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ พี แอนด์ จี ต้องขอขอบคุณสหประชาชาติในการดำเนินนโยบายต่าง ๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อโลก และ เทสโก้ โลตัส ที่เป็นส่วนสำคัญซึ่งทำให้ผู้บริโภคสามารถเข้ามาเป็นหนึ่งกำลังในการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมได้อย่างยั่งยืนผ่านการบริโภคกรีนโปรดักส์”
นางกรรณิการ์ จรัสอุไรสิน ผู้อำนวยการฝ่ายองค์กรสัมพันธ์ บริษัท พรอคเตอร์ แอนด์ แกมเบิล เทรดดิ้ง (ประเทศไทย) จำกัดได้กล่าวเพิ่มเติมว่า “นอกเหนือจากความร่วมมือกับองค์กรอื่นแล้ว พี แอนด์ จี ยังมีนโยบายภายในอีกมากที่คิดค้นมาเพื่อรองรับแนวคิดในการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมด้วยเช่นกัน ได้แก่ การแปรรูปของใช้แล้วให้กลับมามีประโยชน์อีกครั้ง (Waste to Worth) จนถึงตอนนี้สามารถกล่าวได้ว่า พี แอนด์ จี มีขยะเสียจากโรงงานน้อยกว่า 1% จากวัตถุดิบทั้งหมดที่ใช้ในการผลิต และตั้งเป้าหมายในอนาคตว่าจะนำของเสียทั้งหมดจากกระบวนการผลิตมารีไซเคิลเป็นวัตถุดิบที่มีประโยชน์ โดยไม่ต้องทิ้งเป็นขยะอุตสาหกรรมแม้แต่ชิ้นเดียว และโรงงานของ พี แอนด์ จี ยังเป็นมิตรกับแวดล้อม (Smart Eco-design) ซึ่งช่วยลดการใช้พลังงานและน้ำ ลดการปล่อยของเสียและก๊าซเรือนกระจกได้ตามเป้าหมายที่กำหนด นอกจากนี้ยังสร้างสรรค์นวัตกรรมเพื่อช่วยเหลือสังคมอีกด้วย เช่น เทคโนโลยีบำบัดน้ำดื่ม พี แอนด์ จี เพียวริฟายเออร์ ออฟ วอเตอร์ (P&G Purifier of Water) ซึ่งช่วยบรรเทาความเดือดร้อนในภาวะวิกฤติน้ำดื่ม หรือบริเวณที่อยู่อาศัยห่างไกลสาธารณูปโภคระบบประปาที่ได้มาตรฐาน เป็นต้น”
ด้วยอุดมการณ์ร่วมกัน จึงเป็นที่มาในการจับมือกันครั้งสำคัญขององค์กรทั้งสามคือ พรอคเตอร์ แอนด์ แกมเบิล เทรดดิ้ง (ประเทศไทย) จำกัด หรือ พี แอนด์ จี ประเทศไทย สหประชาชาติ และ เทสโก้ โลตัส โดยในโอกาสนี้ได้รับเกียรติจาก ดร. โมเนียร์ อิสลาม ผู้แทนองค์การอนามัยโลกประจำประเทศไทย ในฐานะผู้ร่วมแคมเปญ และกล่าวถึงแคมเปญว่า “การร่วมมือระหว่าง พี แอนด์ จี และ เทสโก้ โลตัส ในครั้งนี้ ถือเป็นก้าวหลักในการโปรโมทโครงการโลกของฉัน ตอนนี้คนไทยกว่า 17,000 คน ในประเทศไทยได้เข้าไปร่วมแสดงความคิดเห็น นำเสนอแนวคิดที่จะทำให้อนาคตของพวกเขาและอนาคตของประเทศพัฒนาไปในทางที่ดีขึ้น พันธมิตรใหม่ของเราในครั้งนี้จะเป็นพลังสำคัญในการเข้าถึงทุกความคิดเห็นของคนไทยทั้งประเทศ”
คุณชาคริต ดิเรกวัฒนชัย รองกรรมการผู้จัดการแผนกกิจการสาธารณะ เทสโก้ โลตัส กล่าวเสริมว่า “ในฐานะที่เทสโก้ โลตัส เป็นผู้นำธุรกิจค้าปลีกในประเทศไทย จึงเล็งเห็นว่าเราสามารถใช้ศักยภาพของเราในการช่วยลดปัญหาสิ่งแวดล้อม โดย เทสโก้ โลตัส ได้ดำเนินการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมที่เกิดจากการดำเนินการธุรกิจของเรามาอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ ยังส่งเสริมพฤติกรรมช้อปปิ้งที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมให้กับผู้บริโภค อาทิ การจัดแคมเปญลดการใช้ถุงพลาสติก และเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เนื่องจากปัจจุบันมีลูกค้าที่มาจับจ่ายซื้อของในร้าน เทสโก้ โลตัส 12 ล้านคน ต่อสัปดาห์ หากลูกค้าของเราเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมคนละเล็กคนละน้อยก็จะกลายเป็นพลังที่ยิ่งใหญ่ในอนาคต เราจึงมีความยินดีอย่างยิ่งที่ได้ร่วมมือกับพีแอนด์จีในครั้งนี้”
ภายในงานได้แนะนำผลิตภัณฑ์ “กรีนโปรดักส์” จาก พี แอนด์ จี ประเทศไทย ได้แก่ ผลิตภัณฑ์น้ำยาปรับผ้านุ่ม ดาวน์นี่ สูตรน้ำเดียว ที่มีคุณสมบัติพิเศษคือ ล้างน้ำออกเพียงหนึ่งครั้งก็สะอาด ทั้งยังมีความเข้มข้นใช้เพียง 1 ใน 5 ของปริมาณน้ำยาปรับผ้านุ่มที่เคยใช้ สามารถช่วยลดขั้นตอนและเวลาในการซักผ้า รวมถึงช่วยลดปริมาณน้ำที่ต้องใช้ถึง 8 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อเดือน โดยสหประชาชาติจัดอันดับให้ปัญหาการเข้าถึงแหล่งน้ำสะอาดและปลอดภัยเป็นปัญหาอันดับต้น ๆ ของโลก ดาวน์นี่ เป็นนวัตกรรมทางเลือกหนึ่งที่จะช่วยประหยัดน้ำในประเทศไทยได้นับล้านครอบครัว นอกจากนี้ยังมีผลิตภัณฑ์ แพนทีน โปร-วี ที่ใช้ เทคโนโลยี Bottle Optimization Weight ลดการใช้ปริมาณวัสดุในการผลิตบรรจุภัณฑ์ลงได้ถึงร้อยละ 10 ต่อขวด และผลิตภัณฑ์ โอเลย์ โททัล เอ็ฟเฟ็คส์ ที่ลดปริมาณวัสดุในการผลิตบรรจุภัณฑ์และการผลิตหัวปั๊มลงทำให้ประหยัดการใช้ทรัพยากรพลาสติกในเอเชียได้ถึง 122 ตันต่อปี หรือเทียบเท่ากับน้ำหนักเครื่องบินโบอิ้งถึงหนึ่งลำ
ซึ่งผู้บริโภคสามารถร่วมสนับสนุนกิจกรรมอนุรักษ์โลก พร้อมเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เช่น ผลิตภัณฑ์ในกลุ่ม พี แอนด์ จี ได้แก่ แพนทีน โปร-วี, โอเลย์, ดาวน์นี่ ในราคาพิเศษ ที่ เทสโก้ โลตัส ทุกสาขา ตั้งแต่วันที่ 30 พฤษภาคม ถึง 26 มิถุนายน 2556 และสามารถร่วมแสดงความคิดเห็นของท่านผ่านโครงการ “โลกของฉัน” ได้ที่ pg.myworld2015.org(http://www.myworld2015.org/index.html?partner=pg&lang=th)