ผศ.พญ.สุวิรากร โอภาสวงศ์ ประธานประชาสัมพันธ์สมาคมแพทย์ผิวหนังแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ในปัจจุบันแฟชั่นเกี่ยวกับการเจาะ สัก เพนท์ หรือการต่อ ส่วนต่างๆ ทั้งที่เป็นขนตา ต่อเล็บ ต่อเส้นผม กำลังเป็นที่นิยมทั้งในต่างประเทศรวมถึงประเทศไทยไม่ว่าจะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย แต่กระบวนการการเสริมความงามตามแฟชั่นนั้น เบื้องหลังอาจแฝงไปด้วยอันตรายที่เราอาจคาดไม่ถึงได้ อย่างเช่น การสัก มีเหตุผลหลายประการที่คนเราจะสัก เช่น สักเพื่อเป็นสัญลักษณ์ สักตามความเชื่อ สักตามแฟชั่น หรือสักทางการแพทย์ เพื่อปิดจุดบกพร่อง สักเพื่อความสวยงาม สักคิ้ว ขอบตา ขอบปากการสักมีทั้งที่สักด้วยมือ และใช้เครื่องมีมอร์เตอร์ ซึ่งจะทำให้สีเสมอกันมากกว่า
การเจาะ เช่น การเจาะหู เจาะสะดือ เจาะลิ้น หน้า อวัยวะเพศ หัวนม ผลเสียจากการสัก เจาะ อาจทำให้เกิดการติดเชื้อแบคทีเรีย ทำให้เป็นฝี หนอง โรคบาดทะยัก วัณโรค ผิวหนัง ตับอักเสบ ซิฟิลิส เอดส์ หรือเกิดอาการแพ้ เช่น แพ้โลหะ ที่ใช้เจาะ ใส่ เช่น แพ้นิเกิ้ล แพ้สีที่ใช้สัก บางคนอาจเกิดแผลเป็น หรือเกิอกาการกำเริบของโรคผิวหนัง ที่มีอยู่ก่อน เช่น สะเก็ดเงิน โรคผิวหนังอักเสบ นอกจากนี้หากต้องการลบรอยสักจะเจ็บมากกว่าและเสียค่าใช้จ่ายมากกว่า
สำหรับการสักขอบตา อาจทำให้เยื่อบุตาขาวอักเสบหรือเป็นอันตรายถ้าสาร สี เข้าไปโดนตาดำอาจทำให้ถึงตาบอดได้ และห้ามทำการสักหรือเจาะ กับผู้ที่มีโรคประจำตัวบางอย่าง คือโรคโลหิตออกไม่หยุดที่เรียกว่า ฮีโมฟีเลีย โรคลิ้นหัวใจพิการ โรคผิวหนังแพ้และพุพอง ผู้ที่มีประวัติแพ้เครื่องประดับคือ แพ้โลหะนิกเกิล หรือผู้ที่เกิดแผลเป็นนูนโต ที่เรียกว่าคีลอยด์ง่าย เหล่านี้ควรงดเว้นการสักและการเจาะ
ผศ.พญ.สุวิรากร กล่าวว่า ในส่วนของ การเพนท์ให้ระวังการเกิดอาการแพ้สารเคมี ที่ผสมอยู่ในสี henna paint มีสาร paraphenylenediamine (PPD) เป็นสารที่ใช้ในการย้อมผมดำ ซึ่งทำให้เกิดการแพ้ได้ การต่อขนตา ก็เช่นกัน ให้ระวังการระคายเคืองจากกาว การแพ้กาว และการติดเชื้อ ทำให้ขนตาจริงร่วง การต่อผม สำหรับผู้ที่แพ้กาว ก็จะทำให้เกิดหนังศีรษะอักเสบได้ ส่วนการต่อเล็บ หรือารเพนท์เล็บ จะทำให้เล็บไม่แข็งแรงผิวสีของเล็บเปลี่ยนไป ผิวเล็บไม่เรียบ อาจมีอาการแพ้ในบางรายและเกิดอาการติดเชื้อได้