สพฉ. จับมือมูลนิธิสากลเพื่อคนพิการ กสทช. และทีโอทีพัฒนาระบบการแจ้งเหตุเจ็บป่วยฉุกเฉินสำหรับผู้สูงอายุและผู้บกพร่องทางการได้ยิน

พุธ ๑๙ มิถุนายน ๒๐๑๓ ๐๘:๔๔
สพฉ. จับมือมูลนิธิสากลเพื่อคนพิการ กสทช. และทีโอทีพัฒนาระบบการแจ้งเหตุเจ็บป่วยฉุกเฉินสำหรับผู้สูงอายุและผู้บกพร่องทางการได้ยิน นำร่องพัฒนา 7 จังหวัด พร้อมจัดหาล่ามและจัดทำฐานข้อมูลคนพิการ หวังให้เข้าถึงบริการด้านการแพทย์ฉุกเฉินได้อย่างทันท่วงที

ที่ห้องประชุมอาคารเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ๘๔ พรรษา สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ (สพฉ.) ร่วมกับมูลนิธิสากลเพื่อคนพิการและบริษัททีโอทีจำกัด (มหาชน) จัดพิธีลงนามบันทึกความร่วมมือ (เอ็มโอยู) การพัฒนาระบบการแพทย์ฉุกเฉินสำหรับผู้สูงอายุ และผู้บกพร่องทางการได้ยินและการพูด

นพ.โสภณ เมฆธน รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า การบันทึกความร่วมมือครั้งนี้ถือเป็นการพัฒนาการดูแลผู้ป่วยฉุกเฉินที่สอดคล้องกับยุคปัจจุบันที่ผู้สูงอายุจะมีจำนวนเพิ่มมากขึ้น และพัฒนาระบบในการช่วยเหลือผู้ด้อยโอกาส คนพิการทางการได้ยิน โดยจากฐานข้อมูลทะเบียนกลางคนพิการสำนักงานส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการแห่งชาติมีทั้งสิ้นกว่า 1,374,133 คน เป็นคนพิการทางการได้ยินและสื่อความหมายจำนวน 221,199 คน ซึ่งจะได้รับประโยชน์และเข้าถึงการบริการด้านการแพทย์ฉุกเฉินมากขึ้น ดังนั้นจึงเป็นเรื่องที่น่ายินดีที่เกิดความร่วมมือในการบูรณาการดูแลตั้งแต่การเริ่มแจ้งเหตุ ไปจนกระทั่งการเข้าถึงผู้ป่วยได้อย่างรวดเร็ว และจะเพิ่มโอกาสรอดชีวิตให้กับผู้ป่วยฉุกเฉิน

นพ.อนุชา เศรษฐเสถียร เลขาธิการสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ (สพฉ.) กล่าวว่า บทบาทหน้าที่ สพฉ. คือจะต้องดูแลผู้เจ็บป่วยฉุกเฉินให้สามารถเข้าถึงการบริการทางการแพทย์ฉุกเฉินได้อย่างทั่วถึงและเท่าเทียม และเป็นไปตามนโยบาย 5 ค. ได้แก่ ครอบคลุมคนทุกคน คล่องแคล่วและให้การช่วยเหลืออย่างรวดเร็ว มีคุณภาพ ครบพร้อม 24 ชั่วโมง และคุ้มครอง ซึ่งการลงนามความร่วมมือในครั้งนี้จะทำให้ตอบโจทย์ความครอบคลุมประชาชนทุกคน ไม่ว่าจะเป็นผู้สูงอายุ คนพิการทางการได้ยินและการพูด ซึ่งในเบื้องต้นจะมีการนำร่องทดสอบระบบก่อนใน 7 จังหวัด คือ จังหวัดชลบุรี ระยอง ขอนแก่น หนองบัวลำภู อุดรธานีกาฬสินธุ์ และอุบลราชธานีและต่อจากนี้ในอนาคต สพฉ.จะมีการพัฒนาระบบต่างๆ สำหรับคนพิการทางการเห็น และคนพิการทางร่างกาย และคนพิการอื่นๆ ด้วย เนื่องจากเราเล็งเห็นถึงความสำคัญในการช่วยเหลือผู้ป่วยฉุกเฉิน และที่สำคัญเพื่อให้เป็นไปตามมาตรฐานสากล

ขณะที่นายพจน์ จิรวุฒิกุล กรรมการ บมจ.ทีโอที กล่าวว่า ความร่วมมือครั้งนี้จะเป็นการพัฒนาระบบเครือข่ายสารสนเทศของประเทศให้ก้าวไปข้างหน้าตอบสนองนโยบายประเทศ Smart Thailand ของกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ด้วยการนำระบบสื่อสารโทรคมนาคมมาพัฒนาระบบสาธารณสุขของประเทศไทย เพื่อประโยชน์ต่อการแพทย์และสาธารณสุขฉุกเฉิน เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นของผู้สูงอายุอย่างทั่วถึง เท่าเทียม มีคุณภาพมาตรฐาน และทันต่อเหตุการณ์

นายยงยุทธวัฒนสินธุ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ทีโอทีกล่าวว่า ทีโอที ได้พัฒนานวัตกรรม TOT Help Call Center ด้วยการเพิ่มศักยภาพระบบโทรศัพท์พื้นฐาน พร้อมระบบจัดเก็บข้อมูลที่มีมาตรฐานและระบบแสดงผลอัตโนมัติเกี่ยวกับข้อมูลประวัติผู้สูงอายุ ประวัติรักษาพยาบาล และ สำคัญที่สุดคือตำแหน่งของบ้านพักอาศัยของผู้สูงอายุบนแผนที่ดาวเทียม เชื่อมโยงกับระบบรับแจ้งเหตุของสายด่วน 1669 ประจำจังหวัดนั้น ๆ ซึ่งจะช่วยลดระยะเวลาการแจ้งเหตุ และการรับรู้สถานที่เกิดเหตุของผู้ป่วยที่ถูกต้องและรวดเร็ว เพิ่มโอกาสการให้บริการกับผู้ป่วยฉุกเฉินได้ อย่างทันท่วงทีมากยิ่งขึ้น ซึ่งโครงการนี้นอกจากจะเป็นการเพิ่มมูลค่าให้กับบริการโทรศัพท์ประจำที่ ยังเป็นการช่วยเหลือสังคมในด้านสถาบันครอบครัว โดยเฉพาะผู้สูงอายุ

ด้านศาสตราจารย์วิริยะ นามศิริพงศ์พันธุ์ ประธานมูลนิธิสากลเพื่อคนพิการ กล่าวว่า มูลนิธิสากลเพื่อคนพิการมีวัตถุประสงค์สนับสนุนให้คนพิการได้รับความช่วยเหลือทุกด้านจากหน่วยงานของรัฐและเอกชน รวมทั้งดำเนินกิจกรรมให้คนพิการได้มีสิทธิและโอกาสเท่าเทียมกับบุคคลทั่วไป ในด้านการสนับสนุนให้คนพิการทางการได้ยินได้มีโอกาสใช้บริการโทรคมนาคมพื้นฐานโดยทั่วถึง มูลนิธิฯ ได้ร่วมมือกับสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (สำนักงาน กสทช.) ในการจัดตั้งศูนย์บริการถ่ายทอดการสื่อสารแห่งประเทศไทยเพื่อให้บริการถ่ายทอดการสื่อสารแก่คนพิการทางการได้ยินและการพูดกับคนอื่นๆในสังคม ในครั้งนี้ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่มั่นคงในการช่วยเหลือคนพิการทางการได้ยินได้มีโอกาสเข้าถึงบริการการแพทย์ฉุกเฉินเต็มรูปแบบเป็นครั้งแรก นอกจากนี้ในอนาคตยังจะมีการพัฒนาระบบทุกรูปแบบเพื่อที่จะช่วยให้คนพิการทุกคนสามารถเข้าถึงบริการการแพทย์ฉุกเฉินด้วย ซึ่งถือเป็นเรื่องที่เป็นประโยชน์อย่างมาก

สำหรับการปฏิบัติงานตามการลงบันทึกความร่วมมือระหว่างหน่วยงานในครั้งนี้นั้น จะเกิดการจัดทำระบบฐานข้อมูลของผู้ที่มีความบกพร่องทางการได้ยิน ซึ่งประกอบด้วยข้อมูลพื้นฐาน เช่น โรคประจำตัว ประวัติการแพ้ยา พิกัดของสถานที่บ้านพัก หมายเลขโทรศัพท์พื้นฐานหรือหมายเลขโทรศัพท์เคลื่อนที่ และข้อมูลอื่นๆ ที่คนพิการทางการได้ยินได้ลงทะเบียนไว้กับมูลนิธิสากลเพื่อคนพิการ และจะนำไปเชื่อมโยงต่อกับระบบการรับแจ้งเหตุฉุกเฉิน 1669 ของสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ

นอกจากนี้จะมีการจัดหาล่ามภาษามือให้เป็นบุคคลกลางในการติดต่อสื่อสารขอความช่วยเหลือระหว่างสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติกับคนพิการทางการได้ยินด้วย พร้อมกันนี้จะมีการติดตั้งชุดคอมพิวเตอร์เพื่อให้บริการถ่ายทอดการสื่อสารแบบการแพทย์ฉุกเฉินให้เชื่อมโยงกับระบบการรับแจ้งเหตุการช่วยเหลืออีกด้วย

เจ็บป่วยฉุกเฉิน โทร.1669

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๒ พ.ย. รีเลชั่นชิพรีพับบลิค แนะกลยุทธ์สำคัญ นำพาธุรกิจร้านอาหารสู่ความสำเร็จ มัดใจลูกค้าให้อยู่หมัด
๒๒ พ.ย. ชมนวัตกรรมสุดล้ำในงาน METALEX 2024 หลายแบรนด์แกะกล่องเครื่องจักรครั้งแรกในงานนี้
๒๒ พ.ย. Bangkok Illustration Fair 2024 สู่การเติบโตก้าวใหญ่ในปีที่ 4
๒๒ พ.ย. ผลการจัดอันดับขีดความสามารถในการแข่งขันด้านดิจิทัลโดย IMD ประจำปี 2567 TMA เผยไทยครองอันดับ 37 ในการจัดอันดับด้านดิจิทัลปีนี้
๒๒ พ.ย. โก โฮลเซลล์ จัดเต็มสินค้า ส่งสุข สุดอร่อย เฉลิมฉลองเทศกาลส่งท้ายปี เข้มกระเช้าปีใหม่ดีมีมาตรฐาน พร้อมชู อาหารแช่แข็ง-อาหารสด
๒๒ พ.ย. กทม. จับมือสถานทูตเนเธอร์แลนด์ ประจำประเทศไทย จัดประชุมเชิงปฏิบัติการ ACTIVE Workshop เมืองเดินเท้า และจักรยานสัญจร ครั้งที่
๒๒ พ.ย. สัมผัสความหรูหราของวิลล่าริมทะเล VEYLA NATAI RESIDENCES ผ่านประสบการณ์เหนือระดับในงาน SOUL of VEYLA
๒๒ พ.ย. 'แอสเซทไวส์' จับมือ 'สยามกีฬา' เปิดศึกลูกหนังยุวชนทัวร์นาเมนต์ใหญ่แห่งปี AssetWise Siamkeela Cup 2024-25 ต่อเนื่องเป็นปีที่
๒๒ พ.ย. โรงแรมเรเนซองส์ เปิดตัว R FINDS แพลตฟอร์มดิจิทัลระดับโลก ที่จะเชื่อมมนต์เสน่ห์ชุมชนท้องถิ่นสู่นักเดินทางทั่วโลก
๒๒ พ.ย. electric.neon.lamp หยิบเพลงฮิต แม้ ใส่ฟีลดนตรีเหงาปนเศร้าในแบบ Piano Version