นายนคร ลักษณกาญจน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทแนเชอรัลพาร์ค จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงการขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 60,212,570,294 หุ้นที่เสนอขายให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัทอัตราส่วนการจองซื้อหุ้นคือ 2 หุ้นสามัญเดิมต่อ 1 หุ้นสามัญใหม่ (2:1) ราคาเสนอขายต่อหุ้น : 0.029 บาทต่อหุ้นเมื่อวันที่ 3-7 มิถุนายน 2556 ที่ผ่านมา ผลปรากฏว่า บริษัทฯ สามารถขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนได้ทั้งหมดทั้งนี้ บริษัท แนเชอรัลพาร์ค จำกัด (มหาชน) ได้มีการจดทะเบียนเปลี่ยนแปลงทุนชำระแล้วของบริษัท จากทุนชำระเดิมจำนวน 120,425,140,588 บาทให้เป็นชำระแล้ว 180,637,710,882 บาทเมื่อวันที่ 17 มิถุนายน 2556
“ผู้ถือหุ้นมีความมั่นใจในแผนธุรกิจของแนเชอรัลพาร์ค และในตอนนี้เราประสบความสำเร็จในการเพิ่มทุนเพื่อที่จะนำมาดำเนินงานตามแผนธุรกิจและมีทุนหมุนเวียนในธุรกิจตามที่คาดหวังไว้ โดยบริษัทพร้อมสานต่อตามแผนธุรกิจให้บรรลุตามเป้าหมาย พร้อมเดินหน้าแผนรุกในการลงทุนธุรกิจหลักตลาดอสังหาริมทรัพย์ตั้งแต่ไตรมาสที่ 3/2556เป็นต้นไป
สำหรับแผนรุกตลาดอสังหาริมทรัพย์ บริษัทจะเริ่มต้นเจาะตลาดอสังหาริมทรัพย์ในกรุงเทพมหานครโดยกำลังเตรียมเปิดตัวโครงการคอนโดมิเนียมแบบโลว์ไรซ์ท่ามกลางธรรมชาติ เจาะกลุ่มคนทำงานบนพื้นที่ติดถนนรามอินทรามูลค่า 500 ล้านบาทมุ่งเน้นการตอบรับและให้ผลตอบแทนที่รวดเร็ว เนื่องจากเป็นพื้นที่ที่เรามั่นใจว่าตลาดความต้องการที่อยู่อาศัยยังอยู่ในระดับสูง คาดว่าจะได้รับการตอบรับที่ดี และยังมีโครงการอื่นๆ ซึ่งอยู่ในระหว่างการศึกษาและพร้อมเปิดเผยรายละเอียดเร็วๆ นี้นอกจากนั้นยังคงมองโอกาสการลงทุนในต่างจังหวัดที่น่าจะมีศักยภาพเพิ่มเติม”
“เราได้มีการวางแผนและศึกษาในการลงทุนเป็นอย่างดี บริษัทยังคงยึดเป้าหมายหลักและกลยุทธ์ของแนเชอรัลพาร์ค
ที่จะพัฒนาและบริหารเพื่อผลกำไรอย่างยั่งยืน มุ่งเน้นการลงทุนที่คุ้มค่าในโครงการที่มีศักยภาพ กลุ่มเป้าหมายชัดเจนและให้ผลตอบแทนที่รวดเร็วและอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่บริษัทและผู้ถือหุ้น” นายนครกล่าวทิ้งท้าย
ในไตรมาสที่ 2/2556 ที่ผ่านมาแนเชอรัลพาร์คได้มีการลงทุน 2 ธุรกิจ คือ ซื้อโรงแรมเซ็นทาราแอนด์คอนเวนชั่นเซนเตอร์จังหวัดขอนแก่นมูลค่าโครงการ900 ล้านบาท เพื่อรองรับการขยายตัวทางด้านเศรษฐกิจเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องคาดว่าจะมีรายรับที่น่าพอใจในปี 2556 ทั้งนี้บริษัทมีแผนที่จะพัฒนาเพิ่มเติมจำนวนห้องพักเพื่อรองรับความต้องการในอนาคตอันใกล้ และการลงทุนในธุรกิจการให้เช่าพื้นที่จัดทำคลังสินค้าที่เป็นผู้พัฒนาโครงการ Bangkok Free Trade Zone หรือ ศูนย์กลางอุตสาหกรรมและโลจิสติกส์ระดับภูมิภาค เป็นการลงทุนเพื่อให้เช่าพื้นที่คลังสินค้าปลอดอากร ปัจจุบันบริษัทถือหุ้นสามัญในพรอสเพคร้อยละ 13.56ซึ่งการลงทุนทั้งสองกลุ่มเป็นการตอบรับการเปิดประชาคมอาเซียนหรือเออีซีที่จะเกิดขึ้นใน ปีพ.ศ. 2558 นี้