นางสาวสุวภา เจริญยิ่ง กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ ธนชาต จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน (FA) และผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจัดจำหน่าย บริษัท แม็คกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ MC เปิดเผยว่า การเสนอขายหุ้นไอพีโอของแม็คกรุ๊ปนั้น เดิมได้กำหนดช่วงราคาการสำรวจความต้องการของนักลงทุนสถาบัน (บุ้คบิ้ว) ที่ 15-18 บาท แต่เราตัดสินใจร่วมกับบริษัทฯที่จะกำหนดราคาบุ้คบิ้วจากนักลงทุนสถาบันที่ราคาเดียวคือ ราคาขายที่ 15.00 บาท ซึ่งถือว่าเป็นราคาที่เหมาะสม คิดเป็น P/E ของบริษัทฯ ที่ค่อนข้างต่ำเมื่อเทียบกับ P/E กลุ่มที่ค่อนข้างสูง โดยมีอัตราส่วนราคาหุ้นต่อกำไรต่อหุ้นเฉลี่ยสุทธิของบริษัท (P/E เฉลี่ย) ที่ 13 เท่า หรือคิดเป็นอัตราส่วนราคาหุ้นต่อกำไรต่อหุ้นปรับลดสุทธิของบริษัท (P/E Fully diluted) ที่ 15 เท่า ในขณะที่ P/E กลุ่มอยู่ที่ 30-33 เท่า
ทั้งนี้ ถือได้ว่าบริษัทฯ ได้รับผลตอบรับที่ดีจากการบุ้คบิ้ว โดยมียอดจองจากนักลงทุนสถาบันมากกว่า 2.5 เท่า จากสภาวะตลาดที่ค่อนข้างผันผวนอยู่ในขณะนี้ ถือว่ายอดจองดังกล่าวอยู่ในเกณฑ์ดี เนื่องจากบริษัทฯ มีฐานลูกค้าอยู่ทั่วประเทศ และมีปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่ง ฐานะทางการเงินที่ดี อีกทั้งแนวโน้มในการเติบโตต่อไปในอนาคตที่จะขยายสาขาให้ครอบคลุมพื้นที่ทั่วประเทศ รวมถึงการขยายตัวไปยังประเทศเพื่อนบ้าน ประกอบกับการเปิดตัวสินค้าต่างๆ ภายใต้กลุ่มแม็คกรุ๊ป ซึ่งจะส่งผลให้บริษัทฯ มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง”
นางสาวสุวภา กล่าวต่อว่า ในส่วนของผู้ถือหุ้นเดิมของ MC เองมีความตั้งใจและเต็มใจโดยประกาศไม่ขายหุ้นทั้ง 100% โดยติดล็อคอัพ (Lock up) เป็นระยะเวลา 6 เดือนหลังจากวันที่หุ้น MC เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ คาดว่าจะสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนและได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี ประกอบกับหุ้น MC เป็นหุ้นพื้นฐานดี น่าลงทุน เหมาะสำหรับลงทุนระยะปานกลาง — ยาว จึงอาจถือได้ว่าเป็นหุ้นไอพีโอน้องใหม่อีกตัวหนึ่งที่น่าจับตามมอง
อนึ่ง บริษัทฯ เสนอขายหุ้นไอพีโอจำนวน 200,000,000 หุ้น หรือคิดเป็น 25 % ของจำนวนหุ้นที่เรียกชำระแล้วทั้งหมดภายหลังการเสนอขายในครั้งนี้ และจะจัดสรรให้กับนักลงทุนทั่วไป 45 % และนักลงทุนสถาบัน 55 % มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) 0.50 บาทต่อหุ้น
นางสาวสุณี เสรีภาณุ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แม็คกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ MC หนึ่งในผู้นำธุรกิจค้าปลีกเครื่องแต่งกายและสินค้าไลฟ์สไตล์โดยมีสินค้าหลักคือ “แม็คยีนส์” เปิดเผยว่า สำหรับราคาขายหุ้นไอพีโอที่ราคา 15.00 บาทนั้น ถือว่าเป็นราคาที่เหมาะสม เนื่องจากปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่งของบริษัทฯ และการเติบโตที่ต่อเนื่อง ซึ่งการกระจายหุ้นไอพีโอในครั้งนี้ บริษัทฯ คาดว่าจะได้รับการตอบรับที่ดีทั้งจากนักลงทุนทั่วไปและนักลงทุนสถาบัน
อย่างไรก็ดี คาดว่าเม็ดเงินที่ได้จากการเสนอขายหุ้นไอพีโอนั้น บริษัทฯ จะนำเงินไปใช้ในการขยายช่องทางการจัดจำหน่ายประมาณ 500 ล้านบาท ใช้เพื่อพัฒนาคุณภาพของผลิตภัณฑ์ประมาณ 200 ล้านบาท ใช้ในการจัดทำคลังสินค้าประมาณ 100 ล้านบาท ใช้สำหรับการพัฒนาระบบไอทีเพื่อให้การจัดการให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นอีกประมาณ 385 ล้านบาท และอีกส่วนหนึ่งจะนำไปใช้ในการชำระคืนหนี้ประมาณ 750 ล้านบาท ที่เหลือคาดว่าจะนำไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนและใช้เพื่อการลงทุนต่อไปในอนาคต
ปัจจุบัน บริษัทฯ มีทุนจดทะเบียน 400 ล้านบาท และทุนจดทะเบียนชำระแล้ว 300 ล้านบาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญ 600 ล้านหุ้น และหลังการเสนอขายหุ้นไอพีโอทำให้บริษัทฯ มีทุนชำระแล้ว 400 ล้านบาท หรือ 800 ล้านหุ้น และบริษัทฯ มีนโยบายปันผลไม่ต่ำกว่า 50% ของกำไรสุทธิ