นายจิรัฐ บวรวัฒนะ ประธานผู้บริหารร่วม และผู้ก่อตั้ง บริษัท เวอร์เทค เอเซีย จำกัด เปิดเผยว่า บริษัท เวอร์เทค เอเซีย (Vertex Asia) จำกัด เริ่มเปิดตัวเมื่อต้นปีที่ผ่านมาในฐานะบริษัทร่วมทุนไทย-ญี่ปุ่น ดำเนินธุรกิจด้านงานสื่อสารการตลาดครบวงจร มุ่งเน้นการนำศักยภาพของบุคลากรจากสองประเทศมาสร้างสรรค์กิจกรรมเนื้อหาความบันเทิงและการสื่อสารการตลาดรูปแบบใหม่ป้อนสู่กลุ่มผู้บริโภค โดยวางเป้าหมายเจาะตลาดในแถบภูมิภาคอาเซียน เริ่มต้นที่ประเทศไทยก่อนเป็นแห่งแรก เนื่องจากเป็นตลาดขนาดใหญ่ที่มีศักยภาพ ประกอบกับผู้บริโภคทั้งสองประเทศไทย-ญี่ปุ่นต่างมีความรู้จักในกันและกันทั้งในเรื่องค่านิยมและวัฒนธรรมมายาวนาน ก่อนที่จะเข้าไปทำตลาดในประเทศอื่นๆ ต่อไป
“สิ่งที่ผมทำคือการเก็บเกี่ยวประสบการณ์ชีวิตจากหลากหลายด้านโดยเฉพาะความเป็นบันเทิงและเรียลลิตี้ที่สดใหม่กับวงการตลาดเมืองไทย ซึ่งผมเชื่อว่าเนื้อหาความบันเทิงของญี่ปุ่นเป็นพื้นฐานที่คนไทยซึมซับมาตลอดระยะเวลากว่า 40 ปี และด้วยประสบการณ์ธุรกิจที่ตัวผมเองทำกับญี่ปุ่นมากว่า 10 ปี ในฐานะผู้บุกเบิก แก๊งค์ การ์ตูน ช่องการ์ตูน ฟรีทีวีรายแรกของประเทศไทย ซึ่งปัจจุบันเป็นช่องทีวีที่มีเรตติ้งสูงที่สุดในกลุ่มเด็กและเยาวชน จากประสบการณ์ทั้งหมดได้ถูกหลอมรวมเป็นเวอร์เทค เอเซียในวันนี้”
สำหรับประธานผู้บริหารร่วม และผู้ก่อตั้ง จากญี่ปุ่น คือ นายคัตซูตะ ทากะฮิโต (Katsuta Takahito) ผู้คร่ำหวอดในวงการแฟชั่นมากว่า 20 ปี ซึ่งหากใครติดตามวงการแฟชั่นญี่ปุ่นจะต้องรู้จักอย่างแน่นอน เพราะเค้าเป็นผู้จัดงานแฟชั่นโชว์ที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น อาทิ Tokyo runways, Kobe runways, Shanghai runways รวมถึง Bangkok runways ซึ่งการตัดสินใจทำงานร่วมกับนายคัตซูตะ (Katsuta) นั้น เป็นเพราะผมมีโอกาสทำงานร่วมกันมาก่อนระยะหนึ่งแล้วมีแนวคิดธุรกิจคล้ายๆ กัน ชอบสร้างสรรค์กิจกรรมแปลกใหม่ที่ไม่เคยมีใครทำมาก่อนเพื่อเพิ่มทางเลือกแก่ผู้บริโภค ทำให้ตัดสินใจร่วมมือทำธุรกิจนี้
นายจิรัฐ กล่าวอีกว่า คอนเซ็ปต์ธุรกิจเวอร์เทคเอเซีย ที่เรียกว่า “CEA” เป็นตัวย่อที่มาจาก 3 ส่วนหลัก นั่นคือ คอนเทนท์ (Content), อีเว้นท์ (Event) และ อาร์ตติสท์ แมเนจเม้นท์ (Artist Management) ซึ่งสะท้อนความเป็นตัวตนของเราออกมาได้ดีที่สุด
สำหรับ อีเว้นท์ (Event) เป็นการที่ผู้ถือหุ้นสองฝ่ายนำศิลปิน (Artist) และนางแบบ (Model) จากญี่ปุ่นเขัามาร่วมสร้างสรรค์กิจกรรมในรูปแบบเฟสติวัล คอนเสิร์ต และปาร์ตี้ โดยโครงการแรก คือ Bangkok Beach Party จัดเมื่อช่วงเดือนเมษายนที่ผ่านมา ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี
จากความสำเร็จดังกล่าวนำมาสู่การเตรียมจัดงาน Pattaya Beach Party ที่เซ็นทรัลบีชพัทยาช่วงกลางเดือนพฤศจิกายนที่จะถึงนี้ โดยจะนำศิลปินและนางแบบแฟชั่นจากญี่ปุ่น อาทิ Yuri Konno, Chihiro, Natsumi และนางแบบการ์เวีย (Gravure) ชั้นนำจากญี่ปุ่น อาทิ Ayaka Noda, Miwako และ Mai มาร่วมงานกับศิลปินไทยอย่างคับคั่ง และที่สำคัญจะมีนักร้องและดีเจชั้นนำจากประเทศญี่ปุ่นมาร่วมงานอย่างคับคั่งภายใต้คอนเซ็ป "ความสนุกสไตล์ญี่ปุ่น"
ส่วนที่สอง คือ คอนเทนท์ (Content) จากทิศทางการเติบโตของกลุ่มทีวีดิจิตอลเมืองไทยที่ปัจจุบันกำลังจะมีช่องทีวีดิจิตอลเพิ่มขึ้นอีก 24 ช่อง ทำให้ผมเห็นโอกาสในการผลิตคอนเทนท์คุณภาพป้อนตลาดเพื่อรองรับการเติบโตของดิจิตอลทีวีและโมบายคอนเท้นท์ ในรูปแบบรายการทีวีและโมบาย ทีวี ซึ่งไม่เพียงแต่จะผลิตมาเพื่อประเทศไทยเท่านั้นแต่ยังจะออกอากาศที่ประเทศญี่ปุ่นอีกด้วย โดยรายการแรกที่กำลังจะเริ่มถ่ายทำคือรายการ Unseen Dream เป็นรายการแนวเรียลลิตี้โชว์ที่นำซุปเปอร์สตาร์ จำนวน 6 คนจาก 2 ประเทศมาร่วมทำกิจกรรมแข่งขันค้นหาภาพจากสถานที่จริงและถ่ายภาพอันซีนในประเทศไทย จำนวนทั้งสิ้น 12 ภารกิจ โดยแต่ละภารกิจจะมีคำใบ้เพื่อเพิ่มความสนุกและตื่นเต้น ซึ่งในซีซั่นแรกจะค้นหาภาพถ่ายจากในกรุงเทพ สุโขทัยและกระบี่
โดยดารานักแสดงที่ร่วมครั้งนี้ โดยในฝั่งไทยจะมีนางสาวเขมนิจ จามิกรณ์ (แพนเค้ก), มุกดา นรินทร์รักษ์ มิสทีนไทยแลนด ซึ่ง ปัจจุบันได้รับการผลักดันจากนายคัตซูตะ (Katsuta) ให้ทำงานในวงการนางแบบที่ประเทศญี่ปุ่นและในฝั่งญี่ปุ่นก็จะมีคุณ Kaname Jun นักแสดงชั้นนำที่มีผลงานการแสดงภาพยนตร์และละครมาแล้วมากกว่า 100 เรื่องมาร่วมแสดงด้วย ทั้งนี้ รายการดังกล่าวได้เวลาออกอากาศในช่องTVK ประเทศญี่ปุ่น มีจำนวนผู้รับชมมากกว่า 20 ล้านครัวเรือนในเขตคันโต ครอบคลุมพื้นที่โตเกียวและบริเวณโดยรอบ ในส่วนของประเทศไทยกำลังรอว่าออกอากาศที่ช่องใด
และส่วนต่อไป คือ อาร์ตติสท์ แมเนจเม้นท์ (Artist Management) บริษัทเล็งเห็นโอกาสในการ โปรโมทศิลปินและนางแบบระหว่างไทยกับญี่ปุ่นให้เป็นที่รู้จักทำให้เริ่มที่จะนำศิลปินญี่ปุ่นเข้ามาทำตลาดในเมืองไทยอย่างจริงจัง
ทั้งนี้ บริษัทมั่นใจว่าเวอร์เทค เอซีย จะช่วยสร้างสีสันให้แก่วงการบันเทิง แฟชั่นและศิลปิน ให้คนไทยได้บริโภคความแปลกใหม่ที่สนุกสนานและตื่นเต้นยิ่งขึ้น โดยปีนี้วางแผนทุ่มงบการตลาดและประชาสัมพันธ์กว่า 20 ล้านบาท โดยตั้งเป้ารายได้รวมปีแรกอยู่ที่มูลค่าประมาณ 100 ล้านบาท