ผลการสำรวจของ บริษัท คลิฟฟอร์ด ชานซ์ พบว่าการควบรวมกิจการในยุโรปเป็นที่น่าดึงดูดใจของเหล่าบริษัทในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก

จันทร์ ๐๑ กรกฎาคม ๒๐๑๓ ๑๔:๒๗
ผลการสำรวจเผยว่าเทคโนโลยีและแบรนด์ที่เข้มแข็งเป็นปัจจัยสำคัญสำหรับการลงทุน

ขณะที่ความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจยังคงมีอยู่อย่างต่อเนื่องและปริมาณการทำธุรกรรมยังคงไม่เทียบเท่ากับในอดีต แต่ตลาดการควบรวบรวมกิจการในภูมิภาคยุโรปยังคงเป็นที่จับตามองของเหล่านักลงทุนจากเอเชียแปซิฟิก การประเมินมูลค่าทรัพย์สินที่ค่อนข้างต่ำประกอบกับโอกาสอันเกิดจากการที่บริษัทในยุโรปถอนการลงทุนออกจากทรัพย์สินที่ไม่ได้เป็นธุรกิจหลักของบริษัทแต่เป็นทรัพย์สินมีคุณภาพ ทำให้เกิดทางเลือกในการควบรวมกิจการอันน่าสนใจสำหรับผู้ซื้อที่มีความประสงค์ที่จะเข้าทำธุรกรรม

ข้อมูลดังกล่าวเป็นหนึ่งในสิ่งที่ได้ค้นพบจากการสำรวจทั่วโลกประจำปีล่าสุด โดยอ้างจากรายงาน การวิเคราะห์การควบรวมกิจการในภูมิภาคยุโรป: อยู่บนแนวทางสู่การฟื้นฟูหรือไม่ (European M&A: On the road to recovery?) ของบริษัทคลิฟฟอร์ด ชานซ์ ซึ่งเป็นรายงานผลการสำรวจการควบรวมกิจการทั่วโลกประจำปีฉบับที่สองที่สถาบันวิจัย Economist Intelligence Unit (EIU) เป็นตัวแทนทำการสำรวจให้แก่บริษัทคลิฟฟอร์ด ชานซ์ โดย EIU ได้สำรวจความคิดเห็นจากมุมมองของผู้บริหารอาวุโสจากบริษัทขนาดใหญ่ทั่วโลกกว่า 400 แห่งจากหลากหลายอุตสาหกรรม และพบว่าบริษัทมากกว่าครึ่งหนึ่งนั้นมีรายได้ประจำปีเกินกว่า 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

ทำไมต้องเป็นยุโรป?

วิกฤตการณ์ทางการเงินในยูโรโซนและความไม่มั่นคงที่ยังคงมีอยู่อย่างต่อเนื่องและยังไม่ได้รับการแก้ไขมีผลทำให้ความต้องการในการควบรวมกิจการในยุโรปและทั่วโลกลดลง โดยตัวเลขล่าสุดแสดงให้เห็นถึงปริมาณการควบรวมกิจการทั่วโลกที่ต่ำที่สุดประจำไตรมาสตั้งแต่ปี พ.ศ. 2552 โดยอ้างอิงจากเมอร์เจอร์มาร์เก็ต (Mergermarket) อย่างไรก็ตามมีเพียง 9 เปอร์เซนต์ของผู้ตอบแบบสำรวจในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกคิดว่ายุโรปเป็นสถานที่ที่ไม่น่าสนใจในการทำการควบรวมกิจการ ในปีที่ผ่านมาสหราชอาณาจักรเป็นเป้าหมายอันดับหนึ่งในการได้รับความสนใจจากบริษัทเอเชีย ตามด้วยประเทศเยอรมนีและฝรั่งเศส* ความน่าสนใจของบริษัทใน สหราชอาณาจักรเกิดขึ้นส่วนหนึ่งจากการที่ประเทศดังกล่าวได้รับผลกระทบจากวิกฤตการณ์ทางการเงินในยูโรโซนน้อยกว่าประเทศอื่นและถูกมองว่ามีสภาพแวดล้อมของการลงทุนที่ให้ความยอมรับแก่ต่างชาติมากกว่า อีกทั้งโดยรวมแล้วบริษัทเหล่านี้ยังมีงบดุลที่ดี จากการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ของ Citi บริษัทเหล่านี้จะมีรายได้มากกว่า 150 พันล้านปอนด์ (230 พันล้านดอลลาร์) ภายในสิ้นปี**

จากผลการสำรวจพบว่า 43 เปอร์เซนต์ ของผู้ตอบแบบสอบถามในเอเชียแปซิฟิกคิดว่าเทคโนโลยีและความรู้เชิงปฏิบัติการถือเป็นปัจจัยหลักสำหรับการเข้าซื้อกิจการในยุโรป โดยเฉพาะประเทศเช่นเยอรมนีที่พบการทำการควบรวมกิจการรวมไปถึงการที่กลุ่มบริษัทสัญชาติเกาหลีอย่างฮันวา (Hanwha) ซื้อผู้ผลิตเซลล์สุริยะ คิว-เซลล์ และการที่บริษัทซานยิ (SANY Heavy industry) เข้าซื้อบริษัทพุตซ์ไมสเตอร์ (Putzmeister) ผู้ผลิตรถปั๊มคอนกรีตชั้นนำ

28.7 เปอร์เซนต์ คิดว่าการเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดถือเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับบริษัทจากภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกที่อยู่กลุ่มตลาดอิ่มตัว อย่างเช่น ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งกำลังมองหาตลาดในต่างประเทศสำหรับขยายธุรกิจในอนาคตเนื่องจากมีโอกาสเติบโตภายในประเทศที่จำกัด

ผู้ตอบแบบสอบถามในเอเชียแปซิฟิกกว่า 26.2 เปอร์เซนต์ คิดว่าการที่แบรนด์มีชื่อเสียงที่เข้มแข็งเป็นเรื่องที่สำคัญและยังเป็นกลยุทธ์ของบริษัทจีนที่ใช้ในมองหาลู่ทางขยายธุรกิจ “การออกไปหาตลาดในต่างประเทศเป็นสิ่งที่บริษัทจีนไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้เพื่อที่จะประสบความสำเร็จ เติบโต และพัฒนาความได้เปรียบทางการแข่งขัน และเพื่อที่จะยกระดับห่วงโซ่คุณค่า (Value Chain) หนทางที่ง่ายและปลอดภัยที่สุดในการขยายธุรกิจ คือการใช้ทรัพยากรของบริษัทต่างชาติก็เพื่อที่จะพัฒนาทักษะการจัดการเชิงกลยุทธ์ แบรนด์และการเข้าถึงตลาด” มร.หลิง โฮ หุ้นส่วนของบริษัทคลิฟฟอร์ด ชานซ์ ที่ทำงานในแผนกทรัพย์สินทางปัญญาที่ประเทศฮ่องกง กล่าว

การประเมินมูลค่าอันน่าสนใจก่อให้เกิดโอกาสที่ดีใน ‘การต่อรอง’

ความเสี่ยงที่เกิดขึ้นในภูมิภาคยุโรปทุกวันนี้กำลังเปิดโอกาสให้กับนักลงทุนที่กล้าเสี่ยงที่จะได้สินทรัพย์ในมูลค่าที่น่าดึงดูด ผู้ตอบแบบสอบถามทั่วโลกประมาณ 43 เปอร์เซนต์คิดว่าความท้าทายจากสภาพทางสังคมและเศรษฐกิจกำลังเพิ่มแรงจูงใจในการทำการควบรวมกิจการในภูมิภาคยุโรป

นอกจากนี้ 72 เปอร์เซนต์ ของผู้ตอบแบบสอบถามในเอเชียแปซิฟิก เห็นว่าการประเมินค่าของทรัพย์สินในยุโรปนั้นถ้าไม่ประเมินต่ำกว่าความเป็นจริงก็ประเมินได้อย่างถูกต้อง และอีก 71.3 เปอร์เซนต์ คาดว่าการประเมินค่าของทรัพย์สินจะยังคงเท่าเดิมหรืออาจลดลงในอีกสองปีข้างหน้า นั่นหมายความว่าเราอาจเห็นนักลงทุนเอเชียฉวยโอกาสเข้าทำการควบรวมกิจการในยุโรปในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า

เงินสดคล่องตัวแต่ยังคงรอดูท่าทีเกี่ยวกับการควบรวมกิจการ

บริษัทในเอเชียแปซิฟิกโดยรวมมีงบดุลที่ดี โดยผู้ตอบแบบสอบถามชาวจีน 87.1 เปอร์เซนต์ และผู้ตอบแบบสอบถามชาวญี่ปุ่น 80 เปอร์เซนต์ ชอบใช้เงินสดสำรองเพื่อที่จะทำการเข้าซื้อและควบรวมกิจการ ถึงแม้ว่าจะมีแรงขับเคลื่อนอันแข็งแกร่งและทัศนคติต่อการลงทุนเชิงบวก ปริมาณการทำธุรกรรมการเข้าซื้อและควบรวมกิจการในยุโรปยังไม่ได้เกิดขึ้นตามที่คาดการณ์ไว้ โดยบริษัทในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกยังรอดูแนวโน้มทางธุรกิจอยู่

ความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงของค่าเงินยังถือเป็นความเสี่ยงที่ใหญ่ที่สุดที่จะส่งผลกระทบต่อการควบรวมกิจการในภูมิภาคยุโรป โดยคิดเป็น 41.8 เปอร์เซนต์ของผู้ตอบแบบสอบถามในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ตามมาด้วยปัจจัยด้านต้นทุนที่เพิ่มสูงขึ้นจากค่าแรงและภาษี (35.2 เปอร์เซ็นต์) และปัจจัยความเสี่ยงด้านชื่อเสียงคิดเป็น 30.3 เปอร์เซนต์

จากการที่ปริมาณของการควบรวมกิจการลดลงอย่างต่อเนื่องแสดงให้เห็นว่ากลุ่มผู้สนใจเข้าร่วมตลาดยังคงเห็นว่าความเสี่ยงที่ได้จากการควบรวมกิจการในภูมิภาคยุโรปนั้นยังคงมีมากกว่าประโยชน์ที่จะได้กลับมา

มร.โรเจอร์ เดนนี่ หัวหน้าฝ่ายการเข้าซื้อและควบรวมกิจการประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก กล่าวเสริมว่า “แม้ว่าผลจากการสำรวจของเราจะพบว่าบริษัทเอเชียมุ่งเน้นไปที่การเข้าซื้อกิจการภายในภูมิภาคมากกว่า แต่ภูมิภาคยุโรปยังมีความน่าดึงดูดและโอกาสเชิงกลยุทธ์สำหรับบริษัทของเอเชียแปซิฟิกเพื่อพัฒนาธุรกิจของพวกเขาอยู่ เราคาดว่าการเติบโตด้านการลงทุนนอกภูมิภาคเอเชียจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องและยุโรปจะเป็นปัจจัยสำคัญในการเติบโตนี้”

ข้อมูลเพิ่มเติมสำหรับบรรณาธิการ:

1. เกี่ยวกับรายงาน: ในหกเดือนแรกของปี พ.ศ. 2556 EIU ทำการสำรวจทั่วโลกในนามของบริษัทคลิฟฟอร์ด ชานซ์ เพื่อสำรวจทัศนคติเกี่ยวกับการควบรวมกิจการในภูมิภาคยุโรป EIU สำรวจความดึงดูดใจของทรัพย์สินในภูมิภาคยุโรปสำหรับผู้ซื้อและผู้ขายทั่วโลก และยังสามารถระบุถึงปัจจัยหลักด้านความเสี่ยงและโอกาสสำหรับบริษัทที่ตัดสินใจจะเข้าทำการควบรวมกิจการในภูมิภาคยุโรป ทั้งนี้ EIU ได้ทำการสำรวจกลุ่มตัวอย่างกว่า 370 ราย ซึ่งทั้งหมดต่างก็เป็นผู้ที่มีความเกี่ยวข้องหรือคุ้นเคยกับกลยุทธ์ทางด้านการควบรวมกิจการของบริษัทและยังเป็นตัวแทนของบริษัทที่มีแผนหรือกำลังวางแผนทำข้อตกลงควบรวมกิจการระหว่างประเทศที่มาจากหลากหลายอุตสาหกรรมและภูมิภาคกัน ประมาณสองในห้ามีฐานประจำอยู่ที่ยุโรป หนึ่งในสามประจำอยู่ที่เอเชียแปซิฟิก หนึ่งในห้ามาจากอเมริกาเหนือ และส่วนหนึ่งมาจากตะวันกลาง แอฟริกา และลาตินอเมริกา มากกว่าครึ่งหนึ่งของกลุ่มบริษัทตัวอย่างมีรายได้ประจำปีมากกว่า 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ และอีกส่วนมีรายได้ประจำปีระหว่าง 500 — 1,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อที่จะทำให้การสำรวจนี้สมบูรณ์แบบ EIU ยังรวบรวมซีรี่ย์การสัมภาษณ์เชิงลึกกับผู้บริหารธุรกิจระดับอาวุโส รวมถึงผู้เชี่ยวชาญไว้อีกด้วย

2. บริษัทคลิฟฟอร์ด ชานซ์ เป็นหนึ่งในบริษัทกฎหมายชั้นนำของโลก ที่ช่วยลูกค้าให้บรรลุวัตถุประสงค์โดยการผสมผสานมาตรฐานสูงสุดระดับโลกจากผู้เชี่ยวชาญในแต่ละพื้นที่ ทั้งนี้บริษัทยังมีความได้เปรียบและมีความพร้อมทางด้านทรัพยากรที่ถูกต้องตามกฎหมายทั่วทั้ง 5 ภูมิภาคสำคัญอันได้แก่ แอฟริกา อเมริกา เอเชียแปซิฟิก ยุโรป และตะวันออกกลาง อีกทั้งยังมุ่งเน้นไปยังส่วนสำคัญต่างๆในการดำเนินธุรกิจทางการค้า ไม่ว่าจะเป็นใน ตลาดทุน องค์กรและการควบรวบกิจการ การเงินและการธนาคาร อสังหาริมทรัพย์ ภาษี เงินบำนาญและการจ้างงาน ตลอดจนการฟ้องร้องและการแก้ปัญหาความขัดแย้งต่างๆ

3. บริษัทมีสำนักงานทั้งสิ้นกว่า 35 แห่งใน 25 ประเทศ ประกอบด้วยที่ปรึกษากว่า 3,400 ราย บริษัทยังดำเนินงานร่วมกับบริษัทกฎหมาย อัล-จาดาอัน แอนด์ พาร์ทเนอร์ ของประเทศซาอุดิอาระเบียอีกด้วย

4. บริษัทคลิฟฟอร์ด ชานซ์ ปฏิบัติการทั่วทั้งภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก มีสำนักงานประจำกรุงเทพฯ ฮ่องกง เพิร์ธ กรุงโซล นครเซี่ยงไฮ้ สิงคโปร์ นครซิดนีย์ และมหานครโตเกียว อีกทั้งทนายกว่า 400 รายประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก โดยคลิฟฟอร์ด ชานซ์ถือเป็นหนึ่งในบริษัทสากลที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคนี้และมีชื่อเสียงในฐานะผู้นำทางธุรกิจอีกด้วย

*เมอร์เจอร์มาร์เก็ต (Mergermarket)

**ซีเอ็นบีซี "Why a wave of European Deals could be next" ประจำวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2556

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๕ พ.ย. ดิ เอราวัณ กรุ๊ป เปิดตัว HOP NextGen ชวนนักศึกษาเยี่ยมชม ฮ็อป อินน์ เรียนรู้เทคนิคบริการแบบ Consistency is Yours พร้อมพัฒนาบุคลากรรุ่นใหม่
๑๕ พ.ย. คิง เพาเวอร์ ต้อนรับเทศกาลแห่งความสุขส่งท้ายปี เปิดแคมเปญ THE POWER OF FUNTASTIC CELEBRATION 2025 ฉลองทุกความสุข สนุกไม่รู้จบ
๑๕ พ.ย. พันธุ์ไทย ชวนแฟนด้อม คัลแลนและพี่จอง จุ่ม การ์ดพันธุ์ไทยใจฟู ลิมิเต็ด อิดิชั่น
๑๕ พ.ย. BAM ทรานส์ฟอร์มองค์กรสู่ DIGITAL ENTERPRISE ตอกย้ำผู้นำ AMC ยุค 4.0 วางเป้าหมายยกระดับองค์กรสร้างโอกาสเติบโตอย่างยั่งยืน เตรียมส่ง อิสระ เดอะซีรีส์ ชวนลูกหนี้ BAM
๑๕ พ.ย. บางจากฯ ได้รับการประเมินด้านความยั่งยืนอันดับสูงสุดของโลก จาก SP Global 2024 ในกลุ่มอุตสาหกรรม Oil Gas Refinery and
๑๔ พ.ย. ซีเอเค อินเตอร์เนชั่นแนล ออกบูธให้ความรู้เรื่องการใช้งานระบบดับเพลิงนร. พระหฤทัยนนทบุรี
๑๒ พ.ย. พนักงานซีเอเค อินเตอร์เนชั่นแนล รับรางวัลเจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทำงานดีเด่น
๑๕ พ.ย. PROSPECT REIT ชูไตรมาส 3/67 โตเกินเป้า อัตราการเช่าพุ่งนิวไฮ หนุนจ่ายปันผลเด่น 0.2160 บาท
๑๕ พ.ย. CHAO ประกาศงบ Q3/67 กำไรพุ่งกว่า 62% รับตลาดส่งออกพีค จีนโตเด่น แย้ม Q4 เดินหน้าบุกตลาดในประเทศ สินค้าใหม่หนุนยอดขายปลายปี
๑๕ พ.ย. ฉลองเทศกาลลอยกระทงประจำปี 2567 ณ โรงแรมแมนดาริน โอเรียนเต็ล กรุงเทพฯ