หมอแนะเลี่ยงแสงแดด ยาคุมกำเนิด จะช่วยป้องกันการเกิดฝ้า กระ

ศุกร์ ๐๕ กรกฎาคม ๒๐๑๓ ๑๖:๓๕
หน้าหมองคล้ำ เต็มไปด้วย กระ ฝ้า พาจะทำให้ชีวิตหมองหม่น หน้าขาวใส มีชัยไปกว่าครึ่ง พ.ญ.ฐิติกาญจน์ ธีระพันธ์เจริญ หรือ ด็อกเตอร์กาญจน์ ย่านสนามเป้า แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านหัตถการความงาม เผยวิธีการหลีกเลี่ยง และการรักษา ทำอย่างไรให้กระ ฝ้า นั้น จางหายไปจากใบหน้าของเรา

พ.ญ.ฐิติกาญจน์ ธีระพันธ์เจริญ เผยว่า “กระ ฝ้า ยังคงเป็นปัญหาที่กวนใจของหนุ่มๆ สาวๆ เห็นได้จากคนไข้ที่เข้ามาทำการรักษาที่มีมากถึง 70 % และเราจะรู้ได้อย่างไรว่าใบหน้าของเรานั้น กระ ฝ้า ได้บุกเข้ามายึดครองพื้นที่แล้วหรือยัง สังเกตได้โดยบริเวณที่พบการเกิด กระ ฝ้า ได้บ่อยคือ โหนกแก้มทั้ง 2 ข้าง จมูก หนวด หรือสามารถลามไปทั่วใบหน้าได้เช่นกัน ซึ่งเกิดจากความผิดปกติของการสร้างเม็ดสี หรือที่เรียกว่า “เมลานิน” (Melanin) มากกว่าปกติ ลักษณะของกระ จะมีลักษณะเป็นจุดสีน้ำตาล มีขนาดเล็กกว่า 0.5 เซนติเมตร และจะกระจายอยู่บริเวณใบหน้าหรือผิวหนังที่ถูกแสงแดดเป็นประจำ หรืออาจจะมีสาเหตุมาจากพันธุกรรมร่วมด้วย

ดังนั้นวิธีที่จะเป็นการป้องกันไม่ให้ใบหน้าของเราเกิด กระ ฝ้า หรือกระตุ้นให้เกิดมากยิ่งขึ้น เริ่มต้นด้วยการหลีกเลี่ยงแสงแดด และควรใช้ครีมกันแดดที่มีเอสพีเอฟ 50 ขึ้นไป ทาให้ทั่วใบหน้า และควรหลีกเลี่ยงการรับประทานยาฮอร์โมนอย่างยาคุมกำเนิด และหากหลบไม่พ้นการเกิดกระและฝ้า จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องเริ่มรักษา ซึ่งมีหลายวิธีการขึ้นอยู่กับชนิดของฝ้า และความลึกของเม็ดสีเมลานินในชั้นผิวหนัง โดยการรักษามีตั้งแต่ใช้ผลิตภัณฑ์เวชสำอาง การทายา และการใช้เทคโนโลยีเครื่องมือต่างๆ เข้าช่วย

การรักษาโดยใช้ผลิตภัณฑ์เวชสำอางนั้น สามารถทำให้กระ ฝ้า แลดูจางลงได้ด้วยการใช้กรดผลไม้ และกรดวิตามินเอ มาช่วยผลัดเซลล์ผิวหนังกำพร้า ทำให้เม็ดสีเมลานิน ถูกกำจัดออกให้เร็วยิ่งขึ้น และยังมีกลุ่มที่ลดการสร้างเม็ดสี เช่น Kojic acid, วิตามินซี อีกด้วย นอกจากนี้ยังมีการใช้ยาทา ซึงจะมีส่วนผสมของ Hydroquinone ซึ่งจะช่วยลดการสร้างเม็ดสีเมลานิน แต่ต้องใช้ระยะเวลาประมาณ 1 เดือนถึงจะเห็นผลการเปลี่ยนแปลง แต่ต้องอยู่ในความดูแลของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังโดยเฉพาะ เพราะอาจเกิดผลข้างเคียงได้ เช่น อาการแสบแดง ระคายเคือง อาจทำให้คล้ำมากกว่าเดิม หรือกลายเป็นด่างขาวได้ ซึ่งไม่ว่าจะเป็นการใช้ผลิตภัณฑ์เวชสำอาง หรือการใช้ยาทา จะเหมาะสำหรับผู้ที่เป็นกระ ฝ้า ที่เม็ดสีเมลานินอยู่สะสมในชั้นผิวหนังกำพร้า

สำหรับสาวๆ ที่อยากเห็นผลไว อาจใช้เทคโนโลยีหรือเครื่องมือต่างๆ เข้ามาช่วย ไม่ว่าจะเป็นการรักษาด้วยการกรอผิวหน้าด้วย Microdermabrasion เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาเป็น ฝ้าตื้น ซึ่งจะมีเม็ดสีเมลานินสะสมในชั้นผิวหนังกำพร้า และจะมีสีน้ำตาลเข้ม ขอบชัดเจน โดยการรักษาวิธีนี้จะขจัดเซลล์ผิวในชั้นหนังกำพร้า ทำให้เม็ดสีเมลานินนั้นหลุดออกไป หรือการใช้เครื่องให้กำเนิดแสงความเข้มสูง IPL (Intense Pulse Light) และการใช้เลเซอร์ด้วย Q — Switch ND YAG Laser โดยทั้ง 2 การรักษานี้ เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาเป็น ฝ้าลึก ซึ่งจะมีเม็ดสีเมลานินสะสมในชั้นผิวหนังแท้ และฝ้าชนิดนี้จะมีสีเทาขอบเขตไม่ชัดเจน รวมทั้ง ฝ้าชนิดผสม ที่จะมีเม็ดสีเมลานินสะสมมากผิดปกติทั้งในชั้นผิวหนังกำพร้า และชั้นผิวหนังแท้ โดยวิธีการรักษาแบบ IPL และ Q — Switch ND YAG Laser นี้จะให้กำเนิดพลังงานแสงไปยังผิวหนังที่มีรอยคล้ำในบริเวณที่เม็ดสีเมลานินมีปริมาณมากกว่าปกติ โดยจะดูดซับแสงแล้วเปลี่ยนเป็นพลังงานความร้อน จึงมีผลทำให้เม็ดสีเมลานินบริเวณนั้นถูกทำลาย กระ ฝ้า จึงแลดูจางลง โดยลดเม็ดสีเมลานินส่วนเกินในผิวหนังได้ แต่ไม่สามารถป้องกันการเกิดเม็ดสีที่สะสมขึ้นมาใหม่ โดยวิธีการรักษาดังกล่าวยังให้ผลการรักษาค่อนข้างรวดเร็ว แต่มีค่าใช้จ่ายสูง และต้องรักษาภายใต้การดูแลของแพทย์ผู้มีความรู้และเชี่ยวชาญทางด้านการใช้เครื่องมือโดยเฉพาะ แต่สิ่งสำคัญสุดหลังการรักษา คือการทายา หรือใช้ผลิตภัณฑ์เวชสำอางที่ลดการสร้างเม็ดสี ร่วมกับการป้องกันการสร้างเม็ดสีด้วยการทาครีมกันแดดเป็นประจำ”

คุณหมอคนสวยยังกล่าวทิ้งท้ายว่า “การรักษากระ ฝ้า นั้น ยังมีข้อจำกัดอยู่มาก เนื่องจากยังไม่ทราบสาเหตุของการเกิดกระ ฝ้า ที่แน่ชัด ทำให้การรักษาในปัจจุบันยังเป็นการรักษาที่ปลายเหตุ ไม่เพียงเท่านี้การรักษาแต่ละชนิด ยังสามารถเกิดผลข้างเคียงได้ จึงควรเลือกวิธีการรักษาด้วยความรอบคอบ และควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนัง เพื่อความปลอดภัย และเกิดประสิทธิภาพในการรักษาสูงสุด”

หนุ่มสาวคนไหนที่ไม่มั่นใจว่าบริเวณโหนกแก้มซ้ายและขวา โดนยึดครองพื้นที่เป็นปื้นสีดำด้วยกระและฝ้าหรือยัง สามารถปรึกษาได้ที่ 0-2617-2153 และ 084-886-6615

หากต้องการรายละเอียดเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ บริษัท แม็กซิม่า คอนซัลแตนท์ จำกัด

โทร.0-2619-0429 ถึง 30 สุจินดา, แสงนภา, ภัควลัญชญ์

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๓๒ Electronic Nose นวัตกรรมตรวจวัดกลิ่น! เพื่อสิ่งแวดล้อมที่ดี กรมอนามัย ร่วม MOU กรมควบคุมมลพิษ และ 4 หน่วยงานรัฐ - เอกชน
๑๗:๐๑ ITEL ประชุมผู้ถือหุ้นประจำปี 68 ไฟเขียวอนุมัติแจกวอร์แรนต์ฟรี ลุยขยายธุรกิจ
๑๗:๐๓ สวทช. โดย นาโนเทค เฟ้นหา 8 ผู้ประกอบการ ต่อยอดนวัตกรรมสมุนไพรสู่ผลิตภัณฑ์มูลค่าสูง
๑๗:๕๙ คาเฟ่ แคนทารี ชวนมาลิ้มลองเมนูพิเศษประจำเดือนพฤษภาคม - มิถุนายน 2568 อร่อยครบเครื่องทั้งรีซอตโตต้มยำ เครป
๑๗:๑๗ ซีพี ออลล์ x มูลนิธิชาวปักษ์ใต้ ร่วมสนับสนุนทุนการศึกษาเพื่ออาชีพแก่เยาวชนในจังหวัดภาคใต้
๑๗:๑๑ ซีพีแรม ดีเดย์ เปิดเวที FINNOVA 2025 : ยกระดับความรู้สู่นวัตกรรมอาหาร ปักหมุดไทยศูนย์กลางนวัตกรรมอาหารโลก
๑๗:๑๙ ดีไซน์เพื่อชีวิตที่ไม่หยุดนิ่ง: อาดิดาส ออริจินอลส์ เผยโฉม ADIZERO ARUKU พร้อมพื้นรองเท้าแบบโปรเกรสซีฟ
๑๖:๒๘ พรีโม จับมือ Q-CHANG จัดทัพทีมช่างกว่า 2,000 ทีม! ยกระดับบริการซ่อมห้องชุด ตอกย้ำแนวคิด Primo Happy Maker
๑๖:๓๙ ครั้งแรก กับ Dance (แดนซ์) Glossy Body Hair Perfume Mist น้ำหอม 2-in-1 พร้อมเปิดตัวพรีเซ็นเตอร์คนใหม่ เก๋ไก๋ บุกใจกลางกรุง ชวนสาวๆ
๑๖:๕๓ SCB CIO ชี้ 3 ปัจจัยกระทบตลาดการเงินฉุดสินทรัพย์ทั่วโลกผันผวน แนะระวังการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยง เพิ่มน้ำหนักหุ้นกู้ระยะสั้นคุณภาพดี และ