LPN ปลื้มคนแห่เข้าชมบูธในงานมหกรรมฯ กว่าหมื่นราย ชี้ดีมานด์คอนโดใกล้รถไฟฟ้ายังมีอยู่สูง

กรุงเทพฯ--31 ต.ค.--แอล.พี.เอ็น. ดีเวลลอปเมนท์
LPN ปลื้มคนแห่เข้าชมบูธในงานมหกรรมบ้านและคอนโดกว่า หมื่นราย ชี้ชัดผลกระทบจากการปรับตัวของราคาน้ำมัน กระตุ้นให้คนส่วนใหญ่ต้องการที่อยู่อาศัยใกล้แหล่งงานและระบบคมนาคมสมัยใหม่ มั่นใจไตรมาสสุดท้ายตลาดคอนโดจะกลับมาคึกคักอีกครั้งด้วยความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่เพิ่มมากขึ้น เตรียมกวาดยอดขายรวมทั้งปี กว่า 7 พันล้านบาท
นายทิฆัมพร เปล่งศรีสุข กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอล.พี.เอ็น. ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) กล่าวถึง ผลของการเข้าร่วมงานมหกรรมบ้านและคอนโด ครั้งที่ 13 ว่า จากการที่บริษัทฯ ได้นำห้องชุดใน 6 โครงการคุณภาพ บน 6 ทำเลทองที่เหมาะสำหรับการอยู่อาศัยมาแนะนำให้แก่ผู้เข้าร่วมงานได้ศึกษารายละเอียดนั้น ตลอดระยะเวลา 4 วันของการจัดงานได้มีผู้สนใจเข้าร่วมชมบูธของบริษัทมากกว่า 10,000 ราย โดยผู้เข้าชมบูธส่วนใหญ่จะให้ความสนใจกับทำเลที่ตั้งของโครงการเป็นอันดับแรก จึงสะท้อนให้เห็นว่า ณ ปัจจุบันความต้องการคอนโดมิเนียมใจกลางเมืองที่แวดล้อมด้วยระบบคมนาคมสมัยใหม่ (Mass Transit) อย่าง รถไฟฟ้า BTS และรถไฟฟ้าใต้ดิน MRT นั้น ยังมีปริมาณความต้องการที่สูง เมื่อเปรียบเทียบกับจำนวนสินค้าที่มีอยู่ในตลาด และจากผลกระทบของการปรับตัวขึ้นของราคาน้ำมัน ซึ่งถึงแม้จะมีสัญญาณการปรับตัวที่ลดลง ก็ยังคงถือเป็นปัจจัยสำคัญที่กระตุ้นให้คนมองหาที่อยู่อาศัยที่ใกล้กับแหล่งงานและเครือข่ายระบบคมนาคมเป็นสำคัญ
“บริษัทฯ ได้ส่งโครงการเข้าร่วมงานมหกรรมบ้านและคอนโดเป็นประจำทุกปี แต่ไม่หวังผลด้านยอดขายมากนัก เพราะวัตถุประสงค์ คือ ต้องการที่จะสร้างการรับรู้ในเรื่องของแบรนด์ และการประชาสัมพันธ์โครงการต่างๆ ของบริษัทให้แก่ลูกค้า อีกทั้งคนที่ไปร่วมงานส่วนใหญ่จะไปเพื่อเก็บ ข้อมูลเบื้องต้น ซึ่งการตัดสินใจซื้อมักจะเกิดขึ้นหลังจากนั้นอีกประมาณ 1-2 สัปดาห์” กรรมการ ผู้จัดการ กล่าวเพิ่มเติม
อย่างไรก็ตาม ราคาขายเดิมที่ยังไม่มีการปรับตัวและการทำโปรโมชั่นพิเศษในช่วงสิ้นปี ยังถือเป็นสิ่งกระตุ้นสำคัญที่ช่วยเร่งการตัดสินใจซื้อให้เร็วขึ้น หลังจากในช่วงไตรมาสที่ผ่านมาผู้บริโภคมีการชะลอการตัดสินใจซื้อที่อยู่อาศัย ด้วยปัจจัยทางเศรษฐกิจหลายประการ แต่คาดว่าในไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคจะเพิ่มมากขึ้น ส่งผลให้ตลาดคอนโดมิเนียมจะกลับมาคึกคักกว่า ไตรมาสที่ผ่านมาแน่นอน
ทั้งนี้ บริษัทฯ ประมาณการยอดรับรู้รายได้ในไตรมาส 3 ของปี 2548 อยู่ที่ 1,200 ล้านบาท และสิ้นปี 2548 คาดว่าจะมียอดรับรู้รายได้ประมาณ 3,000 ล้านบาท โดยผลการดำเนินงานงวด 9 เดือน ปี 2548 คาดว่าจะมียอดขายมากกว่า 6 พันล้านบาท และถึงสิ้นปี 2548 บริษัทฯ จะมียอดขายรวมทั้งสิ้นประมาณ 7 พันล้านบาท ซึ่งเป็นไปตามเป้าหมายที่บริษัทกำหนดไว้ตั้งแต่ต้น
ฝ่ายประชาสัมพันธ์ โทร. 02-285-5011-6 ต่อ 500, 502, 504
สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net--จบ--