“จากข้อมูลที่ผมให้ทีมลงทุนของบริษัทวิเคราะห์ดู คือ เศรษฐกิจไทยในปีนี้ อาจชะลอตัวลงมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ เป็นผลมาจากกำลังซื้อในประเทศต่ำลง ในขณะที่การส่งออกครึ่งปีแรก ซ้ำเติมจากปัญหาเงินบาทแข็งค่า ในครึ่งปีหลัง การส่งออกจะขยายตัวต่ำลงมากจากผลของเศรษฐกิจคู่ค้าสำคัญ เช่น จีน ชะลอตัวมากกว่าที่ใครๆ คาดไว้คืออาจจะขยายตัวต่ำกว่า 7.5% ไม่ใช่ขยายตัว 8% ตามที่ตลาดเคยคาดการณ์ไว้ ขณะนี้ บริษัทเอกชนขนาดใหญ่ เช่น ปตท. ลดแผนกู้เงินลงและทบทวนแผนการลงทุน ทั้งหมดนี้ทำให้เราเชื่อว่าใน 6 เดือนจากนี้ไป ดอกเบี้ยจะไม่ขึ้นและอาจจะลงได้ ถ้าเศรษฐกิจจีนชะลอตัวลงมากกว่าที่คาดการณ์”
“บลจ.ฟินันซ่า จึงออกกองทุนตราสารหนี้ 6 เดือนเป็นทางเลือกแก่ลูกค้า คือ กองทุนเปิดฟินันซ่าตราสารหนี้พลัสโรลโอเวอร์ 6 เดือน 4 (FAM FIPR6M4) โดยมีอัตราผลตอบแทนโดยประมาณ 2.85% ต่อปี โดยเปิดเสนอขายระหว่างวันที่ 9-16 ก.ค. 2556 ติดต่อที่ 02-352-4050 โดยสินทรัพย์ในกองทุนบางส่วนจะลงทุนเป็นเงินฝากธนาคารต่างประเทศและในประเทศที่มีอันดับความน่าเชื่อถืออยู่ในระดับที่ลงทุนได้ขึ้นไป”
สำหรับการลงทุน 6 เดือน เป็นกองทุนที่โรลโอเวอร์มาจากกองก่อนหน้านี้ FAM FIPR6M4 เป็นกองทุน specific fund โดยกองทุนจะพิจารณาลงทุนในตราสารแห่งหนี้ และ/หรือ เงินฝากของภาครัฐและภาคเอกชน ทั้งในประเทศและต่างประเทศ อาทิ เงินฝากธนาคารต่างประเทศสกุลเงิน USD, CNY, HKD, EUR, JPY กับธนาคาร BOC(Macau), Standard Chartered Bank (Hong Kong), ธนาคาร CIMB Niaga (Indonesia) หรือเงินฝากสกุลเงิน AED ธนาคาร Abu Dhabi Commercial Bank, UAE (F1), ธนาคาร Union National Bank, UAE(P-1), ธนาคาร CBQ (Qatar), ตั๋วเงินหรือเงินฝากธนาคารพาณิชย์ในประเทศ, ตั๋วแลกเงิน บมจ.ดั๊บเบิ้ล เอ (1991) (BBB), ตั๋วแลกเงิน บมจ.เอเซียเสริมกิจลีสซิ่ง (BBB+), ตราสารหนี้ บมจ.บัตรกรุงไทย, หรือตราสารหนี้ภาคเอกชนที่มีอันดับความน่าเชื่อถือ BBB+ ขึ้นไป ตั๋วเงินคลังหรือพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย เป็นต้น
โดยผู้ลงทุนสามารถลงทุนขั้นต่ำเพียง 2,000 บาท ซึ่งหากนักลงทุนสนใจ สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ 02-352-4050 อัตราผลตอบแทนสามารถดูได้จากเอกสารแนบ
การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนตัดสินใจลงทุน ผลการดำเนินงานในอดีตของกองทุนรวมมิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต