กรมหมอดิน ชูอนุรักษ์ดินและน้ำ ฟื้นชีวิตเกษตรกรไทย

พุธ ๑๐ กรกฎาคม ๒๐๑๓ ๑๐:๑๙
กรมพัฒนาที่ดิน กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ผนวกปัญหาดินเสื่อมและปัญหาน้ำท่วมภัยแล้ง ผุดโครงการอนุรักษ์ดินและน้ำ หวังพลิกฟื้นที่ทำกิน ช่วยเหลือเกษตรกรให้ได้ผลผลิตอย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย

ดร.พิทยากร ลิ่มทอง ผู้เชี่ยวชาญด้านอนุรักษ์ดินและน้ำ กรมพัฒนาที่ดิน กล่าวว่า ปัจจุบันทรัพยากรดินที่ใช้ทำการเกษตรมีสภาพค่อนข้างเสื่อมโทรมและอินทรีย์วัตถุต่ำมากเกือบทั่วทั้งประเทศ เห็นชัดที่สุดคือภาคตะวันออกเฉียงเหนือ นอกจากนี้ ยังประสบปัญหาอื่นๆ เช่น ปัญหาดินเค็ม ดินเปรี้ยว เป็นต้น ส่วนเรื่องน้ำ ปัญหาที่เกษตรกรประสบอยู่คือ น้ำท่วมและภัยแล้ง ดังนั้น กรมพัฒนาที่ดินจึงได้ผนวกทั้งสองปัญหาเข้าด้วยกันเกิดเป็นโครงการอนุรักษ์ดินและน้ำ โดยมีหลักการคือ เก็บดินไว้ในพื้นที่ เก็บน้ำไว้ในดิน

ดร.พิทยากร กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับการอนุรักษ์ดินและน้ำจะใช้หลักวิชาการ 2 วิธี คือ วิธีกลและวิธีพืช สำหรับวิธีกลนั้น เป็นการควบคุมนํ้าไหลบ่าหน้าดิน โดยการสร้างสิ่งกีดขวางความลาดเทของพื้นที่และทิศทางการไหลของนํ้า ช่วยลดความเร็วของกระแสนํ้า โดยความยาวของความลาดเทจะถูกแบ่งออกเป็นระยะๆ มาตรการวิธีกลมีหลายวิธี เช่น การไถพรวนและปลูกพืชตามแนวระดับ การยกร่องตามแนวระดับ การทำร่องนํ้าไปตามแนวระดับ การยกร่องปิดหัวท้าย ประโยชน์ที่ได้คือ การกักเก็บนํ้า ลดปริมาณนํ้าไหลบ่า และลดการชะล้างพังทลายของดิน ส่วนวิธีพืช คือ การปลูกพืชที่มีประโยชน์ด้านอนุรักษ์ ป้องกัน ฟื้นฟูบำรุงดินและน้ำให้อยู่ในสภาพที่อุดมสมบูรณ์ เช่น การปลูกพืชตามแนวระดับ ปลูกพืชสลับเป็นแถบ ปลูกพืชหมุนเวียน ปลูกพืชแซม ปลูกพืชเหลื่อมฤดู และการปลูกหญ้าแฝก วิธีเหล่านี้จะช่วยควบคุมการระเหยน้ำจากผิวดิน ดินอุ้มน้ำไว้ได้ ป้องกันการชะล้างพังทลายของดิน ดินจะมีความอุดมสมบูรณ์ ช่วยลดแรงปะทะของหน้าดินกับเม็ดฝนทำให้ดินร่วนซุยซึ่งวิธีพืชที่ทางกรมพัฒนาที่ดินส่งเสริมคือการปลูกหญ้าแฝกเพราะรากของหญ้าแฝกจะประสาน กันอย่างหนาแน่น สามารถเก็บกักน้ำและความชื้นได้ ป้องกันการพังลายของหน้าดินได้ การปลูกหญ้าแฝก ควรปลูกเป็นแถวตามระดับขวางความลาดเทในช่วงต้นฤดูฝน

สิ่งที่สำคัญของการอนุรักษ์น้ำคือเก็บให้พอใช้ ส่วนที่เหลือปล่อยให้เกษตรกรพื้นที่ด้านล่างได้ใช้ โดยจะมีหลักการคำนวณว่าพื้นที่นั้นจะใช้น้ำเท่าไหร่ ดินก็เหมือนกัน เมื่อเราใช้วิธีการอนุรักษ์เข้าไปช่วย ดินก็ไม่ไหลลงมาข้างล่าง ไม่ถูกชะล้าง ดินก็จะถูกเก็บไว้ในพื้นที่ เมื่อนำการจัดการน้ำ ผนวกเข้ากับการจัดการดินแล้วก็จะเป็นเรื่องของการอนุรักษ์ดินและน้ำดร.พิทยากรกล่าว

สำหรับเกษตรกรที่สนใจเรื่องการอนุรักษ์ดินและน้ำ สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ กรมพัฒนาที่ดิน ถนนพหลโยธิน เขตจตุจักร กทม 10900 โทร. 0-2579-2875 หรือ call center 1760 และ www.ldd.go.th

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๑:๐๐ วว. จับมือจังหวัดสระบุรี/อบต.ตาลเดี่ยว ขับเคลื่อนลดก๊าซเรือนกระจก นำ วทน. พัฒนาศูนย์เรียนรู้เทคโนโลยีจัดการขยะชุมชน
๑๑:๐๐ วว.จับมือคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ส่งเสริมวิจัยนวัตกรรม พัฒนาบัณฑิตสมรรถนะสูง ด้วยวิศวกรรมศาสตร์และเทคโนโลยี
๑๑:๓๗ เปลี่ยนธุรกิจคุณให้โตคูณร้อย กับหลักสูตร CMF เปิดรับสมัครรุ่นที่ 21 แล้ววันนี้ !!
๑๑:๒๖ GFC เสิร์ฟข่าวดีรับศักราชใหม่ปี 68 ดีเดย์ให้บริการคลินิกรักษาผู้มีบุตรยาก GFC Ubon เต็มสูบ
๑๑:๐๐ โรงพยาบาลลานนา จัดอบรม ชาวลานนาร่วมใจ ต้านโรคภัยจากภาวะอ้วนลงพุง
๑๑:๑๕ ค้นหา รักแท้ ในมุมมองใหม่กับศูนย์ฯ สิริกิติ์ ในกิจกรรม ธรรมะในสวน ณ สวนเบญจกิติ 1 กุมภาพันธ์ 2568 นี้
๑๑:๑๐ เชฟรอน (ไทย) รุกเจาะตลาดน้ำมันเครื่อง เพื่ออุตสาหกรรมเครื่องจักรกล
๑๑:๐๗ RML เปิดศักราชปี'68 มาแรง! หุ้นกู้มีหลักประกันขายหมดเกลี้ยง 100%
๑๑:๐๐ สมาคมดินโลก ร่วมกับ 4 หน่วยงาน ลงนามความร่วมมือเสริมสร้างการจัดการดินเพื่อเกษตรยั่งยืน
๑๐:๐๐ ศูนย์การค้าเครือเอ็ม บี เค ฉลองเทศกาลตรุษจีนสุดยิ่งใหญ่ CHINESE NEW YEAR 2025