ดร.สมจินต์ ศรไพศาล นายกสมาคมบริษัทจัดการลงทุน กล่าวว่า “ปัจจุบันกองทุนรวมเป็นหนึ่งในทางเลือกสำคัญในการบริหารเงินออมของคนไทย โดยได้มีการพัฒนารูปแบบและออกแบบให้สอดคล้องกับวัตถุประสงค์หรือความต้องการของคนไทยในการใช้เป็นเครื่องมือเพื่อการออม หรือบริหารเงินได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้กองทุนรวมได้รับความนิยมจากผู้ออมและผู้ลงทุนเพิ่มมากขึ้นมาโดยลำดับ ซึ่งจากปี 2546 ที่เริ่มต้นโครงการซึ่งมีขนาดของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุนรวมทั้งระบบที่ 681,356 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเป็น 2,781,091 ล้านบาท ณ เดือนมิถุนายน 2556 หรือ 408% ด้านบัญชีผู้ถือหน่วยลงทุนจาก 628,000 บัญชีเป็น 3,554,000 บัญชี หรือกว่า 450% พร้อมมีการพัฒนารูปแบบและนโยบายการลงทุนอย่างหลากหลายให้ผู้ลงทุนไทยได้เลือกสรรกว่า 1,400 กองทุน ณ ปัจจุบัน โดยหันมาให้ความสำคัญกับนโยบายการลงทุน ติดตามข้อมูลข่าวสาร แนวโน้มทางด้านเศรษฐกิจ ตลอดจนการจัดสรรเงินลงทุน ซึ่งความสำเร็จที่ผ่านมาถือเป็นกำลังใจสำคัญที่ทำให้เราจะยังคงมุ่งมั่นในการสร้างและพัฒนาให้กองทุนรวมเป็นเครื่องมือการออมและการลงทุนที่เปี่ยมประสิทธิภาพและเป็นช่องทางการบริหารการเงินและการลงทุนที่สำคัญของคนไทยทุกคนต่อไป ”
นางเกศรา มัญชุศรี รองผู้จัดการ หัวหน้าสายงานการตลาด ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กล่าวว่า
“ตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้ร่วมมือกับผู้เกี่ยวข้องในตลาดทุน ทั้งสำนักงานคณะกรรมการ ก.ล.ต. มูลนิธิกองทุนพัฒนาระบบตลาดทุน สมาคมบริษัทจัดการลงทุน และบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม ส่งเสริมความรู้ความเข้าใจการลงทุนผ่านกองทุนรวม ผ่านโครงการให้เงินทำงานผ่านกองทุนรวมมาอย่างจริงจังและต่อเนื่อง ทำให้ผู้ลงทุนมีทางเลือกลงทุนที่หลากหลาย เหมาะสม พร้อมสร้างโอกาสในการได้รับผลตอบแทนในระดับสูง ในขณะที่อุตสาหกรรมจัดการลงทุนก็มีการเติบโตและออกผลิตภัณฑ์ในรูปแบบต่างๆ เพื่อตอบสนองต่อผู้ลงทุน
“ในช่วงที่ผ่านมาปีนี้พบว่า ผู้ลงทุนให้ความสนใจในการลงทุนในกองทุนหุ้นนอกเหนือไปจากกองทุน LTF และ RMF ที่ได้ประโยชน์ทางภาษี เนื่องจากให้ผลตอบแทนในระดับที่สูง และยังมีผู้จัดกองทุนมืออาชีพเข้ามาบริหาร โดย NAV. ของกองทุนหุ้นเพิ่มขึ้นจากปี 2555 ที่ 572,356 ล้านบาท เป็น 651,732 ล้านบาท (ข้อมูล ณ 28 มิ.ย. 2556) จะเห็นได้ว่าภายในระยะเวลาเพียง 6 เดือน กองทุนหุ้นเติบโตกว่า 13.86 % นอกจากนี้ มูลค่าซื้อสุทธิในตลาดหลักทรัพย์ของผู้ลงทุนสถาบันในประเทศสูงถึง 69,000 ล้านบาท โดยเป็นส่วนของกองทุนรวมกว่า 54,000 ล้านบาท” นางเกศรากล่าวเสริม
ด้วยกองทุนรวมเป็นทางเลือกลงทุนที่ตอบโจทย์ของการบริหารเงินออมทั้งภาคครัวเรือนของคนไทยในทุกระดับชั้น และเป็นเครื่องมือการลงทุนระดับประเทศ ปี 2556 นี้ โครงการให้เงินทำงาน ผ่านกองทุนรวม ภายใต้ความร่วมมือของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย สำนักงานคณะกรรมการ ก.ล.ต. สมาคมบริษัทจัดการลงทุน และบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม 18 แห่ง จะร่วมรณรงค์ ด้วยแนวคิด “ชวนคนไทย ใช้กองทุนรวม” ผ่านการสื่อสารการตลาดอย่างครบวงจรทั้งการเผยแพร่ผ่านสื่อเพื่อสร้างการรับรู้ในวงกว้าง พัฒนาเครื่องมือในการเข้าถึงข้อมูล และกิจกรรมเพื่อส่งเสริมการลงทุนต่อเนื่อง ซึ่งผู้ลงทุนสามารถดูข้อมูลเพื่อการลงทุนและกิจกรรมโครงการได้ทาง www.thaimutualfundnews.com
กลุ่มตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย “สานโอกาสการลงทุน เพื่อคุณ เพื่อธุรกิจ”
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร. SET Call Center 0 2229 2222