ศาสตราจารย์เกียรติคุณ พญ. ชนิกา ตู้จินดา ประธานคณะกรรมการจัดงาน กล่าวว่า “เครือโรงพยาบาลกรุงเทพ โรงพยาบาลสมิติเวช โรงพยาบาลบีเอ็นเอช โรงพยาบาลพญาไท และโรงพยาบาลเปาโล เมโมเรียล สนับสนุนการจัดประชุมวิชาการร่วมมาอย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 5 เพราะเชื่อมั่นในการเป็นผู้ให้ความรู้ นอกเหนือไปจากการให้บริการทางการแพทย์ที่มีมาตรฐาน การแบ่งปันความรู้และประสบการณ์เป็นส่วนสำคัญในการส่งเสริมการพัฒนาแพทย์ ทำให้เกิดการเรียนรู้จากเคสที่เกิดขึ้นจริง และจากการวิจัยใหม่ๆ ซึ่งจะทำให้แพทย์มีองค์ความรู้ที่กว้างขวางและลึกซึ้งขึ้น สามารถดูแลรักษาผู้ป่วยได้ดีขึ้น ขณะเดียวกัน แพทย์ที่มาร่วมงานก็จะได้รู้จักกัน และสร้างเครือข่ายที่แน่นแฟ้น เพื่อจะได้ทำงานร่วมกันและขอคำปรึกษา แลกเปลี่ยนความรู้กันอย่างต่อเนื่องต่อไป”
สำหรับการประชุมวิชาการร่วมครั้งที่ 5 ในปีนี้ ทางคณะผู้จัดได้จัดหัวข้อการบรรยายที่น่าสนใจ อาทิ ปาฐกถาพิเศษ เรื่อง พระราชกรณียกิจของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีกับรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหิดล โดย ศาสตราจารย์นายแพทย์สุพัฒน์ วาณิชย์การ ท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข นพ.ประดิษฐ สินธวณรงค์ กล่าวถึงทิศทางสาธารณสุขไทยในทศวรรษหน้า นพ.ปราเสริฐ ปราสาททองโอสถ กล่าวในหัวข้อ Healthcare Sector of Thailand after 2015 และหัวข้อการบริหารโรงพยาบาลเอกชนในทศวรรษหน้า โดยท่านผู้บริหารโรงพยาบาลเอกชนชั้นนำของเมืองไทย ซึ่งได้แก่ เครือโรงพยาบาลกรุงเทพ โรงพยาบาลสมิติเวช โรงพยาบาลบีเอ็นเอช โรงพยาบาลพญาไท และโรงพยาบาลเปาโล เมโมเรียล
หัวข้อการประชุมสำหรับแพทย์ ในปีนี้มีหัวข้อบรรยาย ที่มีความหลากหลาย ครอบคลุมทั้งการดูแลรักษา การป้องกันโรคตลอดจนนวัตกรรมของเครื่องมืออุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ล้ำสมัยในการดูแลผู้ป่วย อาทิ ความรู้ใหม่ๆในการรักษาภาวะผู้มีบุตรยาก การดูแลเด็กที่มีภาวะน้ำหนักแรกคลอดน้อยมากๆ เพื่อเพิ่มภาวะการรอดชีวิตในเด็กกลุ่มนี้ ความรู้เกี่ยวกับไข้เลือดออกที่เป็นปัญหาสาธารณสุขในบ้านเรา ความรู้ใหม่ๆในการรักษาไวรัสตับอักเสบซี โรคหัวใจ ความก้าวหน้าในการดูแลผู้ป่วยที่มีภาวะการหายใจล้มเหลวรุนแรงเฉียบพลัน (ARDS) การรักษาและเทคโนโลยีทันสมัยในผู้ป่วยปวดหลัง ปวดเข่า ซึ่งเป็นปัญหาที่พบบ่อยทั้งในวัยทำงานและผู้สูงอายุ ความก้าวหน้าในการตรวจท่อทางเดินน้ำดี (Hepatobiliary System) ด้วยเครื่อง Endoscope รวมทั้งเทคนิคใหม่ในการรักษาหลอดเลือดเอออร์ตาโป่งพอง (Aortic Aneurysm) โดยไม่ต้องผ่าตัด การดูแลสุขภาพเชิงป้องกันตั้งแต่การวิ่งเพื่อสุขภาพ ดูแลผิวพรรณ เวชศาสตร์ชะลอวัย เพื่อให้ดูเป็นหนุ่มสาวไปนานๆ และสาระความรู้เกี่ยวกับ AEC ที่จะมีผลกระทบต่องวงการสาธารณสุขไทย พิเศษในปีนี้ยังมีวิทยากรจากต่างประเทศที่มาให้ความรู้ในการดูแลผู้ป่วยที่ได้รับบาดเจ็บที่สมอง (Truamatic Brain Injury ) ความก้าวหน้าทางวิทยาการโรคมะเร็งมีห้องประชุมแยกโดยเฉพาะตลอดทั้งวัน
ในส่วนของ Workshop จะได้เรียนรู้เทคนิคในการรักษานิ้วล็อค (Trigger Finger) ด้วยเทคนิคและเครื่องมือพิเศษที่ได้รับรางวัลชนะเลิศสุดยอดนวัตกรรม True Innovation Award 2012 การทำ Hypothermia post CPR ซึ่งมีประโยชน์ต่อคุณภาพชีวิตผู้ป่วย Post CPR และการสื่อสารอย่างไรให้ปลอดภัยทางการแพทย์ (Non Invasive Verbal Communication) เพื่อให้แพทย์และบุคลากรทางการแพทย์นำไปใช้ในการสื่อสารกับผู้ป่วยได้อย่างมีประสิทธิภาพ
สำหรับทันตแพทย์ ได้แบ่งเป็นหัวข้อที่น่าสนใจสำหรับวัยต่างๆ คือ วัยเด็ก มีการนำเสนอการให้การรักษาสำหรับเด็กพิเศษ ( Autistic Patients ) โรคหัวใจ (Cardiac Patients ) และ โรคเลือดออกง่าย (Bleeding Problem) วัยรุ่นและผู้ใหญ่ นำเสนอในหัวข้อ การฟอกสีฟัน (Tooth Whitening ) เพื่อให้ฟันขาว และไม่เกิดอาการเสียวฟันทั้งขณะกำลังฟอกและหลังจากเสร็จสิ้นแล้ว การปฏิรูปการบูรณะฟันจริงและการทำฟันปลอมเพื่อความสวยงาม และความก้าวหน้าทางทันตกรรมเพื่อความสวยงาม (Esthetics) วัยสูงอายุ มุ่งเน้นในเรื่อง การรักษารากฟันยุคใหม่ (Endodontis) การฝังรากฟันเทียม (Dental Implant) ทดแทนฟันหลังที่สูญเสียไปเพื่อรองรับฟันปลอม การบรรจบกันของการฝังรากฟันเทียมกับทันตกรรมเพื่อความสวยงาม และการใส่เครื่องมือในช่องปาก (Oral Appliance) เป็นการบำบัดเพื่อการนอนหลับที่ดีและเหมาะสม
ในส่วนของห้องประชุมพยาบาลที่เน้นให้ความรู้ การแชร์ประสบการณ์กับผู้เข้าร่วมประชุม ทั้งความรู้ด้านคลินิกในการดูแลผู้ป่วยทุกวัย การปฏิบัติงาน การเผชิญปัญหาและการปรับตัวของพยาบาลจบใหม่ ยกตัวอย่างหัวข้อที น่าสนใจเช่น ความรู้ทางด้านคลินิคทั้งในแง่ทฤษฎี และการปฏิบัติในการดูแลผู้ป่วยเด็กที่ได้รับการผ่าตัดหัวใจในโครงการ “กองทุนสมิติเวช เพื่อชีวิตใหม่หัวใจเด็ก” เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลเนื่องในวโรกาสครบรอบ 60 ปี พระราชพิธีราชาภิเษกสมรสในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ โดยโรงพยาบาลสมิติเวช ศรีนครินทร์ได้ร่วมมือกับมูลนิธิเด็กโรคหัวใจในพระอุปถัมภ์ของสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ นอกจากนั้นยังมีความรู้ในการดูแลผู้ป่วยทาง Orthopedic, Stroke และความพร้อมในการดูแลผู้ป่วยเด็กทางอากาศ (Babies & Children Medical Transportation) รวมถึงการแชร์ประสบการณ์เพื่อให้พยาบาลไทยพร้อมที่จะให้การดูแลผู้ป่วยต่างชาติที่มีวัฒนธรรม ภาษา ความเป็นอยู่และความเชื่อที่แตกต่างกัน โดยมีความรู้ทางด้าน Documentation ที่ปัจจุบันยังคงเป็นภาระงานที่หนักและยุ่งยากสำหรับพยาบาล การมีวิทยาการทางด้าน IT มาช่วยให้พยาบาลของเราทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น รวดเร็วมากขึ้น และเป็นที่พึงพอใจของผู้รับบริการ
นอกจากนั้นในงานประชุมวิชาการครั้งนี้ยังได้พูดถึงการบริหารจัดการความเครียดของพยาบาลที่จะทำอย่างไรให้ทำงานได้อย่างมีความสุข การดูแลพยาบาลอย่างไรให้มีความผูกพันธ์กับองค์กรเพื่อลดปัญหาการขาดแคลนพยาบาล และที่เป็นประเด็นที่น่าสนใจและควรคำนึงถึงในปัจจุบันคือองค์กรจะดูแลกลุ่มพยาบาลจบใหม่อย่างไรให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีในการปรับตัวจากรั้วมหาวิทยาลัยเข้าสู่การทำงานในชีวิตจริง
นอกจากความรู้ทางด้านการแพทย์ ทันตแพทย์และพยาบาล ผู้เข้าร่วมประชุมจะได้รู้จักกับวิวัฒนาการใหม่ของการวินิจฉัยโรคซึ่งนำไปสู่การรักษาและสามารถตอบโจทย์แนวโน้มของสิ่งแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วโดยบริษัท Siemens และเรื่องสำคัญยิ่งต่อวงการแพทย์ปัจจุบันคือ Emerging trend in health care logistic โดยวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิยิ่งจากบริษัท N Health
บุคคลากรทางการแพทย์ที่สนใจ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
ฝ่ายพัฒนาบุคลากร : คุณสุลักขณา บัวคลี่ โทร. 0-2378-9207 , 0-2378-9203
โทรสาร. 0-2378-9207 E-mail:[email protected]
Website: http://svh.cc/symposium2013