งานประกาศรางวัลมีขึ้น ณ งานกาล่าซึ่งจัดขึ้นที่สำนักลินคอล์น (The Honourable Society of Lincoln’s Inn) มีผู้บริหารอาวุโสจากธุรกิจการบินกว่าร้อยคนเดินทางมาจากทั่วทุกมุมโลกเพื่อร่วมงานนี้
รางวัล ‘ผู้นำสายงานบริหาร’ ที่สายการบินเอทิฮัดได้รับ มาจากการคัดเลือกโดยคณะกรรมการผู้ตัดสินที่เป็นผู้เชี่ยวชาญจากอุตสาหกรรมการบินภายหลังจากการตรวจสอบการทำงานโดยละเอียดในระยะเวลา 1 ปีที่ผ่านมา การวิเคราะห์เชิงลึกได้จากการรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับผลกำไรที่เพิ่มมากขึ้นของสายการบิน การเจริญเติบโตของธุรกิจในอุตสาหกรรม และยุทธศาสตร์ความร่วมมือกับสายการบินพันธมิตรรายอื่นๆ
ก่อนหน้ารางวัลจากงานแอร์ไลน์ สแตรทีจี อวอร์ดส์ มร. เจมส์ โฮแกน เคยได้รับรางวัลผู้บริหารยอดเยี่ยมจาก CAPA (Centre of Asia Pacific Aviation) เมื่อปี 2555 ในฐานะที่เขาเป็น ‘ผู้มีอิทธิพลในอุตสาหกรรมการบิน ความคิดทางยุทธศาสตร์ยอดเยี่ยม และแนวทางนวัตกรรมเพื่อการเติบโตของธุรกิจ’
มร. แม็กซ์ คิงส์ลีย์-โจนส์ หนึ่งในคณะกรรมการผู้ตัดสินและบรรณาธิการนิตยสารแอร์ไลน์ บิสิเนส กล่าวว่า “ผมรู้สึกดีใจที่เรามอบรางวัลผู้นำสายงานบริหารให้กับมร. เจมส์ โฮแกน ในปีนี้ เหล่าคณะกรรมการผู้ตัดสินต่างประทับใจกับทุกๆ แง่มุมที่มร. โฮแกนได้แสดงภาวะความเป็นผู้นำกุมบังเหียนสายการบินเอทิฮัด ประกอบกับแนวทางนวัตกรรมต่างๆ ที่ช่วยทำให้ธุรกิจเจริญเติบโตและประสบความสำเร็จ”
“ช่วงเวลา 1 ปีที่ผ่านมา สายการบินมากมายต่างประสบปัญหาความยากลำบากในการดำเนินธุรกิจเนื่องจากปัญหาเศรษฐกิจที่ท้าทาย แต่มร. โฮแกน ก็นำทัพสร้างการเจริญเติบโตได้อย่างน่าเหลือเชื่อ คณะกรรมการผู้ตัดสินต่างยินดีที่ได้มอบรางวัลผู้นำสายงานบริหารอุตสาหกรรมการบินยอดเยี่ยมให้กับเขาในปีนี้”
คณะกรรมการผู้ตัดสิน ประกอบด้วย มร. จอฟฟ์ ดิกซัน อดีตกรรมการผู้จัดการและประธานกรรมการบริหารสายการบินแคนตัส ออสเตรเลีย มร. เรย์ เว็บสเตอร์ อดีตประธานกรรมการบริหารสายการบินเจ็ท ซึ่งเป็นสายการบินต้นทุนต่ำ มร. ดัก สตีแลนด์ อดีตประธานและประธานกรรมการบริหารสายการบินนอร์ธเวสต์แอร์ไลน์จากประเทศสหรัฐอเมริกา ศาสตราจารย์ริกาส โดกานิส อดีตหัวหน้าฝ่ายการขนส่งทางอากาศ มหาวิทยาลัยแครนฟิลด์ และ มร. คริส ทาร์รี่ หนึ่งในนักวิเคราะห์การบินและอวกาศระดับพระกาฬในตลาดการเงินของลอนดอน
มร. โฮแกน กล่าวว่า “ผมรู้สึกเป็นเกียรติเป็นอย่างมากที่ได้รับเกียรติให้รับรางวัลนี้จากเพื่อนผู้บริหารในอุตสาหกรรมการบินเช่นเดียวกัน นี่เป็นรางวัลที่ยิ่งใหญ่มากสำหรับสายการบินเอทิฮัดเองและผู้ถือผลประโยชน์ร่วมกันรายอื่นๆในกรุงอาบูดาบี
“รางวัลแห่งการยอมรับในครั้งนี้เป็นจุดสุดยอดของการทำงานที่ยอดเยี่ยมในระยะเวลา 12 เดือนที่ผ่านมา ซึ่งเราได้ทำกำไรเพิ่มมากขึ้น เน้นการเพิ่มความตื่นตัวในส่วนของการบริการลูกค้า และในขณะเดียวกันเราก็ไม่เคยมองข้ามเรื่องความปลอดภัย และชาร์ตพลังเพื่อเดินเครื่องยุทธศาสตร์พัฒนาให้สายการบินเอทิฮัดกลายเป็นสายการบินพันธมิตรผู้ร่วมถือหุ้นรายแรกของโลก”
สายการบินเอทิฮัดรายงานผลประกอบการรายได้เพิ่มขึ้น 200 เปอร์เซ็นต์ในปี 2555 คิดเป็นมูลค่า 42 ล้านเหรียญสหรัฐจากรายได้ทั้งหมด 4.8 พันล้านเหรียญสหรัฐ สูงขึ้น 17 เปอร์เซ็นต์จากปีก่อนหน้านี้ จำนวนผู้โดยสารเพิ่มขึ้น 23 เปอร์เซ็นต์หรือมากกว่า 10 ล้านคน และสายการบินสนับสนุนงบการลงทุนโดยตรง 2.3 พันล้านเหรียญสหรัฐให้กับกรุงอาบูดาบี และงบการลงทุนทางอ้อมจำนวน 8.4 พันล้านเหรียญสหรัฐ
สายการบินเอทิฮัดได้ลงนามข้อตกลงพันธมิตรทางการบินร่วมกันกับสายการบินต่างๆ ทั่วโลก เพื่อสร้างธุรกิจรูปแบบใหม่ให้กับอุตสาหกรรมการบิน โดยในปี 2555 ที่ผ่านมา ยุทธศาสตร์ทางการบินร่วมได้เพิ่มรายได้ให้กับสายการบินเอทิฮัดเป็นมูลค่ากว่า 600 ล้านเหรียญสหรัฐ
ความร่วมมือกับสายการบินอื่นๆ ถูกออกแบบมาเพื่อหาแนวทางนวัตกรรมในการระบุค่าใช้จ่ายและหาหนทางในการใช้งานทรัพยากรร่วมกัน เช่น การสรรหาและดูแลรักษาเครื่องบินและเครื่องกลร่วมกัน
ทั้งนี้สายการบินเอทิฮัดยังได้เข้าถือครองหุ้นในสายการบินแอร์เบอร์ลิน สายการบินแอร์เซเชลส์ สายการบินเวอร์จิ้น ออสเตรเลีย สายการบินแอร์ลินกัส และรอการอนุมัติกรรมสิทธิ์ถือครองหุ้น 24 เปอร์เซนต์ในสายการบินเจ็ท แอร์เวย์