“ผลตอบแทนของกองทุนตราสารหนี้ทั้งประเภทอายุ 3 เดือน และ 6 เดือนที่จะเสนอขายในสัปดาห์นี้เพิ่มขึ้นกว่าสัปดาห์ที่ผ่านมา เนื่องจากกองทุนที่จะเสนอขายในสัปดาห์นี้มีการเพิ่มสัดส่วนการลงทุนกลับเข้ามาในตราสารหนี้ต่างประเทศมากขึ้น จากสัปดาห์ที่ผ่านมาที่เน้นลงทุนในตราสารหนี้ภายในประเทศเป็นหลัก เพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงอันเนื่องมาจากสถานการณ์ทางการเมืองของประเทศตุรกีและบราซิล อย่างไรก็ตามสถานการณ์ดังกล่าวได้คลี่คลายลงแล้ว โดยบลจ.กสิกรไทย ได้มีการติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด รวมถึงได้มีการประเมินความน่าเชื่อถือในตัวผู้ออกตราสาร พบว่า ในส่วนของตราสารหนี้ประเทศตุรกี และตราสารหนี้ประเทศบราซิล ยังคงมีสถานะทางการเงินที่มั่นคง และยังให้ผลตอบแทนที่น่าสนใจ ซึ่งนับว่าเป็นโอกาสดีและถือเป็นทางเลือกสำหรับผู้ลงทุนที่ต้องการพักเงินกับกองทุนตราสารหนี้ที่มีคุณภาพดี โดยตราสารหนี้ที่กองทุน เปิดเค ฟิกซ์ อินคัม โน้ต 3 เดือน อี (KFIN3ME) จะเข้าลงทุน ประกอบด้วยเงินฝาก Akbank T.A.S., ประเทศตุรกี (BBB/Fitch) และเงินฝากเงินฝาก Bank of China, สาขามาเก๊า (A/Fitch) ร่วมด้วยตราสารหนี้ ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย จำกัด (มหาชน) ตราสารหนี้ ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน), ประเทศไทย และตราสารหนี้ Garanti Bank, ประเทศตุรกี ซึ่งได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือจาก Fitch ที่ AA-(tha), A+(tha) และ BBB- ตามลำดับ ด้านกองทุนเปิดเค ฟิกซ์ อินคัม โน้ต 6 เดือน อี (KFIN6ME) จะลงทุนใน เงินฝาก Akbank T.A.S., ประเทศตุรกี (BBB/Fitch) และเงินฝากเงินฝาก Bank of China, สาขามาเก๊า (A/Fitch) ร่วมด้วยตราสารหนี้ ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย จำกัด (มหาชน) ตราสารหนี้ ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน), ประเทศไทย และตราสารหนี้ BTG Investments LP ที่รับประกันโดย BTG Pactual Holding S.A., ประเทศบราซิล ซึ่งได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือจาก Fitch ที่ AA-(tha), A+(tha) และ BBB- ตามลำดับ โดยกองทุนดังกล่าวมีนโยบายป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนทั้งจำนวน” นางสาวยุพาวดีกล่าว
นอกจากนี้ เพื่อตอบรับความต้องการสำหรับผู้ลงทุนที่รับความเสี่ยงได้ต่ำมากและต้องการลงทุนระยะสั้นกับตราสารหนี้ในประเทศเป็นหลัก ในช่วงเวลาเดียวกัน บลจ.กสิกรไทยจะเปิดขายกองทุนเปิดเค คุ้มครองเงินต้น ตราสารหนี้ไทย 3 เดือน ซีคิว (KPPTF3MCQ) โดยกองทุนดังกล่าวจะเน้นลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลไทย หรือ พันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย และบางส่วนที่เหลือจะลงทุนในเงินฝากประจำ 3 เดือนของธนาคารพาณิชย์ ซึ่งจะให้โอกาสรับผลตอบแทนปลอดภาษีสำหรับลูกค้าบุคคลธรรมดาที่ 2.40% ต่อปี
ผู้ที่สนใจสามารถลงทุนกับกองทุน KFIN3ME, KFIN6ME และ KPPTF3MCQ ได้ด้วยเงินลงทุนขั้นต่ำเพียง 5,000 บาท สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมและขอรับหนังสือชี้ชวนเสนอขายได้ที่ธนาคารกสิกรไทยทุกสาขา หรือสอบถาม KAsset Contact Center 0 2673 3888
การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูล นโยบายลงทุน ความเสี่ยง ผลการดำเนินงานของกองทุน และเอกสารเกี่ยวกับกองทุน KFIN3ME, กองทุน KFIN6ME และกองทุน KPPTF3MCQ ได้ที่ www.kasikornasset.com หรือ บลจ.กสิกรไทย หรือธนาคารกสิกรไทยทุกสาขา หรือขอข้อมูลดังกล่าวจากบุคคลที่เสนอขายกองทุน ก่อนตัดสินใจลงทุน กองทุน KFIN3ME และกองทุน KFIN6ME มีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนในสกุลเงินของหลักทรัพย์ที่ลงทุน ทั้งนี้ กองทุนมีนโยบายป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนทั้งจำนวน