เพื่อส่งเสริมความเป็นธรรมและให้สอดคล้องกับภาวะเศรษฐกิจ)
นางเบญจา หลุยเจริญ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า วันนี้ (30 กรกฎาคม 2556) คณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบให้นำเสนอร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ตามมาตรการปรับปรุงโครงสร้างภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาเพื่อส่งเสริมความเป็นธรรมและให้สอดคล้องกับภาวะเศรษฐกิจต่อรัฐสภา โดยมีสาระสำคัญดังต่อไปนี้
1. ปรับปรุงขั้นและอัตราภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาจาก 5 ขั้น เป็น 7 ขั้น และลดอัตราสูงสุดจากร้อยละ 37 เป็นร้อยละ 35 เพื่อกระจายภาระภาษีให้เท่าเทียมกันมากขึ้นดังนี้
ทั้งนี้ สำหรับเงินได้สุทธิตั้งแต่ 0-300,000 บาท ซึ่งกำหนดอัตราภาษีไว้ร้อยละ 5 กระทรวงการคลังจะตราพระราชกฤษฎีกายกเว้นภาษีสำหรับเงินได้สุทธิ 150,000 บาทแรกต่อไป โดยการปรับปรุงขั้นและอัตราภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาจะใช้บังคับสำหรับเงินได้ประจำปีภาษี 2556 เป็นต้นไป
1. ปรับปรุงหลักเกณฑ์และอัตราภาษีเงินได้ของห้างหุ้นส่วนสามัญและคณะบุคคลที่มิใช่นิติบุคคลดังนี้
เงินได้สุทธิตั้งแต่ อัตราภาษี
(บาท) (ร้อยละ)
ข้อเสนอ เดิม
0 — 300,000 5 0 — 100,000 ใช้อัตราร้อยละ 5
100,001 — 300,000 ใช้อัตราร้อยละ 10
300,001 — 500,000 10 10
500,001 — 750,000 15 20
750,001 — 1,000,000 20 20
1,000,001 — 2,000,000 25 30
2,000,001 — 4,000,000 30 30
4,000,001 ขึ้นไป 35 37
- กำหนดคำนิยามของ “คณะบุคคลที่มิใช่นิติบุคคล” ให้หมายความว่า บุคคลตั้งแต่สองคน ขึ้นไปตกลงกระทำการที่มีเงินได้พึงประเมินร่วมกันอันมิใช่เป็นห้างหุ้นส่วนสามัญ
- กำหนดให้ห้างหุ้นส่วนสามัญเสียภาษีจากเงินได้สุทธิในอัตราร้อยละ 20 โดยให้หักค่าใช้จ่าย ตามความจำเป็นและสมควรเท่านั้น
- กำหนดให้คณะบุคคลที่มิใช่นิติบุคคลเสียภาษีจากเงินได้พึงประเมินในอัตราร้อยละ 20 โดยไม่ให้หักค่าใช้จ่ายและค่าลดหย่อน
- กำหนดให้ห้างหุ้นส่วนสามัญและคณะบุคคลสามารถเลือกเสียภาษีสำหรับเงินได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์อันเป็นมรดกหรือที่ได้รับจากการให้โดยเสน่หาหรือที่ได้มาโดยมิได้มุ่งในทางการค้าหรือหากำไรแยกต่างหากจากเงินได้อื่น โดยให้คำนวณภาษีตามอัตราภาษีก้าวหน้าสำหรับบุคคลธรรมดา แล้วไม่ต้องนำไปรวมคำนวณภาษีปลายปีอีก
ทั้งนี้ การปรับปรุงหลักเกณฑ์และอัตราภาษีเงินได้ของห้างหุ้นส่วนสามัญและคณะบุคคลที่มิใช่นิติบุคคลนี้จะใช้บังคับกับเงินได้ประจำปีภาษีถัดจากปีภาษีที่กฎหมายมีผลใช้บังคับต่อไป
นางเบญจา หลุยเจริญ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวอีกว่า การปรับปรุงบัญชีอัตราภาษีเงินได้สำหรับบุคคลธรรมดาเป็นการบรรเทาภาระภาษีให้แก่ผู้เสียภาษี รวมทั้งทำให้ระบบภาษีมีความสอดคล้องกับภาวะเศรษฐกิจที่เปลี่ยนแปลงไป นอกจากนั้น การปรับปรุงหลักเกณฑ์และอัตราภาษีเงินได้ของห้างหุ้นส่วนสามัญและคณะบุคคลที่มิใช่นิติบุคคลเป็นการป้องกันการใช้ช่องว่างของกฎหมายในการกระจายฐานภาษีเพื่อหลีกเลี่ยงภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา
นายสาธิต รังคสิริ อธิบดีกรมสรรพากร กล่าวว่า มาตรการนี้มีผลกระทบต่อรายได้ภาษีอากรประมาณ 25,000 ล้านบาท แต่จะทำให้รายได้สุทธิของผู้เสียภาษีเพิ่มขึ้น อันจะช่วยกระตุ้นการบริโภค ซึ่งส่งผลดีต่อเศรษฐกิจและฐานภาษีในระยะยาว รวมทั้งทำให้อัตราภาษีของไทยเป็นที่จูงใจและแข่งขันกับต่างประเทศได้ดียิ่งขึ้น รองรับการเข้าร่วมประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน
สำนักวิชาการแผนภาษี กรมสรรพากร
โทร. 0 2272 8033