สำหรับมาตรการที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์จะให้การสนับสนุนและส่งเสริมเกษตรกรผู้ปลูกอ้อยนั้น ประกอบด้วย การส่งเสริมเรื่ององค์ความรู้ต่างๆ ให้แก่เกษตรกรเพื่อให้ได้ผลผลิตต่อไร่ที่สูงขึ้น และการลดต้นทุนการผลิต ส่วนในเรื่องของปุ๋ยเคมีที่ยังคงมีราคาที่สูงอยู่ในปัจจุบันและเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้ต้นทุนของเกษตรกรสูงอยู่นั้น กระทรวงเกษตรฯจะเร่งรัดส่งเสริมให้มีการใช้ปุ๋ยชีวภาพทดแทนปุ๋ยเคมีให้มากขึ้น รวมถึงการจัดหาแหล่งน้ำธรรมชาติในพื้นที่ที่ยังขาดแคลนแหล่งน้ำนั้นก็ได้มอบหมายให้กรมชลประทานเข้ามาดูแลด้วยเช่นกัน
ขณะที่การจัดโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคม และการจัดหาพันธุ์อ้อยที่ดีสำหรับเพาะปลูกนั้น กระทรวงเกษตรและสหกรณ์จะเร่งประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อสนับสนุนความต้องการของเกษตรกร และมีแผนจะสนับสนุนการเปลี่ยนพื้นที่นาที่ไม่เหมาะสมสู่พืชชนิดอื่น ๆ เช่น มันสำปะหลัง และการปลูกข้าวหอมมะลิภูเขาไฟอินทรีย์ต่อไป