หุ้นกู้ดังกล่าวได้รับการค้ำประกันเต็มจำนวนโดยบริษัทแม่ของ TTL คือ Century Tokyo Leasing Corporation (TC-Lease) ในประเทศญี่ปุ่น โดย TC-Lease ได้รับการจัดอันดับเครดิตที่ระดับ “A+” จาก Japan Credit Rating Agency, Ltd. (JCR) และระดับ “A” จาก Rating and Investment Information, Inc. (R&I) ทั้งนี้ อันดับเครดิตของหุ้นกู้ดังกล่าวอยู่บนพื้นฐานความน่าเชื่อถือของ TC-Lease ซึ่งค้ำประกันหุ้นกู้แบบไม่มีเงื่อนไขและไม่สามารถเพิกถอนได้
ตามเงื่อนไขข้อตกลงการค้ำประกันซึ่งบังคับใช้ภายใต้กฎหมายของประเทศญี่ปุ่น ผู้ค้ำประกันจะให้การค้ำประกันเต็มจำนวนโดยไม่มีเงื่อนไขและไม่สามารถเพิกถอนได้สำหรับหุ้นกู้ที่ได้รับการจัดอันดับเครดิตดังกล่าว โดยผู้ค้ำประกันพร้อมที่จะชำระหนี้ให้แก่ผู้ถือหุ้นกู้ภายใต้ข้อตกลงการค้ำประกันในกรณีที่ TTL ไม่สามารถชำระหนี้ได้ตามกำหนด นอกจากนี้ หากมีการควบรวมหรือการครอบงำกิจการของ TC-Lease บริษัทใหม่ที่เกิดขึ้นหลังการควบรวมกิจการหรือบริษัทที่เข้าครอบงำกิจการของ TC-Lease จะต้องรับภาระผูกพันในการค้ำประกันหุ้นกู้ดังกล่าวด้วย และในกรณีที่ TC-Lease ไม่สามารถจ่ายชำระหนี้ได้ตามกำหนดหลังจากได้รับหนังสือบอกกล่าวแล้ว ผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้สามารถดำเนินการตามกฎหมายกับผู้ค้ำประกัน ณ ศาลในประเทศญี่ปุ่นเพื่อฟ้องร้องเรียกเงินที่ผิดนัดชำระคืนได้ โดยที่ภาระการค้ำประกันนี้ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขหรือเพิกถอนโดยปราศจากมติเอกฉันท์จากผู้ถือหุ้นกู้
แนวโน้มอันดับเครดิต “Stable” หรือ “คงที่” ของหุ้นกู้มีการค้ำประกันของ TTL สะท้อนถึงคุณภาพเครดิตของผู้ค้ำประกันคือ TC-Lease ซึ่งได้รับอันดับเครดิตที่ระดับ “A+“ ด้วยแนวโน้ม “Stable” หรือ “คงที่” จาก JCR และที่ระดับ “A” แนวโน้ม “Stable” หรือ “คงที่” จาก R&I แนวโน้มอันดับเครดิตยังสะท้อนถึงการปรับตัวที่ดีขึ้นของผลการดำเนินงานทั้งด้านธุรกิจและการเงินของ TC-Lease ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา รวมถึงความสามารถในการดำรงสถานะทางการตลาดและการเงินในระยะกลางด้วย
ในวันที่ 1 เมษายน 2552 TC-Lease ได้รับการก่อตั้งโดยการควบรวมกิจการระหว่าง Century Leasing System, Inc. และ Tokyo Leasing Co., Ltd. ปัจจุบัน ผู้ถือหุ้นใหญ่ของ TC-Lease ประกอบด้วย ITOCHU Corporation โดยถือหุ้น 25% Nippon Tochi-Tatemono Co., Ltd. (11%) KSO Co., Ltd. (9%) Mizuho Bank, Ltd. (4%) และ Nippon Life Insurance Company (2%)
อันดับเครดิตของ TC-Lease ซึ่งเป็นผู้ค้ำประกันหุ้นกู้ได้รับแรงหนุนจากสถานะทางธุรกิจในประเทศญี่ปุ่น โดยบริษัทเป็นหนึ่งในผู้นำในอุตสาหกรรมลีสซิ่งของญี่ปุ่น TC-Lease ยังมีการกระจายตัวทางภูมิศาสตร์โดยขยายธุรกิจไปยังตลาดต่างประเทศด้วย ณ สิ้นเดือนมีนาคม 2556 TC-Lease มีสินทรัพย์รวม 2.5 ล้านล้านเยน ประกอบด้วยสินทรัพย์ให้เช่าแบบลีสซิ่งจำนวน 1.5 ล้านล้านเยน ซึ่งคิดเป็น 60% ของสินทรัพย์รวม ตามด้วยสินเชื่อจากการขายผ่อนชำระจำนวน 0.2 ล้านล้านเยน หรือคิดเป็น 8% ของสินทรัพย์รวม สินทรัพย์จากการให้บริการทางการเงินอื่น ๆ จำนวน 0.6 ล้านล้านเยน หรือคิดเป็น 22% และสินทรัพย์อื่น ๆ อีก 10% ของสินทรัพย์รวม
TC-Lease มีธุรกิจที่หลากหลายมากขึ้นหลังจากการควบรวมกิจการ โดยมีการเติบโตและปรับสถานะทางธุรกิจและการเงินอย่างต่อเนื่องตั้งแต่รอบปีบัญชี 2553 ถึง 2555 สินทรัพย์รวมเติบโตที่ระดับ 2.4% และ 3.5% ในรอบปีบัญชี 2553 และ 2554 ตามลำดับ และเติบโตขึ้นมากในรอบปีบัญชี 2555 ที่ระดับ 9% จนสินทรัพย์รวมขึ้นถึงระดับ 2.5 ล้านล้านเยน กำไรสุทธิก็ปรับเพิ่มขึ้นเช่นเดียวกัน โดยเพิ่มขึ้น 10.8% ในรอบปีบัญชี 2554 และ 10.5% ในรอบปีบัญชี 2555 หรือเพิ่มขึ้นจาก 24 พันล้านเยนในรอบปีบัญชี 2553 เป็น 26 พันล้านเยนในรอบปีบัญชี 2554 และ 29 พันล้านเยนในรอบปีบัญชี 2555 การปรับเพิ่มขึ้นของกำไรสุทธิในอัตราการเติบโตที่ตัวเลข 2 หลักเป็นผลมาจากการเพิ่มขึ้นของรายได้ที่มิได้มาจากการดำเนินงานซึ่งส่วนใหญ่มาจากบริษัทในเครือและกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน
TC-Lease มีการก่อหนี้ที่ค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับคู่แข่งในตลาด ในขณะเดียวกันก็ยังมีความไม่สอดคล้องกันในอายุของสินทรัพย์และหนี้สินอยู่จำนวนหนึ่ง อย่างไรก็ตาม TC-Lease ได้ลดความเสี่ยงด้านสภาพคล่องโดยการจัดการสินทรัพย์และหนี้สินอย่างระมัดระวัง นอกจากนี้ ยังได้รับการสนับสนุนทางด้านการเงินจากธนาคารพาณิชย์หลายแห่ง โดยเฉพาะจากผู้ถือหุ้นของบริษัท ซึ่งคือ ITOCHU Corporation และ Mizuho Bank ด้วย
TC-Lease มีแผนจะเพิ่มศักยภาพการแข่งขันในธุรกิจลีสซิ่ง รวมทั้งส่งเสริมธุรกิจการให้บริการทางการเงิน และขยายธุรกิจไปยังต่างประเทศ บริษัทยังจะขยายธุรกิจลีสซิ่งรถยนต์อย่างต่อเนื่องทั้งในญี่ปุ่นและต่างประเทศด้วยเช่นกัน ปัจจุบัน สินทรัพย์ดำเนินงานของบริษัทลูกในต่างประเทศของ TC-Lease มีจำนวน 190 พันล้านเยน คิดเป็น 9% ของสินทรัพย์ดำเนินงานรวมของ TC-Lease
จากแผนธุรกิจในปัจจุบัน TC-Lease ให้ความสำคัญในการดำเนินธุรกิจในประเทศไทยผ่าน TTL ซึ่งก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 2546 โดยทั้ง TC-Lease และ TTL ต่างก็เล็งเห็นแนวโน้มที่ดีของอุตสาหกรรมลีสซิ่งเครื่องจักรและอุปกรณ์ในประเทศไทย ซึ่ง TTL มีประวัติที่ยาวนานในฐานะเป็นผู้ให้บริการลีสซิ่งเครื่องจักรและอุปกรณ์ในประเทศไทย TTL ยังมีความร่วมมือที่ยาวนานกับ บริษัท ทิสโก้ไฟแนนเชียลกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) (TISCO) โดย ปัจจุบัน TTL เป็นบริษัทร่วมทุนระหว่าง TISCO และ TC-Lease ซึ่งถือหุ้นฝ่ายละ 49% ใน TTL ในขณะที่อีก 2% ถือโดย บริษัท สมโพธิ์ เจแปน เซอร์วิส จำกัด (SJS)
TTL ให้บริการสินเชื่อลีสซิ่งและเช่าซื้อเครื่องจักรและอุปกรณ์ ทั้งนี้ สินเชื่อของ TTL เติบโตขึ้นมากถึง 46% จาก 3,404 ล้านบาทในปี 2554 เป็น 4,967 ล้านบาทในปี 2555 TC-Lease และ TISCO ได้แสดงให้เห็นถึงพันธะสัญญาที่แข็งแกร่งในการสนับสนุนทั้งทางด้านธุรกิจและการเงินแก่ TTL ภายใต้สัญญาร่วมทุน TC-Lease และ TISCO ได้ร่วมกันให้ความรู้ที่ครอบคลุมการดำเนินงาน การจัดการความเสี่ยง และการนำเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่แก่ TTL การให้การค้ำประกันหนี้ซึ่งรวมถึงหุ้นกู้ที่เสนอขายในครั้งนี้ก็เป็นอีกตัวอย่างหนึ่งของการให้การสนับสนุนด้านการเงินที่บริษัทได้รับในฐานะบริษัทลูกของทั้ง TC-Lease และ TISCO การสนับสนุนที่แข็งแกร่งจากบริษัทแม่คาดว่าจะมีอย่างต่อเนื่องในอนาคต ซึ่งสอดคล้องกับความมุ่งมั่นในการขยายธุรกิจในต่างประเทศของ TC-Lease โดยเฉพาะในภูมิภาคเอเชีย และการสนับสนุนดังกล่าวยังสอดคล้องกับกลยุทธ์ของ TISCO ในการให้บริการแก่ฐานลูกค้ารายใหญ่ของบริษัทด้วย
บริษัท ทิสโก้ โตเกียว ลีสซิ่ง จำกัด (TTL)
อันดับเครดิตตราสารหนี้:
หุ้นกู้มีการค้ำประกันในวงเงินไม่เกิน 1,000 ล้านบาท ไถ่ถอนภายในปี 2561 AA+
แนวโน้มอันดับเครดิต: Stable