นายชัยพัชร์ นาคมณฑนาคุ้ม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์ ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) (UOBKH) เปิดเผยว่า บริษัทร่วมมือกับสถาบันฝึกอบรม สมาคมบริษัทหลักทรัพย์ (ATI) จัดโครงการ “SAP Season II” เพื่อเปิดโอกาสให้นักศึกษาชั้นปีที่ 4 หรือบุคคลทั่วไปที่มีความสนใจวิชาชีพเจ้าหน้าที่การตลาด(มาร์เก็ตติ้ง)เข้าอบรมหลักสูตรการเป็นผู้ติดต่อและการลงทุนในตลาดทุนฟรีโดยไม่มีค่าใช้จ่าย ทั้งนี้ ผู้ที่ได้รับการคัดเลือกเข้าฝึกอบรมและผ่านการทดสอบความรู้จาก ATI จะได้รับบรรจุเป็นเจ้าหน้าที่การตลาดของ UOBKH โดยเปิดรับสมัครผู้ที่สนใจตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 1 กันยายน 2556
“ปัจจุบันภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นเติบโตอย่างต่อเนื่องและมีผู้ลงทุนรายใหม่เข้ามาในตลาดเป็นจำนวนมาก ขณะที่จำนวนมาร์เก็ตติ้งในอุตสาหกรรมหลักทรัพย์เติบโตไม่ทันกับขนาดตลาดที่กำลังขยายตัว ในส่วนของ UOBKH ปัจจุบันมีมาร์เก็ตติ้งประมาณ 260 คน ดูแลลูกค้าที่เปิดบัญชีซื้อขาย ประมาณ 26,000 บัญชี ถือเป็นสัดส่วนที่แตกต่างกันมาก ด้วยเหตุนี้บริษัทจึงร่วมมือกับ ATI จัดอบรมเพื่อสร้างมาร์เก็ตติ้งเลือดใหม่ ที่มีความรอบรู้ เข้าใจการลงทุน และใส่ใจให้บริการลูกค้าเข้ามาสู่อุตสาหกรรมหลักทรัพย์ นี่นับเป็นความร่วมมือครั้งที่ 2 ในการจัดโครงการดังกล่าว โดยคาดหวังว่า น่าจะสร้างมาร์เก็ตติ้งเลือดใหม่ให้บริษัทอีกประมาณ 30 คน” นายชัยพัชร์กล่าว
ทั้งนี้ มองว่า ปัจจุบันการเชื่อมโยงการซื้อขายหลักทรัพย์ในตลาดต่างประเทศผ่านสมาชิกในกลุ่มประเทศอาเซียน (ASEAN Linkage) และการเปิดเสรีประชาคมอาเซียนที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้ ทำให้จำนวนผู้ลงทุนรายใหม่ในตลาดเพิ่มมากขึ้น มาร์เก็ตติ้งจะเป็นบุคลากรที่มีความสำคัญที่จะช่วยรักษาฐานลูกค้าและเสริมความแข็งแกร่งในการดำเนินธุรกิจหลักทรัพย์ ซึ่งปัจจุบันบริษัทหลักทรัพย์ของกลุ่ม UOBKH ในประเทศสิงคโปร์ ฮ่องกง มาเลเซีย ฯลฯ ได้เร่งสร้างมาร์เก็ตติ้งเลือดใหม่ขึ้นมารองรับการขยายตัวของตลาด
นายสาธิต วรรณศิลปิน รองกรรมการผู้อำนวยการ สถาบันฝึกอบรม สมาคมบริษัทหลักทรัพย์ไทย (ATI) ในฐานะศูนย์พัฒนาความรู้ด้านตลาดทุน กล่าวว่า เนื้อหาที่จัดอบรมให้กับผู้ที่ผ่านการคัดเลือกในโครงการ “SAP Season II” เกี่ยวกับความเข้าใจเรื่องตลาดทุน การให้คำปรึกษาด้านการลงทุน และทักษะในการให้บริการ รวมถึงการจัดสอบใบอนุญาตการเป็นเจ้าหน้าที่การตลาด โดยจะจัดอบรมประมาณกลางเดือนตุลาคมนี้ สำหรับผู้ที่สนใจสามารถสมัครร่วมโครงการได้ทาง www.u-trade.co.th หรือโทร 02 659 8255
นายสาธิต กล่าวทิ้งท้ายว่า มาร์เก็ตติ้งในอุตสาหกรรมหลักทรัพย์ยังไม่เพียงพอสำหรับการดูแลลูกค้าให้ทั่วถึง ปัจจุบันมีมาร์เก็ตติ้งประมาณ 8,000 คน ขณะที่จำนวนบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ทั้งระบบมีประมาณ 800,000 บัญชี หมายความว่า มาร์เก็ตติ้ง 1 คนต้องดูแลลูกค้า 100 บัญชี ถือเป็นสัดส่วนที่สูงมาก เมื่อเทียบกับระดับมาตรฐานทั่วไปที่มาร์เก็ตติ้ง 1 คน ดูแลลูกค้าเพียง 50 คนเท่านั้น อย่างไรก็ดี ในอนาคตจำนวนบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์น่าจะเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง หลังจากที่ตลาดหลักทรัพย์พยายามขยายฐานลูกค้าให้มากขึ้น โดยคาดว่า สิ้นปี 2556 จำนวนบัญชีหลักทรัพย์จะเพิ่มเป็น 900,000 บัญชี และน่าจะเกิน 1,000,000 บัญชีภายในปี 2557 ขณะที่จำนวนมาร์เก็ตติ้งใหม่ในอุตสาหกรรมกลับเติบโตปีละไม่เกิน 10% ดังนั้น จำเป็นที่บริษัทหลักทรัพย์ต้องเร่งสร้างมาร์เก็ตติ้งเลือดใหม่ให้ทันการเติบโตของตลาด