สนพ.จุดประกาย ส่งเสริมการท่องเที่ยวแบบใหม่ ใช้บริการรถสาธารณะ หวังลดใช้พลังงาน รักษาสิ่งแวดล้อม ไม่ทำลายธรรมชาติ

จันทร์ ๑๙ สิงหาคม ๒๐๑๓ ๑๕:๑๒
สนพ. ปิ๊งไอเดีย เที่ยวไทยใช้บริการรถสาธารณะ จับมืออุทยานแห่งชาติ เร่งศึกษา การใช้รถสาธารณะในการเดินทาง ชูเขาใหญ่นำร่องแห่งแรก หวังลดการใช้พลังงาน รักษาสิ่งแวดล้อม อีกทั้งยังได้บรรยากาศธรรมชาติที่กลับมามีความสมบูรณ์มากขึ้น

นายสุเทพ เหลี่ยมศิริเจริญ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) กระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า สถานการณ์ราคาน้ำมันในปัจจุบันมีความผันผวน ทั้งจากเรื่องวิกฤตราคาน้ำมันในตลาดโลก ความไม่สงบในประเทศอียิปต์ ฯลฯ ขณะที่ปริมาณความต้องการใช้พลังงานยังคงเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยสัดส่วนการใช้น้ำมันของประเทศไทยในปี 2555 ที่ผ่านมา พบว่ามีการใช้น้ำมันรวม 44,788 ล้านลิตร เพิ่มขึ้น 6.12% จากปี 2554 และจากสถิติปริมาณพาหนะของประเทศไทยในปัจจุบันพบว่ามีพาหนะจดทะเบียนมากถึง 33,960,792 คัน*

ดังนั้น เพื่อให้เกิดตัวอย่างสำหรับการประหยัดพลังงานในการเดินทาง และลดปริมาณรถยนต์หนาแน่นในช่วงเทศกาลท่องเที่ยว สนพ. โดยกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน ให้การสนับสนุนอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช (อช.) ดำเนิน “โครงการศึกษาความเป็น ไปได้ในการใช้รถสาธารณะร่วมกันเพื่อจัดกิจกรรมการท่องเที่ยว” โดยเริ่มจากอุทยานแห่งชาติ เขาใหญ่เป็นแห่งแรก ซึ่งในปี 2554 ที่ผ่านมา สถิติการใช้พาหนะส่วนตัวเพื่อมาท่องเที่ยว ณ อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่มีจำนวน 185,372 คัน คิดเป็นอัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันประมาณ 9.2 ล้านลิตร ก่อให้การเกิดปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ถึง 28,136 ตันก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ และยังเป็นการรบกวนธรรมชาติอีกด้วย

ทั้งนี้ โครงการดังกล่าว ได้ศึกษารูปแบบรถสาธารณะที่เหมาะสมกับกิจกรรมท่องเที่ยว เชิงอนุรักษ์ เพื่อประหยัดพลังงาน เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และลดปัญหาการรบกวนสัตว์ป่า โดยทาง อช. ได้ทดลองนำรถสาธารณะมาให้บริการในระยะทางเฉลี่ย 500 กิโลเมตร เป็นระยะเวลา 3 เดือน ได้แก่ รถตู้โดยสารเครื่องยนต์ดีเซล ขนาด 2,500 ซีซี ซึ่งผลการทดลองพบว่า สิ้นเปลืองน้ำมันดีเซล 57.34 ลิตรต่อเที่ยวต่อคัน เป็นเงิน 1,720 บาท* และรถตู้โดยสารเครื่องยนต์เบนซิน ขนาด 2,700 ซีซี ที่ติดตั้งระบบใช้ก๊าซ NGV พบว่าสิ้นเปลืองก๊าซ NGV 74.96 ลิตรต่อเที่ยวต่อคัน เป็นเงิน 787 บาท*

“จากการหารือกับ อช. พบว่า อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ มีความพร้อมที่จะให้บริการรถสาธารณะอย่างแน่นอน เพราะมีทั้งเส้นทางสำหรับรถสาธารณะ และมีผู้ประกอบการรถสาธารณะที่สนใจจะเข้าร่วมโครงการ รวมทั้งมีความโดดเด่นและเป็นเอกลักษณ์ด้านการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ จากการสอบถามความเห็นของนักท่องเที่ยวพบว่ามากกว่า 1 ใน 3 ของกลุ่มตัวอย่างนักท่องเที่ยวเห็นว่า หากมีบริการรถสาธารณะ โดยกำหนดเวลารถวิ่ง และค่าโดยสารที่เหมาะสม จะหันมาใช้บริการรถสาธารณะในการท่องเที่ยว และหากจำนวนนักท่องเที่ยว 50% ของจำนวนทั้งหมดหันมาเลือกใช้บริการถสาธารณะ จะช่วยประหยัดพลังงาน รักษาสิ่งแวดล้อม และลดการรบกวนธรรมชาติด้วย” นายสุเทพ กล่าว

หมายเหตุ * กลุ่มสถิติการขนส่ง กรมการขนส่งทางบก ข้อมูล ณ เดือนกรกฎาคม 2556

** คำนวณอัตราราคาน้ำมันที่ 29.99 บาทต่อลิตร

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๒๑ 60 ปีแห่งความมุ่งมั่น! คาโอ คว้ารางวัลอุตสาหกรรมดีเด่น 2 ประเภทในปี 2567 ชูความสำเร็จด้านสิ่งแวดล้อมและความรับผิดชอบต่อสังคม
๑๗:๒๓ AVATR ก้าวสู่ความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่! ระดมทุนในรอบ Series C ได้มากกว่า 11,000 ล้านหยวน พร้อมก้าวสู่ความเป็นผู้นำในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าหรูหราแห่งอนาคต
๑๗:๐๖ Zoom เปิด 10 เทรนด์ ใช้ AI ในการทำงานปี 2568
๑๗:๑๐ เปิดมุมมองอาชีพที่หลากหลายในอุตสาหกรรมกาแฟไทย เจาะลึกบทบาทและแนวทางยกระดับสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน
๑๗:๑๔ อนาคตแห่งการเดินทาง: 5 คนขับ AI จากแอปเรียกรถ Maxim
๑๗:๕๕ Well-Being House บ้านชั้นเดียวเอาใจคนวัยเกษียณ
๑๗:๑๖ กทม. แจงเปิดกว้างการแข่งขันโครงการเช่าคอมพิวเตอร์พกพาสำหรับนักเรียน
๑๖:๓๗ รายงาน Ericsson Mobility Report ฉบับล่าสุด เผยผู้เริ่มให้บริการ 5G กลุ่มแรกกำลังมุ่งสู่โมเดลธุรกิจที่เน้นประสิทธิภาพ
๑๗:๒๕ เมดีซ กรุ๊ป ร่วมสมทบทุนสนับสนุนมูลนิธิโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช ช่วยผู้ป่วยในชนบท ถิ่นทุรกันดารที่ห่างไกล
๑๖:๔๔ CNN จับตา นวัตกรรมล่าสุดจากนักวิจัยไทย พลิกโฉมการตรวจคัดกรองความเครียดด้วย เหงื่อ