“สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สภาพัฒนาฯ) ประกาศตัวเลขเศรษฐกิจไทยในไตรมาสที่ 2 เป็นไปตามที่ ฟินันซ่าคาดการณ์ คือเศรษฐกิจไทยจะชะลอตัวลงมาก แต่ที่ไม่ได้คาดการณ์ไว้คือ เศรษฐกิจไทยจะเข้าสู่ภาวะถดถอยเชิงเทคนิค คือเศรษฐกิจไทยหดตัวไตรมาสต่อไตรมาส 2 ไตรมาสต่อเนื่องกัน ซึ่งการถดถอยเชิงเทคนิค แม้จะเป็นเรื่องไม่น่ากังวลเพราะพื้นฐานไทยยังดีอยู่ แต่โอกาสที่แบงค์ชาติจะขึ้นดอกเบี้ยนโยบายในครึ่งปีหลัง และการลดดอกเบี้ยคงเป็นไปได้ยาก เพราะหนี้ครัวเรือนยังคงสูงอยู่
“ทั้งนี้ บลจ. ฟินันซ่า จึงออกกองทุนตราสารหนี้ 3 เดือนเป็นทางเลือกแก่ลูกค้า คือ กองทุนเปิดฟินันซ่าตราสารหนี้พลัส โรลโอเวอร์ 3 เดือน 5 (FAM FIPR3M5) โดยมีอัตราผลตอบแทนโดยประมาณ 2.90% ต่อปี โดยเปิดเสนอขายระหว่างวันที่ 19 - 26 ส.ค.56 โดยสินทรัพย์ในกองทุนบางส่วนจะลงทุนเป็นเงินฝากธนาคารต่างประเทศและในประเทศที่มีอันดับความน่าเชื่อถืออยู่ในระดับที่ลงทุนได้ขึ้นไป”
สำหรับการลงทุน 3 เดือน เป็นกองทุนที่โรลโอเวอร์มาจากกองก่อนหน้านี้ FAM FIPR3M5 เป็นกองทุน specific fund โดย
กองทุนจะพิจารณาลงทุนในตราสารแห่งหนี้ และ/หรือ เงินฝากของภาครัฐและภาคเอกชน ทั้งในประเทศและต่างประเทศ อาทิ เงินฝากธนาคารต่างประเทศสกุลเงิน USD, CNY, HKD, EUR, JPY กับธนาคาร BOC(Macau), Standard Chartered Bank (Hong Kong),ธนาคาร CIMB Niaga (Indonesia) หรือเงินฝากสกุลเงิน AED ธนาคาร Abu Dhabi Commercial Bank, UAE (F1), ธนาคาร Union National Bank, UAE(P-1), ธนาคาร CBQ (Qatar), ตั๋วเงินหรือเงินฝากธนาคารพาณิชย์ในประเทศ, ตั๋วแลกเงิน
บมจ.ดั๊บเบิ้ล เอ (1991) (BBB), ตั๋วแลกเงิน บมจ.เอเซียเสริมกิจลีสซิ่ง (BBB+), ตั๋วแลกเงิน บมจ.ราชธานีลิสซิ่ง (BBB+), ตั๋วแลกเงิน บมจ. อีซี่บาย (BBB+) หรือตราสารหนี้ภาคเอกชนที่มีอันดับความน่าเชื่อถือ BBB+ ขึ้นไปตั๋วเงินคลังหรือพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย เป็นต้น
โดยผู้ลงทุนสามารถลงทุนขั้นต่ำเพียง 2,000 บาท ซึ่งหากนักลงทุนสนใจ สอบถามเพิ่มเติมได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02-352-4050 อัตราผลตอบแทนสามารถดูได้จากเอกสารแนบ
การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนตัดสินใจลงทุน ผลการดำเนินงานในอดีตของกองทุนรวม มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต