นางสาวอาริศรา ธรมธัช ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส สายงานธุรกิจภาครัฐ ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ธนาคารได้ร่วมกับสำนักงานประกันสังคม ให้บริการรับชำระเงินสมทบเงินกองทุนประกันสังคม ของผู้ประกันตนตามมาตรา 40 ซึ่งเป็นบุคคลที่ไม่ใช่ลูกจ้าง หรือเป็นผู้ประกันตนโดยสมัครใจ เช่น พ่อค้า แม่ค้า แม่บ้าน คนขับรถแท็กซี่ รถจักรยานยนต์รับจ้าง ชาวนา ชาวสวน หรืออาชีพอิสระต่างๆ ที่ไม่เคยขึ้นทะเบียนเป็นผู้ประกันตนกับสำนักงานประกันสังคมมาก่อน โดยให้บริการผ่านเคาน์เตอร์สาขากว่า 1,100 แห่งทั่วประเทศ พร้อมออกใบเสร็จรับเงิน คิดค่าธรรมเนียมเพียงรายการละ 10 บาท ซึ่งเป็นธนาคารแห่งแรกที่เปิดให้บริการดังกล่าว
นอกจากนี้ ธนาคารยังรับชำระเงินด้วยการหักบัญชีเงินฝากอัตโนมัติ คิดค่าบริการรายการละ 5 บาท โดยผู้ประกันตนเพียงทำหนังสือยินยอมหักบัญชีเงินฝากอัตโนมัติ ซึ่งขอรับได้ที่ธนาคารกรุงไทย และสำนักงานประกันสังคมทั่วประเทศ โดยเปิดให้บริการพร้อมกันทุกสาขาทั่วประเทศตั้งแต่วันที่ 2 กันยายน 2556 เป็นต้นไป สำหรับในปีหน้า ธนาคารจะเพิ่มช่องทางการรับชำระเงินผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ เช่น เครื่องเอทีเอ็ม เอดีเอ็ม บริการ KTB netbank เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น
นางสาวอาริศรา ธรมธัช กล่าวต่อไปว่า ปัจจุบันผู้ประกันตนตามมาตรา 40 สามารถเลือกจ่ายเงินสมทบกองทุนประกันสังคมได้ 2 ทางเลือก คือ ทางเลือกที่ 1 ผู้ประกันตนจ่าย 70 บาท รัฐบาลอุดหนุน 30 บาท ได้รับสิทธิประโยชน์ 3 กรณีคือ เงินทดแทนการขาดรายได้เมื่อเจ็บป่วย เมื่อทุพพลภาพ และกรณีเสียชีวิต ทางเลือกที่ 2 ผู้ประกันตนจ่าย 100 บาท รัฐบาลอุดหนุน 50 บาท ได้รับสิทธิประโยชน์ 3 กรณี พร้อมสิทธิประโยชน์เพิ่มจากเงินบำเหน็จชราภาพ และในอนาคตจะเพิ่มทางเลือกให้ผู้ประกันตนอีก 3 ทางเลือกคือ ผู้ประกันตนจ่าย 100 บาท รัฐบาลอุดหนุน 100 บาท ผู้ประกันตนจ่าย 170 บาท รัฐบาลอุดหนุน 130 บาท และผู้ประกันตนจ่าย 200 บาท รัฐบาลอุดหนุน 150 บาท โดยปัจจุบันมีผู้ประกันตนตามมาตรา 40 จำนวน 1.43 ล้านคน ซึ่งคาดว่าจะเพิ่มเป็น 1.75 ล้านคน ในปี 2557 และ 2.9 ล้านคน ในปี 2558
อย่างไรก็ตาม ธนาคารยังให้บริการรับชำระเงินสมทบกองทุนประกันสังคมมาตรา 33 สำหรับสถานประกอบการ และมาตรา 39 สำหรับผู้ประกันตนภาคสมัครใจ ผ่านเคาน์เตอร์สาขา การหักบัญชีเงินฝากอัตโนมัติ และสำหรับสถานประกอบการยังสามารถชำระผ่านอินเตอร์เน็ตได้ตลอด 24 ชั่วโมงอีกด้วย