นายกิตติ ชีวะเกตุ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการ บริษัท ยูนิเวอร์แซล แอดซอร์บเบ้นท์ แอนด์ เคมิคัลส์ จำกัด (มหาชน) หรือ UAC เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้ลงนามในสัญญาร่วมทุนกับบริษัท SEBIGAS (S.p.A) ประเทศอิตาลี และจัดตั้งบริษัทลูกในการดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับการรับเหมาออกแบบและก่อสร้างโรงงานก๊าซชีวภาพ การให้บริการเดินเครื่องและบำรุงรักษา (O&M Service) ครอบคลุมประเทศภาคพื้นเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดย UAC Energy และ SEBIGAS (S.p.A) จะถือหุ้นร้อยละ 49 และมีบุคคลถือในส่วนที่เหลืออีก 2%
สำหรับบริษัท SEBIGAS (S.p.A) เป็นบริษัทจดทะเบียนในประเทศอิตาลี เป็นบริษัทในกลุ่ม Seci Group ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ Maccaferri Industrial Group ในประเทศอิตาลี ได้ดำเนินธุรกิจ Bio-gas มาเป็นระยะเวลากว่า 5 ปี โดยเป็นทั้งผู้รับเหมาออกแบบก่อสร้างโรงงาน Bio-gas กว่า 30 โรง และเป็นเจ้าของโรงงานผลิต Bio-gas จำนวน 17 โรงทั่วประเทศอิตาลี และนอกจากธุรกิจ Bio-gas แล้ว ยังทำธุรกิจทั้งด้านพลังงานแสงแดด (Solar Power) พลังงานลม (Wind Energy) พลังงานชีวมวล (BioMass) และพลังงานความร้อนใต้พิภพ (Geothermal Power)
“การร่วมทุนในครั้งนี้ถือเป็นการเพิ่มศักยภาพของ UAC ในการดำเนินธุรกิจพลังงานทดแทนทั้งในและต่างประเทศ รวมถึงตอบสนองนโยบายรัฐบาลที่สนับสนุนการลงทุนในโครงการก๊าซชีวภาพเพื่อผลิตกระแสไฟฟ้าจากเดิม 600 เมกกะวัตต์เป็น 3,600 เมกะวัตต์ ภายในปี 2564”นายกิตติ กล่าว
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการ บริษัท ยูนิเวอร์แซล แอดซอร์บเบ้นท์ แอนด์ เคมิคัลส์ จำกัด(มหาชน) กล่าวต่อว่า โครงการแรกที่บริษัทร่วมทุนจะรับดำเนินการคือโครงการ CBG แม่แตง 2 ของบริษัทฯ ที่อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ และโครงการ CBG ของบริษัทฯ ในพื้นที่ภาคเหนือที่ได้รับเงินสนับสนุนจากสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน กระทรวงพลังงาน (สนพ.) จำนวน 9 โครงการ ขณะเดียวกันปัจจุบันก็มีผู้สนใจที่จะให้รับเหมาก่อสร้างโรงงานก๊าซชีวภาพอีกจำนวน 6-7 โรงซึ่งคาดว่าจะมีความชัดเจนภายในเดือนกันยายนนี้
ด้าน นายชัชพล ประสพโชค รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ยูนิเวอร์แซล แอดซอร์บเบ้นท์ แอนด์ เคมิคัลส์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ในการร่วมทุนครั้งนี้จะเพิ่มรายได้และโอกาสทางธุรกิจให้กับบริษัทอย่างต่อเนื่อง โดย SEBIGAS (S.p.A) จะนำเอาเทคโนโลยีการผลิต Bio-gas การนำ Bio-gas ไปผลิตกระแสไฟฟ้า รวมถึงประสบการณ์ในการก่อสร้างโรงงาน การเดินเครื่องโรงงาน การบำรุงรักษา (O&M Service) มาใช้ในบริษัทร่วมทุนนี้ ซึ่งจะทำให้ธุรกิจสามารถเจริญเติบโตได้อย่างรวดเร็ว และมั่นคงทั้งในประเทศ และภูมิภาคเอเชียตะวันออกฉียงใต้
ทั้งนี้คาดการณ์ว่าบริษัทร่วมทุนนี้จะสามารถเริ่มมีรายได้ในปี 2557และตั้งเป้าในปี 2560 จะมีรายได้เกิน 1,000 ล้านบาท