นายกานต์ ตระกูลฮุน กรรมการผู้จัดการใหญ่ เอสซีจี เปิดเผยว่า เอสซีจี เปเปอร์ ได้ลงนามในบันทึกความเข้าใจ (MOU) กับ Nippon Paper Industries Company Limited หรือ NPI ประเทศญี่ปุ่นเพื่อร่วมทุนในสายธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับเยื่อกระดาษและกระดาษพิมพ์เขียน (Fibrous Chain) ของเอสซีจีเปเปอร์ ซึ่งจะช่วยเสริมสร้างความสามารถในการแข่งขันให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น การร่วมทุนครั้งนี้ NPI จะมีสัดส่วนการถือหุ้นใน Fibrous Chain ของเอสซีจี เปเปอร์ ร้อยละ 30 โดยการเพิ่มทุน ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขในสัญญาร่วมทุนที่จะตกลงกัน โดยคาดว่าการร่วมทุนจะแล้วเสร็จภายในไตรมาสที่ 2 ของปี 2557
“การร่วมทุนระหว่างเอสซีจี เปเปอร์ และ NPI ครั้งนี้ จะก่อให้เกิดพลังแห่งความร่วมมือในการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต การพัฒนาสินค้าใหม่ การตลาด และช่องทางการจัดจำหน่าย ซึ่งสอดคล้องกับทิศทางการดำเนินธุรกิจของเอสซีจีที่มุ่งเน้นการสร้างสรรค์สินค้าและบริการที่มีมูลค่าเพิ่มสูง (HVA) เพื่อการเป็นผู้นำด้านการพัฒนาอย่างยั่งยืนในภูมิภาคอาเซียน” นายกานต์ กล่าวเสริม
สำหรับสายธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับเยื่อกระดาษและกระดาษพิมพ์เขียน (Fibrous Chain) ของเอสซีจีเปเปอร์ ประกอบด้วยธุรกิจสวนป่า เยื่อกระดาษ (กำลังผลิต 470,000 ตันต่อปี) และกระดาษพิมพ์เขียน (กำลังผลิต 570,000 ตันต่อปี) โดยมีรายได้ในปี 2555 ประมาณ 17,000 ล้านบาท และครึ่งปีแรกของปี 2556 ประมาณ 8,500 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 30 ของรายได้รวมของเอสซีจี เปเปอร์
Nippon Paper Industries Company Limited หรือ NPI ผู้ผลิตกระดาษรายใหญ่ของประเทศญี่ปุ่น เป็นผู้นำด้านเทคโนโลยี และมีเครือข่ายการจัดจำหน่ายที่แข็งแกร่งทั่วเอเชีย ประกอบด้วยธุรกิจเยื่อกระดาษ กระดาษพิมพ์เขียน กระดาษสำหรับงานเฉพาะ พลังงาน ชีวเคมี ฯลฯ โดยในรอบปี 2555 (1 เมษายน 2555 - 31 มีนาคม 2556) NPI มีสินทรัพย์และยอดขายประมาณ 470,000 และ 320,000 ล้านบาทตามลำดับ ปัจจุบัน NPI และเอสซีจี เปเปอร์ มีโครงการร่วมทุนผลิตกระดาษ Machine Glazed ในประเทศไทย กำลังผลิต 43,000 ตันต่อปี มูลค่าการลงทุน 2,200 ล้านบาท ซึ่งอยู่ระหว่างการก่อสร้างโรงงาน คาดว่าจะเริ่มผลิตได้กลางปี 2557