นางสาวพัชพร สรรคบุรานุรักษ์ หัวหน้าฝ่ายวาณิชธนกิจ บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย)จำกัด (มหาชน) ในฐานะผู้จัดการการจัดจำหน่าย หุ้นสามัญ บริษัท ซีออยล์จำกัด (มหาชน) หรือ SEAOIL เปิดเผยว่า คาดราคาหุ้น SEAOIL ที่จะเข้าทำการจดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) เป็นวันแรก (5 ก.ย.) จะปรับเพิ่มสูงขึ้นกว่าราคาจองซื้อ (ไอพีโอ) ที่ 3.45 บาท เนื่องจากปัจจัยพื้นฐานที่ดีของบริษัทฯ ผลการดำเนินงานที่ผ่านมาเติบโตอย่างต่อเนื่องและฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง
ทั้งนี้ เห็นได้จากบริษัทฯ มีรายได้เติบโตเฉลี่ยระหว่างปี 2553 — 2555 อยู่ที่ 31.50% ขณะที่กำไรสุทธิเติบโตอย่างก้าวกระโดดเฉลี่ย 50.86% ต่อปี และมีอัตราผลตอบแทนของผู้ถือหุ้น (ROE) สิ้นไตรมาส 2 ปี 2556 ของบริษัทฯ สูงถึง 40.51% ประกอบกับผลการดำเนินงานงวด 6 เดือนแรก ปี 2556 บริษัทฯ มีรายได้ 1,322.40 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 7.21% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันเมื่อปีก่อน และมีกำไรสุทธิงวด 6 เดือนแรกของปี 2556 อยู่ที่ 41.58 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 56.13% อีกทั้ง บริษัทฯ มีฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง มีอัตราส่วนหนี้สินต่อทุน (D/E) ลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยสิ้นสุดไตรมาส 2 ปี 2556 บริษัทฯ มี D/E อยู่ที่ 1.00 เท่า ลดลงจาก 1.57 เท่า ในปี 2553
นอกจากนี้ ราคาหุ้นมีส่วนลดในระดับสูงซึ่งเป็นแรงจูงใจให้กับนักลงทุนเข้ามาลงทุนและสนใจซื้อ โดยส่วนลดที่สูงถึงร้อยละ 44 อีกทั้ง P/E ของบริษัทฯ ที่ 7.93 เท่า ซึ่งต่ำกว่า P/E ของบริษัทในกลุ่มพลังงานที่จัดจำหน่ายน้ำมันซึ่งได้แก่ PTG, SUSCO และ BAFS ที่ 14.06 เท่า จึงคาดว่าหุ้น SEAOIL จะได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุน และถือเป็นหุ้นพื้นฐานดี น่าลงทุน ถึงแม้ว่าภาวะในตลาดช่วงนี้จะมีความผันผวนก็ตาม
นางสาวนีรชา ปานบุญห้อม กรรมการบริหาร และกรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีออยล์ จำกัด (มหาชน) หรือ SEAOIL กล่าวว่า บริษัทฯ มีความมั่นใจในปัจจัยพื้นฐานและฐานะการเงินของบริษัทฯ ประกอบกับแนวโน้มการเติบโตต่อไปในอนาคต ซึ่งจะมีการขยายงานทั้งในส่วนของการจัดจำหน่ายน้ำมันทั้งทางทะเลและทางบก รวมถึงส่วนงานของธุรกิจจัดหาอาหาร วัตถุดิบ และให้บริการอื่นๆ แก่ที่พักอาศัยในทะเล เรือเดินทะเล และแท่นขุดเจาะน้ำมันและก๊าซในทะเล (Supply management) จึงมองว่าจากปัจจัยดังกล่าว จะทำให้หุ้นของ SEAOIL มีความน่าสนใจและเป็นที่ต้องการของนักลงทุน อีกทั้งในส่วนของราคาหุ้นคาดว่าจะสามารถเปิดยืนเหนือราคาจองซื้อที่ 3.45 บาท ได้
อย่างไรก็ดี จากบทวิเคราะห์จากบล. เคจีไอ ในฐานะผู้จัดการการจัดจำหน่าย ได้ประเมินราคาเป้าหมายหุ้น SEAOIL อยู่ที่ 4.90 บาท เนื่องจากแนวโน้มการเติบโตอย่างต่อเนื่องตามปริมาณความต้องการใช้น้ำมันสำหรับเรือบรรทุกน้ำมัน เรือบริวารแท่นขุดเจาะและเรือที่เกี่ยวข้องประเภทอื่นๆ ที่มีเพิ่มมากขึ้นทางทะเล ประกอบการขยายตลาดการจำหน่ายน้ำมันไปยังผู้ค้าน้ำมันที่จะนำน้ำมันไปจำหน่ายยังประเทศเพื่อนบ้านในอนาคต อีกทั้งการที่บริษัทฯ กำหนดราคาขายจากการบวกกำไรส่วนเพิ่มจากต้นทุน ทำให้มีกำไรแน่นอนจากทุกลิตรที่ขาย
ในขณะที่บทวิเคราะห์ของบล. โนมูระ พัฒนสิน ได้ประเมินราคาเป้าหมายหุ้น SEAOIL อยู่ที่ 4.84 บาท เนื่องจากบริษัทฯ มีจุดเด่นในการเป็นคู่ค้ากับบริษัทน้ำมันรายใหญ่ จึงทำให้บริษัทฯ สามารถจัดหาน้ำมันที่มีคุณภาพได้ในราคาต้นทุนต่ำ ขณะที่บริษัทฯ ไม่จำเป็นต้องมีการเก็บน้ำมันสำรองไว้ภายในบริษัท นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมีโอกาสในการเติบโตทางธุรกิจจำหน่ายน้ำมันและเชื้อเพลิงทางทะเลจากสัมปทานขุดเจาะน้ำมันและก๊าซในทะเลของภาครัฐที่คาดว่าจะมีขึ้นในอนาคต ซึ่งจะเป็นประโยชน์ให้แก่ธุรกิจจัดหาวัตถุดิบ และให้บริการอื่น ๆ (catering service และsupply management) แก่ที่พักอาศัยในทะเล เรือเดินทะเล และแท่นขุดเจาะในทะเล ของบริษัทด้วย
ด้านบล. ฟินันเซีย ไซรัส ได้ประเมินราคาเป้าหมายหุ้น SEAOIL อยู่ที่ 4.80 บาท เนื่องจากคาดว่า ผลการดำเนินงานส่วนใหญ่อิงอยู่กับการเติบโตของธุรกิจพลังงาน และมองว่าในระยะยาวอัตราการเติบโตของผลการดำเนินงานของซีออยล์ จะเป็นไปในทิศทางเดียวกับกลุ่มพลังงาน