นางสาวกิตติธรา รวมธรรม นายกสมาคมผู้ประกอบการรถยนต์ใช้แล้วกล่าวถึงที่มาของการจัดตั้งสมาคมฯ ว่า เกิดจากการรวมตัวกันของกลุ่มผู้ประกอบการรถยนต์ใช้แล้วจากทั่วทุกภูมิภาคที่มีแนวความคิดตรงกัน คือต้องการยกระดับมาตรฐานรถยนต์ใช้แล้วในประเทศไทยให้เป็นที่ยอมรับ ซึ่งที่ผ่านมาสังคมอาจจะมองภาพลักษณ์ของธุรกิจรถยนต์ใช้แล้วว่าขาดความเป็นมืออาชีพความชัดเจนและมาตรฐาน ทำให้ลูกค้าเกิดความไม่เชื่อมั่นและวิตกกังวลหลายประการดังนั้น หากผู้ประกอบการ ต่างคนต่างดำเนินการโดยไม่มีมาตรฐานที่กำหนดชัดเจนจะทำให้ธุรกิจรถยนต์ใช้แล้วถูกมองว่าไม่เป็นมืออาชีพต่อไป
“ดังนั้นเราจึงรวมตัวกันเพื่อจัดตั้ง สมาคมผู้ประกอบการรถยนต์ใช้แล้ว ซึ่งเป็นครั้งแรกที่ผู้ประกอบการธุรกิจจากทั่วทุกภูมิภาครวมตัวกันโดยในเบื้องต้นนี้มีสมาชิกทั้งสิ้นมากกว่า 200 รายเพื่อยกระดับมาตรฐานการประกอบวิชาชีพสร้างมาตรฐานใหม่ให้แก่วงการรถยนต์มือสองและขยายมาตรฐานดังกล่าวให้ได้รับการปฏิบัติโดยสมาชิกทั้งหมดให้สอดคล้องกัน และได้เริ่มขยายฐานสมาชิกออกไป เพื่อให้วงการรถยนต์ใช้แล้วของไทยได้รับความเชื่อมั่นและการยอมรับตามมาตรฐานสากล” นางสาวกิตติธรา กล่าว
นายวิสุทธิ์ เหมพรรณไพเราะ เลขาธิการ สมาคมผู้ประกอบการรถยนต์ใช้แล้วกล่าวว่า ภาพรวมของตลาดรถยนต์ใช้แล้ว ณ ปัจจุบัน พบว่ามีรถยนต์ใช้แล้วอยู่ประมาณ 3 ล้านคัน มีผู้ประกอบการจำหน่ายรถยนต์ใช้แล้วรวมทั้งสิ้นประมาณ 5 พันราย มูลค่าตลาดรวมกว่า 5 แสนล้านบาท ทั้งนี้จากการที่ผู้ประกอบการต่างดำเนินธุรกิจของตนโดยที่ไม่มีมาตรฐานเดียวกันจึงทำให้เกิดปัญหา
ต่างๆ และส่งผลเชิงลบต่อธุรกิจจำหน่ายรถยนต์ใช้แล้วของไทย ดังนั้นการจัดตั้งสมาคมผู้ประกอบการรถยนต์ใช้แล้วในครั้งนี้ ก็เพื่อที่จะสร้างเครือข่ายผู้ประกอบการให้มีความเป็นปึกแผ่น และร่วมกันพัฒนาธุรกิจนี้ให้มีมาตรฐานสากล อันจะเป็นประโยชน์ต่อทั้งผู้บริโภคและผู้ประกอบการโดยรวม
นายไพรัตน์ สกุลศรีประเสริฐ รองนายกสมาคมผู้ประกอบการรถยนต์ใช้แล้ว กล่าวว่าในส่วนของการบริหารจัดการด้านสมาชิกสัมพันธ์ทางสมาคมขอเป็นสื่อกลางในการประสานงาน ระหว่างภาครัฐ ภาคเอกชน และผู้ประกอบการ เพื่อประโยชน์สูงสุดแก่ผู้บริโภค
การยกระดับมาตรฐานของผู้ประกอบการในสมาคมถือเป็นพันธกิจหลักที่ทางสมาคมให้ความสำคัญ โดยทางสมาคมจะมีการทำงานร่วมกับหน่วยงานต่างๆทั้งทางภาครัฐ และเอกชนเพื่อให้ความรู้ ข้อมูลสำคัญทางธุรกิจ และบทวิเคราะห์ต่างๆที่เป็นประโยชน์ต่อเพื่อนสมาชิก เพื่อให้เพื่อนสมาชิกสามารถยกระดับมาตรฐานของธุรกิจไปสู่การเติบโตอย่างยั่งยืนเพื่อประโยชน์สูงสุดต่อผู้บริโภค
จากที่ประเทศไทยเรามีระบบเศรษฐกิจเปิดและสามารถดึงดูดนักลงทุนรายใหม่ๆจากทั่วทุกมุมโลกได้ตลอดเวลา การเร่งนำมาตรฐานมาใช้จะทำให้ผู้ประกอบการสามารถแข่งขันได้อย่างมีประสิทธิภาพ และได้รับความเชื่อถือโดยต่อเนื่อง ผนวกกับการที่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนจะเดินเครื่องอย่างเต็มรูปแบบในเวลาไม่ถึงสองปีนี้ ไทยเราจะกลายเป็นศูนย์กลางของภูมิภาค ดังนั้นการวางรากฐานที่เป็นมาตรฐานใหม่จะช่วยรองรับการเติบโตได้อย่างเต็มประสิทธิภาพด้วย” นางสาวกิตติธรา กล่าวสรุป
บริษัท ดีซี คอนซัลแทนส์ แอนด์ มาร์เก็ตติ้ง คอมมูนิเคชั่นส์ จำกัด
พิมพกานต์ ไชยสังข์
โทร. 0-2610-2353 โทรสาร 0-2610-2345-6