นายอนุสรณ์ ไกรวัตนุสสรณ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กล่าวว่า รัฐบาล นำโดย นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้ให้ความสำคัญในการแก้ปัญหาการทุจริตคอร์รัปชั่นโดยมีนโยบายปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชั่นอย่างชัดเจน เพื่อสร้างมิติใหม่ให้เป็นประเทศมีความโปร่งใส ตรวจสอบได้ (Open Government) พร้อมสร้างการมีส่วนร่วมให้ทุกฝ่ายของสังคมเข้ามาร่วมตรวจสอบได้ และเดินหน้าพัฒนาประเทศไทยไปด้วยกัน ทั้งนี้ยังมีการดำเนินงานเชิงรุกของรัฐบาลในการต่อต้านการทุจริต โดยการกำหนดหลักการเพื่อส่งเสริม ผลักดันให้หน่วยงานภาครัฐเปิดเผยข้อมูลในกระบวนการ จัดซื้อ จัดจ้างทุกขั้นตอน ตามที่กฎหมายกำหนดอย่างเป็นรูปธรรม และให้มีการปฏิบัติอย่างเท่าเทียมกันต่อผู้เสนอราคาหรือผู้เสนองานทุกราย เพื่อสร้างความโปร่งใสและเที่ยงธรรม โดยเฉพาะการเปิดให้บุคคลจากภาคส่วนต่างๆ ที่ผ่านการฝึกอบรม และได้รับการรับรองสามารถเข้ามาเป็นผู้สังเกตการณ์ในกระบวนการจัดซื้อ จัดจ้างภาครัฐ เพื่อทำหน้าที่สอดส่อง สังเกตการณ์ และเสนอแนะให้การจัดซื้อ จัดจ้างเป็นไปโดยสุจริต ซึ่งสอดคล้องกับเจตนารมณ์ของมาตรา ๒๓ แห่งพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยหลักเกณฑ์ และวิธีการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี พ.ศ. ๒๕๕๖ พร้อมทั้งการสร้างความโปร่งใสในการปฏิบัติราชการ จะจัดทำโครงการ ๑ กรม ๑ ป้องกันโกง (Clean Initiative) ซึ่งขยายผลไปยังหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ องค์กรมหาชน และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นอีกด้วย
นายอนุสรณ์ กล่าวต่อไปว่า กระทรวงการพัฒนาสังคมฯ โดยศูนย์ปฏิบัติการต่อต้านการทุจริต ในฐานะเจ้าภาพหลักในการดำเนินงานด้านการต่อต้านการทุจริต การป้องกันและแก้ไขปัญหาการทุจริต และการส่งเสริมให้ทุกภาคส่วนเข้ามามีส่วนร่วมในการต่อต้าน ป้องกัน แก้ไขปัญหาการทุจริตคอร์รัปชั่นในทุกรูปแบบ จึงจัดโครงการสัมมนาเชิงปฏิบัติการเรื่อง การแลกเปลี่ยนเรียนรู้และการถ่ายทอดกิจกรรมและองค์ความรู้ เพื่อการสร้างพลังเครือข่ายในการป้องกันและต่อต้านการทุจริต และมหกรรมรวมพลังเยาวชนไทยร่วมใจต่อต้านการทุจริตขึ้นมา เพื่อนำความรู้ต่างๆ มาสร้างนวัตกรรมใหม่ๆ ที่จะนำไปใช้ประโยชน์ในการทำงานด้านการต่อต้านการทุจริต และเป็นการกระตุ้นจิตสำนึกของทุกภาคส่วนให้เห็นความสำคัญด้านการต่อต้านการทุจริตให้เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง
“การจัดสัมมนาครั้งนี้ ถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นของความร่วมมือทุกภาคส่วนที่มาร่วมกันเปลี่ยนแปลงประเทศของเราให้โปร่งใส ปราศจากการคอร์รัปชั่น และเป็นการร่วมกันต่อสู้กับคอร์รัปชั่นทั้งประเทศ ทั้งนี้สิ่งสำคัญที่จะทำให้สังคม ประเทศชาติบ้านเมืองของเราไปรอดได้คือ ความเข้มแข็งของประชาชนทุกคนที่ต้องร่วมกันทำหน้าที่ยืนหยัดต่อต้านคอร์รัปชั่น และกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ จะเร่งดำเนินการด้านต่างๆ เพื่อก่อให้เกิดความโปร่งใสและต่อต้านการทุจริตทุกรูปแบบ” นายอนุสรณ์ กล่าวตอนท้าย.