นายดนุช บุนนาค รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่สายผลิตภัณฑ์และบริการลูกค้า บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ได้ชี้แจงถึงประเด็นดังกล่าวว่า เครื่องการบินไทยเป็นเครื่องที่จดทะเบียนภายใต้กฎหมายไทย โดยบริษัทฯ ได้ดำเนินการขออนุญาตให้บริการอินเตอร์เน็ตไร้สาย (Wi-Fi) และบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ (GSM) บนเครื่องบินมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2554ซึ่งที่ผ่านมายังไม่ได้รับการอนุมัติจากคณะกรรมการกิจการการกระจายเสียงกิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เนื่องจากติดปัญหา พรบ. การจัดสรรคลื่นความถี่และกำกับการประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม พ.ศ. 2553 มาตรา 45 ว่า ผู้ใดประสงค์จะใช้คลื่นความถี่เพื่อกิจการโทรคมนาคมต้องได้ใบรับอนุญาตตาม พรบ. ซึ่งต้องดำเนินการโดยวิธีประมูลคลื่นความถี่ แม้ว่าการให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่บนเครื่องบินจะเหมือนการเปิดให้บริการ Roaming ให้แก่ผู้โดยสารผ่านชุดอุปกรณ์ของระบบที่ได้รับการออกแบบให้ส่งสัญญาณคลื่นโทรศัพท์เคลื่อนที่ 1800 MHz กำลังต่ำภายในห้องโดยสารที่ระดับความสูง 10,000 ฟิต และสัญญาณจากระบบจะถูกส่งผ่านดาวเทียมมายังภาคพื้น ซึ่งจะไม่มีการรบกวนสัญญาณคลื่นความถี่ 1800 MHz กับโครงข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ภาคพื้นแต่อย่างใด
ทั้งนี้ ระหว่างที่การบินไทยดำเนินการขอใบอนุญาตและรอการอนุมัติจาก กสทช.มาตลอด 2 ปี นั้น ทางการบินไทยได้มีการเตรียมความพร้อมด้วยการจัดหาผู้ให้บริการ ซึ่งเป็นผู้ให้บริการหลักของสายการบินชั้นนำในปัจจุบัน 2 ราย คือ แอร์โร โมบาย (AeroMobile)
ของประเทศอังกฤษ และบริษัทออนแอร์ (OnAir) ของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ พร้อมกันนี้การบินไทยยังได้ดำเนินการติดตั้งอุปกรณ์ต่างๆ บนเครื่องบิน เพื่อให้สามารถรองรับการให้บริการอินเตอร์เน็ตไร้สาย (Wi-Fi) และโทรศัพท์เคลื่อนที่ไว้เรียบร้อยแล้ว โดยอุปกรณ์เพื่อรองรับระบบดังกล่าวได้ติดตั้งบนเครื่องบินรุ่นใหม่ ได้แก่ เครื่องบินแอร์บัส A380 - 800 จำนวน 6 ลำ เครื่องบินแอร์บัส A330 - 300 จำนวน 7 ลำ รวมจำนวน 13 ลำ ที่สามารให้บริการได้ทั้งอินเตอร์เน็ตไร้สาย (Wi-Fi) และโทรศัพท์เคลื่อนที่ ส่วนบนเครื่องบินแบบโบอิ้ง
777-300ER จำนวน 14 ลำและโบอิ้ง 747-400 จำนวน 6 ลำ รวมจำนวน 20 ลำ จะสามารถให้บริการได้เฉพาะโทรศัพท์เคลื่อนที่ระบบ GSM 1800
ทั้งนี้ ตามที่ กสทช. ได้พิจารณาว่าการใช้อินเตอร์เน็ตไร้สายเป็นคลื่นความถี่อิสระซึ่งการบินไทยจะสามารถดำเนินการยื่นหนังสือขออนุญาตเปิดให้บริการเฉพาะอินเตอร์เน็ตใหม่ โดยยังคงต้องรอการพิจารณาอนุญาตการให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ต่อไปนั้น ทางบริษัทฯ
จะได้ดำเนินการในขั้นตอนนี้ก่อน แต่ก็จะไม่สามารถสร้างความพึงพอใจกับผู้โดยสารตามที่วางแผนและได้ลงทุนเป็นเงินจำนวนมากไว้ เพราะจะมีเครื่องบินเพียง 13 ลำ ที่จะรองรับระบบ Wi-Fi ได้ ซึ่งเรื่องนี้หากสายการบินที่จดทะเบียนในประเทศไทยภายใต้กฎหมายไทย จะได้รับความสะดวกในการอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่ทั้งโทรศัพท์เคลื่อนที่และอินเตอร์เน็ตไร้สาย(Wi-Fi) 2 ระบบพร้อมกันอย่างเช่นสายการบินที่จดทะเบียนในประเทศอื่นๆ ก็จะทำให้สายการบินของประเทศไทย สามารถมีบริการในด้าน ICT ที่ทัดเทียมและแข่งขันกับสายการบินชั้นนำอื่นๆ ได้ โดยเฉพาะเมื่อมีการเข้าร่วมประชาคมอาเซียน (AEC) ในอนาคตอีกด้วย