กรุงเทพฯ--3 มิ.ย.--กทม.
เมื่อวันที่ 1 มิ.ย. 48 ที่ผ่านมา นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พร้อมด้วย ดร.สามารถ ราชพลสิทธิ์ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร นายธีรเดช ตังประพฤทธิ์กุล ผู้อำนวยการสำนักการระบายน้ำ ข้าราชการ เจ้าหน้าที่สำนักการระบายน้ำ ร่วมตรวจเยี่ยมพื้นที่ที่ประสบปัญหาน้ำท่วมขังจากฝนตกหนักที่ผ่านมา โดยเมื่อวันที่ 30 พ.ค.48 เวลา 17.00 น. เกิดน้ำท่วมขังที่บริเวณถนนลาดพร้าว 101 ถึงคลองจั่น ส่วนวันที่ 31 พ.ค.48 เวลา 19.00 น. น้ำท่วมขังในพื้นที่จากบริเวณคลองจั่น ถึง ถนนลาดพร้าวซอย 71 เนื่องจาก ทั้ง 2 วัน ปริมาณน้ำฝนที่ตกลงมามากกว่าค่าเฉลี่ยน้ำฝนที่ตกในรอบ 30 ปี และมากกว่าปีที่ผ่านมา จึงเกิดปัญหาระบายน้ำได้ช้า การนี้ ผู้ว่าฯ อภิรักษ์ จึงได้สั่งการให้สำนักการระบายน้ำแก้ไขปัญหาในเบื้องต้น โดยติดตั้งเครื่องสูบน้ำดีเซลที่บริเวณถนนลาดพร้าวตัดกับคลองจั่นจำนวน 4 เครื่อง จากลาดพร้าว 71 ถึงคลองจั่น ติดตั้งจำนวน 1 เครื่อง และจากคลองจั่นถึงลาดพร้าว 101 อีกจำนวน 3 เครื่อง
ในการนี้ผู้ว่าฯกทม. ได้สั่งการให้ติดตั้งเครื่องสูบน้ำเพิ่มอีก 2 เครื่องที่คลองเจ้าคุณสิงห์ตัดถนนลาดพร้าว เพื่อบรรเทาปัญหาดังกล่าว นอกจากนั้นยังได้กำชับให้เจ้าหน้าที่จัดเก็บขยะไม่ให้ขวางทางน้ำไหล ไม่ให้อุดตันทางระบายน้ำ ทั้งนี้จากสถิติกรมอุตุนิยมวิทยาที่ผ่านมาจากเดือน ม.ค.-พ.ค.ปริมาณน้ำฝนที่วัดได้เฉลี่ย 30 ปี คือ 353 มม. ในปี 2547 วัดได้ 347 มม. ส่วนปีนี้ 2548 วัดได้ 437 มม. และสถิติเฉพาะเดือน พ.ค.ปริมาณน้ำฝนที่วัดได้เฉลี่ย 30 ปี คือ 220 มม. ในปี 2547 วัดได้ 108 มม. ส่วนในปีนี้ 2548 วัดได้ 258 มม. เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วถึง 140%
ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า ในระยะยาวจะมีการเร่งรัดให้ก่อสร้างเขื่อนและดาดท้องคลองทั้งคลองจั่นและ คลองยายเผื่อน 2 ให้แล้วเสร็จโดยเร็ว ซึ่งคลองยายเผื่อน 2 กำหนดแล้วเสร็จ 28 พ.ย.48 แต่ กทม.จะเร่งดำเนินการให้เร็วกว่าแผน คาดว่าจะแล้วเสร็จในเดือน ก.ย.48 ส่วนคลองจั่นกำหนดแล้วเสร็จ 24 พ.ย.48 จะเร่งรัดให้แล้วเสร็จเร็วกว่าแผนเช่นเดียวกัน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำให้รวดเร็วยิ่งขึ้น และเชื่อว่าหากการดำเนินการแล้วเสร็จทั้ง 2 คลองแล้ว น้ำในบริเวณถนนลาดพร้าว จะไม่เกิดการท่วมขังอีก--จบ--