นายพิพัฒน์ อัสสมงคล ประธานคณะเจ้าหน้าที่ด้านลูกค้าธุรกรรมการเงิน ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “กรุงศรีตระหนักถึงข้อจำกัดของสหกรณ์ออมทรัพย์เรื่องการไม่มีสาขา และความไม่สะดวกในการให้บริการสมาชิกสหกรณ์ ขณะเดียวกัน สหกรณ์ก็ต้องการที่จะขยายบริการให้กว้างขวางและทั่วถึง เพื่อตอบสนองต่อความต้องการของจำนวนสมาชิกที่เพิ่มขึ้น เราจึงได้ร่วมมือกับสหกรณ์หลายแห่งใน การพัฒนา ระบบบริหารเงินสดเพื่อสหกรณ์ออมทรัพย์ขึ้นมา เพื่อเป็นช่องทางให้สมาชิกสามารถเข้าถึงสหกรณ์ได้ง่ายขึ้น โดยการใช้เทคโนโลยีของธนาคารเชื่อมต่อกับระบบบริหารเงินของสหกรณ์นั้นๆ”
ด้วยนวัตกรรมทางการเงินนี้ สมาชิกสหกรณ์ สามารถ ฝากเงิน ถอนเงินฝากหรือเงินปันผล เพิ่มหุ้น ชำระหนี้เงินกู้หรือขอกู้เงินประเภทต่างๆ เช่น เงินกู้ฉุกเฉิน เงินกู้สามัญ และเงินกู้พิเศษ ผ่านช่องทางต่าง ๆ ทั้งจากสาขาของธนาคารกว่า 600 แห่ง ตู้กรุงศรี ATM กว่า 4,600 ตู้ และตู้ ATM Pool อีกกว่า 40,000 ตู้ รวมถึง กรุงศรีออนไลน์ และ Call Center 1572
นายพิพัฒน์ กล่าวว่า “ระบบบริหารเงินสดเพื่อสหกรณ์ออมทรัพย์ของธนาคารกรุงศรี ไม่เพียงแต่จะทำให้ การทำงานของสหกรณ์มีประสิทธิภาพมากขึ้นเท่านั้น แต่ยังช่วยลดต้นทุนการบริหารจัดการ ลดความเสี่ยงในการดำเนินการ มีความน่าเชื่อถือ และตรวจสอบได้”
"สหกรณ์ออมทรัพย์จัดเป็นหนึ่งในสถาบันการเงินที่มีการดำเนินธุรกรรมทางการเงินเหมือนธนาคาร โดยให้บริการกับสมาชิก ทั้งการรับถอนเงินฝาก โอนเงิน จ่ายเงิน บริการเงินกู้ทุกประเภท และจ่ายเงินปันผล ปัจจุบัน ประเทศไทยมีสหกรณ์ออมทรัพย์ราว 1,400 แห่ง มีจำนวนสมาชิกอยู่ประมาณ 2.7 ล้านคน มีจำนวนธุรกรรมทางการเงินไม่ต่ำกว่า 30 ล้านธุรกรรม (transaction) ต่อปี และเติบโตอย่างต่อเนื่อง จึงเป็นอีกกลุ่มเป้าหมายหนึ่งที่ธนาคารกรุงศรีให้ความสำคัญ” นายพิพัฒน์ กล่าว
ธนาคารกรุงศรีมีความมุ่งมั่นที่จะนำนวัตกรรมทางการเงินใหม่ๆ มาใช้ในการพัฒนาระบบการบริหารเงินสดเพื่อตอบสนองต่อความต้องการของสหกรณ์ออมทรัพย์ และสมาชิกสหกรณ์ ที่จะได้สัมผัสถึงประสบการณ์ทางการเงินที่ง่าย สะดวก รวดเร็ว และทั่วถึง สอดคล้องกับแนวคิดทางการตลาดของกรุงศรี “เรื่องเงิน เรื่องง่าย”
ข้อมูลเพิ่มเติมกรุณาติดต่อ
ฝ่ายสื่อสารองค์กรและประชาสัมพันธ์
ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน)
โทรศัพท์: 02 296 2394, 02 296 2443-4
อีเมล์: [email protected]