นายสุเรซ ซูบรามาเนียม กรรมการผู้จัดการ บริษัท ดีแอนด์ดับบลิว (เอเชีย) จำกัด ผู้ผลิตประตูและหน้าต่างคุณภาพสูงซึ่งได้รับแต่งตั้งอย่างเป็นทางการแบรนด์เฟลทเชอร์ (Fletcher) เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้รับแต่งตั้งอย่างเป็นทางการจากเฟลทเชอร์ อลูมิเนียม นิวซีแลนด์ (Fletcher Aluminium New Zealand) ซึ่งมีความชำนาญและมีชื่อเสียงเกี่ยวกับประตู และหน้าต่างอลูมิเนียมมามากกว่า 70 ปี และในขณะนี้ผลิตภัณฑ์สินค้าของบริษัทฯ ส่วนใหญ่ได้รับความนิยมในกลุ่มลูกค้าประเภทโรงแรม รีสอร์ท อาคารสูง คอนโดมีเนียม บ้านพักอาศัยและบ้านพักตากอากาศ ซึ่งบริษัทฯ คาดว่าในปี 2557 จะมียอดขายเติบโตประมาณ 30%
ทั้งนี้ บริษัทฯ อาศัยคู่ค้าสำหรับช่องทางการจัดจำหน่าย โดยปัจจุบันบริษัทฯ มีบริษัทคู่ค้า (พาร์ทเนอร์) ประมาณ 7 ราย ทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นประเทศเพื่อนบ้านในแถบเอเชีย เช่น กัมพูชา มาเลเซีย เวียดนาม สิงคโปร์ และอินเดีย โดยเฉพาะในประเทศอินเดียบริษัทฯ มีบริษัทคู่ค้าถึง 3 แห่ง อีกทั้ง ถือได้ว่าอินเดียเป็นฐานตลาดใหญ่ของบริษัทฯ
โดยบริษัทฯ ลงทุนสร้างโชว์รูมเพื่อจัดแสดงสินค้าของแบรนด์เฟลทเชอร์ในอินเดียโดยเฉพาะ และคาดว่าจะเพิ่มเติมอีก 3 แห่ง จากเดิมที่มีอยู่ 1 แห่ง รวมเป็น 4 แห่ง โดยโชว์รูมที่เปิดใหม่อยู่ในเขตพื้นที่เมืองบัลกาลอร์ เจนไน และไฮเดอราบาด ซึ่งเป็นเมืองใหญ่ที่มีความสำคัญทั้งด้านการท่องเที่ยว การค้า และเศรษฐกิจของอินเดีย สำหรับโชว์รูมในเมืองไทยซึ่งตั้งอยู่ที่บางปูนั้น คาดว่าจะมีการปรับปรุงภาพลักษณ์โชว์รูมใหม่ เพื่อให้มีความสวยงามและมีสินค้ารุ่นใหม่แสดงมากขึ้น
นอกจากนี้ บริษัทฯ มีแผนจะรุกตลาดในประเทศเพื่อนบ้านใกล้เคียงอย่างพม่าภายในปีนี้ ซึ่งคาดว่าจะสามารถเพิ่มพาร์ทเนอร์ได้อีก 1 แห่ง ซึ่งจะเป็นรายที่ 8 และทางบริษัทฯ ประเมินว่าตลาดในพม่าจะเป็นตลาดที่จะสมารถสร้างยอดขายของบริษัทฯ ให้เพิ่มขึ้นถึง 30-40% จากยอดขายทั้งหมด และจะมีการสร้างโชว์รูมในพม่าอีกด้วย
อย่างไรก็ดี ทางบริษัทฯ ยังมีแผนขยายตลาดอย่างต่อเนื่อง โดยการเตรียมช่องทางสำหรับการขยายตลาดไปยังประเทศออสเตรเลียไม่เกินต้นปีหน้า ซึ่งคาดว่าจะทำให้มีพาร์ทเนอร์และช่องทางในการจำหน่ายสินค้าเพิ่มมากขึ้น
“สำหรับการรุกตลาดในต่างประเทศ โดยเฉพาะพม่านั้นถือเป็นการเพิ่มช่องทางการขายแล้ว ยังเป็นการสร้างแบรนด์เฟลทเชอร์ให้เป็นที่ยอมรับและเป็นที่รู้จักไปทั่ว นอกจากนี้ ยังถือเป็นการเพิ่มยอดขายที่มีอยู่ได้อีกส่วนหนึ่ง ซึ่งการขยายตลาดไปต่างประเทศนั้น จะช่วยทำให้เป้าที่วางไว้ในปีหน้าน่าจะเป็นไปตามเป้าที่วางไว้ได้” นายสุเรซกล่าว
นายสุเรซ กล่าวต่อว่า ในช่วงสิ้นเดือนกันยายนนี้ บริษัทฯ จะมีผลิตภัณฑ์ใหม่เกี่ยวกับระบบประตูหน้าต่างของเฟลทเชอร์ออกมา เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าและตลาดมากขึ้น โดยคาดว่าผลิตภัณฑ์ตัวใหม่นี้ จะได้รับความนิยมในกลุ่มลูกค้าประเภทบ้านพักอาศัยและคาดว่าจะช่วยเพิ่มยอดขายของบริษัทฯ ได้ประมาณ 18 — 20 ล้านบาท