นายชุตินธร ปักเข็ม ผู้จัดการฝ่ายธุรกิจผลิตภัณฑ์น้ำมันหล่อลื่น บริษัท เชฟรอน (ไทย) จำกัด นายกัลย์ สันตสว่าง ผู้จัดการฝ่ายขายช่องทางการขายตรง บริษัท เชฟรอน (ไทย) จำกัด และ มร. เคนนี่ ยง ประธานกรรมการผู้จัดการ บริษัท ไฟร์เวิร์คส มีเดีย (ไทยแลนด์) จำกัด ร่วมกันเปิดงาน “Oil & Gas Thailand (OGET) 2013 and Petrochemical Asia 2013” ครั้งที่ 3 ซึ่งเป็นการรวมตัวครั้งยิ่งใหญ่ของผู้ประกอบการ และผู้ที่ต้องการจัดหาเทคโนโลยีใหม่ๆ เพื่ออุตสาหกรรมน้ำมัน, ก๊าซและปิโตรเคมี รวมถึงการเชื่อมโยงผู้ทำธุรกิจที่เกี่ยวข้องทุกส่วนมารวมตัวกัน พร้อมทั้งการจัดประชุมสัมมนาและสาธิตเกี่ยวกับเทคโนโลยีล่าสุดในอุตสาหกรรม การจัดงานในครั้งนี้ จัดขึ้นระหว่างวันที่ 17-19 กันยายนนี้ ที่ ฮอลล์ 105 ไบเทค บางนา บนพื้นที่กว่า 6,000 ตรม. โดยได้รับการสนับสนุนจากกลุ่มบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) และสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศสิงคโปร์
มร. เคนนี่ ยง ประธานกรรมการผู้จัดการ บริษัท ไฟร์เวิร์คส มีเดีย (ไทยแลนด์) จำกัด เปิดเผยว่า ปีนี้มีผู้ประกอบการรายใหญ่ที่เพิ่งเข้ารวมงานเป็นปีแรก ได้แก่ บริษัท เชฟรอน (ไทย) จำกัด และบริษัท ปิโตรเวียดนามบริการด้านเทคนิค นอกจากนี้ ยังมีผู้ประกอบการด้าน Subsea หรือ อุตสาหกรรมภายใต้พื้นทะเล ที่สำคัญอย่างยิ่งในกระบวนการขุดเจาะน้ำมัน ซึ่งในขณะที่มีผู้ประกอบการด้านอุตสาหกรรมน้ำมัน, ก๊าซและปิโตรเคมี จากนานาประเทศ ยังคงเข้าร่วมงานเช่นเดียวกับการจัดงานครั้งที่ผ่านมา อาทิ มาเลเซีย อินโดนีเซีย อิตาลี เยอรมัน ฝรั่งเศส ญี่ปุ่น เกาหลี จีน ไต้หวัน อังกฤษ ออสเตรเลีย และ สหรัฐอเมริกา เป็นต้น ทั้งนี้ผู้ประกอบการจาก สิงคโปร์ ได้เพิ่มพื้นที่การจัดงานเป็น 300 ตารางเมตร ส่งผลให้ยอดขายในปีนี้ เพิ่มขึ้น 25 เปอร์เซ็นต์ จากปีที่ผ่านมา
ด้านการประชาสัมพันธ์การจัดงาน ไฟร์เวิร์คสฯ ได้จัดกิจกรรมประชาสัมพันธ์ (Road Show) กับกลุ่มเป้าหมาย ในพื้นที่จังหวัดระยอง ซึ่งเป็นศูนย์รวมอุตสาหกรรมน้ำมันและปิโตรเคมีของประเทศไทย โดยการไปจัดสัมมนาพิเศษเกี่ยวกับระบบความปลอดภัย ด้านชีวอนามัยในระบบอุตสาหกรรมปิโตรเลียม และปิโตรเคมี พร้อมทั้งประชาสัมพันธ์การจัดงาน เพื่อให้ได้รับทราบกันอย่างทั่วถึง ขณะเดียวกันก็ได้มีการส่งบัตรเชิญเข้าชมงานโดยตรงไปยังบริษัทชั้นนำด้านอุตสาหกรรมน้ำมันและปิโตรเคมีทั้งภาคพื้นเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
“สำหรับภาพรวมของอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับน้ำมัน, ก๊าซ และปิโตรเคมีในปัจจุบันยังคงมีอัตราการขยายตัวได้อย่างต่อเนื่อง และมีแนวโน้มว่าการแข่งขันจะรุนแรงมากขึ้น หลังการเปิดประชาคมอาเซียน ในปี 2558 ดังนั้นผู้ประกอบการของไทยควรเตรียมรับสถานการณ์ด้วยการปรับปรุงประสิทธิภาพในด้านต่างๆ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการแข่งขันทั้งกับประเทศเพื่อนบ้านและในตลาดโลก” มร. เคนนี่ กล่าว