อธิบดีกรมการท่องเที่ยวกล่าวในระหว่างเป็นประธานในพิธีเปิดการสัมมนาตาม “โครงการส่งเสริมศักยภาพในการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวของบุคลากรท้องถิ่น” ซึ่งจัดขึ้นโดยสำนักพัฒนาการท่องเที่ยวและบริการ ที่โรงแรมเอเชีย กรุงเทพมหานคร ในวันนี้ (วันจันทร์ที่ 23 กันยายน 2556) ว่า “ในฐานะหน่วยงานหลักของภาครัฐด้านการส่งเสริมการท่องเที่ยว กรมฯจึงให้ความสำคัญกับภารกิจในการประสานการสำรวจ วางแผน ออกแบบ และดำเนินการส่งเสริม อนุรักษ์ ฟื้นฟู บูรณะ ปรับปรุง และพัฒนาแหล่งท่องเที่ยว ตลอดจนทรัพยากรและคุณภาพสิ่งแวดล้อมของแหล่งท่องเที่ยวมาโดยตลอด แต่เนื่องจากการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวในปัจจุบันอยู่ภายใต้การดูแลของหลายหน่วยงาน จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีการประสานงานที่ดีระหว่างองค์กรต่างๆที่เกี่ยวข้อง ทั้งในส่วนขององค์กรการปกครองส่วนท้องถิ่น กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช และอื่นๆ เพื่อที่ว่าการทำงานจะได้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน รวมถึงการได้รับความร่วมมือและการสนับสนุนอันจะนำมาซึ่งความสำเร็จตามนโยบายของรัฐบาลและการพัฒนาการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนในอนาคต”
“โครงการส่งเสริมศักยภาพในการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวของบุคลากรท้องถิ่น” จัดขึ้นโดยสำนักพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวและบริการ กรมการท่องเที่ยว โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ผู้แทนจากหน่วยงานเจ้าของแหล่งท่องเที่ยวได้รับทราบและมีความเข้าใจในแนวทางการดำเนินงานพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวที่ได้รับการสนับสนุนงบประมาณ รวมทั้งเกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ระว่างกัน เกิดเป็นเครือข่ายการทำงาน และมีการทำงานร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพ สามารถบรรลุวัตถุประสงค์ที่วางไว้ ทั้งนี้โดยมีผู้เข้าร่วมสัมมนากว่า 250 คน
“การจัดสัมมนาในครั้งนี้ก็เพื่อเป็นเวทีกลางให้ตัวแทนจากหน่วยงานเจ้าของแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ ได้มารับทราบแนวทางการดำเนินงาน แนวทาง นโยบาย และการบริหารงบประมาณการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวประจำปีพ.ศ. 2557 อีกอย่างหนึ่งคือจะเกิดการแลกเปลี่ยนการเรียนรู้ระหว่างตัวแทนของหน่วยงานเจ้าของแหล่งท่องเที่ยวกับกรมการท่องเที่ยวว่ามีข้อจำกัดและกฎระเบียบอย่างไร เพราะแหล่งท่องเที่ยวบางแหล่งนั้นอยู่ในความรับผิดชอบของกรมอุทยานฯ เขาจะมีกฎบางอย่างที่กรมการท่องเที่ยวต้องรับฟัง” อธิบดีกรมการท่องเที่ยวกล่าวย้ำ
ในงานสัมมนา อธิบดีกรมการท่องเที่ยวได้เน้นย้ำกับตัวแทนหน่วยงานคู่พัฒนาแหล่งท่องเที่ยวถึงความสำคัญของความโปร่งใส รวมทั้งหลักเกณฑ์ในการขอรับงบประมาณอุดหนุนในปีงบประมาณหน้าและความสำคัญในการเตรียมหลักฐาน เอกสารและข้อมูลให้ครบถ้วน เนื่องจากโครงการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวของแต่ละชุมชนจะต้องผ่านการพิจารณาจากคณะกรรมการที่ตั้งขึ้นมาพิจารณาโดยเฉพาะเพื่อความโปร่งใสในการแจกจ่ายงบประมาณ และเมื่อได้รับเงินอุดหนุนจากกรมการท่องเที่ยวแล้ว จะมีเจ้าหน้าที่ออกตรวจ ติดตาม และประเมินผลในการดำเนินการโครงการเนื่องจากจะมีการตรวจสอบเรื่องการเบิกจ่ายงบประมาณและผลการดำเนินงานเป็นระยะๆ
“ยิ่งไปกว่านั้น ในส่วนของการขอรับงบประมาณอุดหนุนสำหรับปีงบประมาณ 2558 ทางคณะรัฐมนตรีได้มีนโยบายเร่งรัดการดำเนินการและขอรับโครงการเพื่อของบประมาณให้เร็วขึ้นอีกเนื่องจากปีพ.ศ. 2558 เป็นปีที่ประเทศไทยจะเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนอย่างเต็มตัวและทุกหน่วยงานจะต้องเตรียมความพร้อมในเรื่องการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ พร้อมดำเนินงานโครงการพิเศษเพิ่มขึ้นในอนาคต เช่นระบบถนนเพื่อเข้าถึงแหล่งท่องเที่ยว ระบบการสื่อสารอินเทอร์เน็ตไร้สายในแหล่งท่องเที่ยว ซึ่งต้องบูรณาการการทำงานร่วมกับหน่วยงานอื่นๆ ด้วย อาทิ กรมทางหลวง องค์การบริหารส่วนท้องถิ่น กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ฯลฯ” อธิบดีกล่าวย้ำ
นอกจากการบรรยายและแสดงวิสัยทัศน์การปรับปรุงและพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวในประเทศไทยโดยอธิบดีกรมการท่องเที่ยว ว่าที่ร้อยตรีอานุภาพ เกษรสุวรรณ์ แล้ว ตลอดการสัมมนา ยังมีการบรรยายเรื่อง “หลักเกณฑ์ในการขอรับการสนับสนุนงบประมาณ” โดยผู้อำนวยการกองพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานการท่องเที่ยว นางพัชณีย์ ยงยอด การบรรยายเรื่อง “กรอบแนวทางการดำเนินงานโครงการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยว” โดยผู้อำนวยการกองพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานการท่องเที่ยว นายสุบรรณ ประครองใจ การบรรยายเรื่อง “หลักเกณฑ์การให้เงินอุดหนุนแก่ชุมชนท่องเที่ยว” โดยนักพัฒนาการท่องเที่ยวชำนาญการพิเศษ นางพัชราภรณ์ ทวีกสิกรรม ฯลฯ
การสัมมนาตาม “โครงการส่งเสริมศักยภาพในการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวของบุคลากรท้องถิ่น” จัดขึ้นโดยสำนักพัฒนาการท่องเที่ยวและบริการ กรมการท่องเที่ยว กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ณ ห้องราชเทวี 2 ชั้น 2 โรงแรมเอเชีย ถนนพญาไท เขตราชเทวี กรุงเทพมหานคร ตั้งแต่เวลา 09:00 — 16:30 น.
เผยแพร่ในนาม “กรมการท่องเที่ยว กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา” โดยบริษัท ซิลเลเบิล จำกัด ต้องการทราบรายละเอียดเพิ่มเติมเพื่อเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ กรุณาติดต่อ คุณสมคิด เจริญศักดิ์โทร. 08 4147-7575 / คุณสิริกาญจน์ เกตุสุวรรณ โทร. 08 3078 2528 โทร. 0 2254 6895-7 โทรสาร 0 2650 7738