สนพ. จัดเสวนาระดมความเห็นนักวิชาการ ขับเคลื่อนการพัฒนาพลังงานไทยในอนาคต

พุธ ๒๕ กันยายน ๒๐๑๓ ๑๕:๓๗
สนพ. ระดมนักคิดแลกเปลี่ยนความรู้ด้านพลังงาน หวังพัฒนาพลังงานไทยให้ได้ตามแผนอนุรักษ์พลังงาน 20 ปีและแผนพัฒนาพลังงานทดแทนและพลังงานทางเลือก 25% ใน 10 ปี

นายสุเทพ เหลี่ยมศิริเจริญ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) กระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า เพื่อสร้างองค์ความรู้ให้กับบุคลากรและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ได้รับความรู้ความเข้าใจและนำไปใช้ในการปฏิบัติงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ อันจะนำไปสู่เป้าหมายเพิ่มการใช้พลังงานทดแทนและพลังงานทางเลือกเป็นร้อยละ 25 ของการใช้พลังงานทั้งหมดในปี 2564 และลดระดับการใช้พลังงานต่อผลผลิต (Energy intensity) ลงร้อยละ 25 ในปี 2573

สนพ. ร่วมกับมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ (มช.) ได้ดำเนินโครงการ “จัดเสวนาเชิงวิชาการด้านการพัฒนาพลังงานของประเทศไทย” ขึ้น ซึ่งในปี 2556 นี้ จะมีการจัดเสวนารวมทั้งสิ้น 4 ครั้ง ในหัวข้อเรื่อง เชื้อเพลิงจากชีวมวลยุคที่ 2 (2nd generation biofuels), การพัฒนาเทคโนโลยี Clean Coal, มาตรการสนับสนุนการเดินทางด้วยระบบขนส่งมวลชน และ ระบบโครงข่ายไฟฟ้าอัจฉริยะ (Smart Grid) โดยเชิญผู้เชี่ยวชาญในสาขาดังกล่าวทั้งในประเทศและต่างประเทศมาให้ความรู้แก่บุคลากรและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง โดยหัวข้อเสวนาจะเน้นเรื่องนวัตกรรมใหม่ๆ อันจะนำไปสู่การดำเนินนโยบายด้านการอนุรักษ์พลังงานและพลังงานทดแทนของประเทศในอนาคต

“การขับเคลื่อนพัฒนาพลังงาน นอกจากการส่งเสริมการวิจัยและการสนับสนุนการพัฒนาเทคโนโลยีแล้ว ยังจำเป็นต้องมีการสร้างองค์ความรู้ด้านพลังงานให้กับบุคลากรและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้มีความรู้ความเข้าใจในการปฏิบัติงานต่อไป โดย สนพ. ได้จัดเสวนาไปแล้ว 1 ครั้งเมื่อเดือนสิงหาคม 2556 เรื่องเชื้อเพลิงชีวมวลยุคที่ 2 โดยมีนักวิชาการทั้งในและต่างประเทศมาร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นที่เป็นประโยชน์มากมาย ส่วนการจัดงานเสวนาอีก 3 ครั้ง จะมีขึ้นในเร็วๆ นี้ คาดว่าจะได้รับองค์ความรู้ใหม่ๆ เพื่อนำมาศึกษาวิจัย พัฒนาต่อยอด และจัดทำนโยบายด้านพลังงานของประเทศต่อไป” ผอ.สนพ.กล่าว

ผศ.ดร.อนุชา พรมวังขวา อาจารย์คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เปิดเผยภายหลังการเสวนาเรื่อง “เชื้อเพลิงจากชีวมวลยุคที่ 2 (2nd generation biofuels)” ว่า ประเทศไทยเป็นประเทศเกษตรกรรม มีวัสดุเหลือทิ้งทางการเกษตรเป็นจำนวนมาก ทำให้มีศักยภาพในการผลิตเชื้อเพลิงชีวมวลสูงถึง 11,900 พันตันเทียบเท่าน้ำมันดิบ (ktoe) ทั้งนี้ เชื้อเพลิงจากชีวมวลยุคที่ 2 นี้จะเป็นพลังงานทดแทนเชิงพาณิชย์ในอนาคตอันใกล้ จะผลิตจากชีวมวลที่มีส่วนประกอบของเซลลูโลสและลิกนิน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นวัสดุเหลือทิ้งทางการเกษตร อาทิ ไม้เนื้ออ่อน เศษไม้ ไม้โตเร็ว และที่สำคัญคือไม่ประทบต่อวงจรอาหารมนุษย์และสัตว์ แตกต่างจากเชื้อเพลิงชีวมวลยุคที่ 1 ที่มาจากแป้ง น้ำตาล และไขมัน ซึ่งเมื่อใช้ในปริมาณมากมีโอกาสกระทบต่อวงจรอาหารมนุษย์และสัตว์ นอกจากนี้ เชื้อเพลิงชีวมวลยุคที่ 2 จะเน้นการเปลี่ยนชีวมวลเป็นเชื้อเพลิงสำหรับยานยนต์ โดยคาดว่าจะช่วยลดการเกิดก๊าซเรือนกระจกได้ร้อยละ 90 เมื่อเทียบกับการใช้เชื้อเพลิงจากปิโตรเลียม ในขณะที่เชื้อเพลิงชีวมวลจากยุคที่ 1 ลดการเกิดก๊าซเรือนกระจกได้ร้อยละ 20-30” ผศ.ดร.อนุชากล่าว

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๒ พ.ย. รีเลชั่นชิพรีพับบลิค แนะกลยุทธ์สำคัญ นำพาธุรกิจร้านอาหารสู่ความสำเร็จ มัดใจลูกค้าให้อยู่หมัด
๒๒ พ.ย. ชมนวัตกรรมสุดล้ำในงาน METALEX 2024 หลายแบรนด์แกะกล่องเครื่องจักรครั้งแรกในงานนี้
๒๒ พ.ย. Bangkok Illustration Fair 2024 สู่การเติบโตก้าวใหญ่ในปีที่ 4
๒๒ พ.ย. ผลการจัดอันดับขีดความสามารถในการแข่งขันด้านดิจิทัลโดย IMD ประจำปี 2567 TMA เผยไทยครองอันดับ 37 ในการจัดอันดับด้านดิจิทัลปีนี้
๒๒ พ.ย. โก โฮลเซลล์ จัดเต็มสินค้า ส่งสุข สุดอร่อย เฉลิมฉลองเทศกาลส่งท้ายปี เข้มกระเช้าปีใหม่ดีมีมาตรฐาน พร้อมชู อาหารแช่แข็ง-อาหารสด
๒๒ พ.ย. กทม. จับมือสถานทูตเนเธอร์แลนด์ ประจำประเทศไทย จัดประชุมเชิงปฏิบัติการ ACTIVE Workshop เมืองเดินเท้า และจักรยานสัญจร ครั้งที่
๒๒ พ.ย. สัมผัสความหรูหราของวิลล่าริมทะเล VEYLA NATAI RESIDENCES ผ่านประสบการณ์เหนือระดับในงาน SOUL of VEYLA
๒๒ พ.ย. 'แอสเซทไวส์' จับมือ 'สยามกีฬา' เปิดศึกลูกหนังยุวชนทัวร์นาเมนต์ใหญ่แห่งปี AssetWise Siamkeela Cup 2024-25 ต่อเนื่องเป็นปีที่
๒๒ พ.ย. โรงแรมเรเนซองส์ เปิดตัว R FINDS แพลตฟอร์มดิจิทัลระดับโลก ที่จะเชื่อมมนต์เสน่ห์ชุมชนท้องถิ่นสู่นักเดินทางทั่วโลก
๒๒ พ.ย. electric.neon.lamp หยิบเพลงฮิต แม้ ใส่ฟีลดนตรีเหงาปนเศร้าในแบบ Piano Version