นายศิริวัฒน์ ขจรประศาสน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการเปิดสัมมนา “การขับเคลื่อนประเทศไทยสู่การเป็น Seafood Hub” ณ โรงแรมเซ็นทารา แกรนด์ แอท เซ็นทรัล พลาซ่า ว่า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยกรมประมง ได้จัดงานครั้งนี้ขึ้น เพื่อเป็นเวทีแลกเปลี่ยนความคิดเห็นระหว่างภาครัฐและผู้มีส่วนที่เกี่ยวข้องทั้งจากสมาคมประมงต่างๆ ในวงการอุตสาหกรรมประมง รวมถึงภาครัฐ อาทิ กระทรวงพาณิชย์ BOI เกษตรกร นักวิชาการ สมาคมผู้เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ สภาหอการค้าไทย ผู้แทนองค์กรระหว่างประเทศ ผู้แทนจากสถานทูต และผู้แทนกรมประมง ประเทศสมาชิกอาเซียน เพื่อเตรียมความพร้อมในการจัดงานแสดงสัมมนาวิชาการ และแสดงสินค้าประมงอาเซียน ASEAN Fisheries and Aquaculture Conference and Exposition 2015: ASEAN Seafood for the World ซึ่งจะจัดขึ้นเป็นเวลา 3 วัน ในช่วงก่อนหรือหลังงานแสดงสินค้า THAIFEX ในเดือนพฤษภาคม 2558 ที่กรุงเทพฯ
ทั้งนี้ การจัดงาน ASEAN Fisheries and Aquaculture Conference and Exposition 2015: ASEAN Seafood for the World เพื่อเพิ่มโอกาสให้ประเทศสมาชิกอาเซียนทุกประเทศได้นำเสนอข้อมูลการผลิตสินค้าประมงอย่างมีมาตรฐานและมีคุณภาพ ให้เป็นที่ตระหนักต่อประเทศผู้นำเข้าและผู้บริโภคทั่วโลก ในฐานะที่ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เป็นผู้ผลิตสัตว์น้ำและส่งออกสัตว์น้ำที่สำคัญติดอันดับหนึ่งในสิบของโลกมานานกว่า 15 ปี โดยภายในงานจะประกอบด้วยการจัดแสดงพาวิลเลี่ยนสินค้าประมงของประเทศสมาชิกอาเซียนทั้ง 10 ประเทศ และประเทศผู้ผลิตและส่งออกสินค้าประมงจากทั่วโลก ซึ่งนอกจากผู้ประกอบการรายใหญ่ที่จะมาร่วมงานแล้ว ประเทศไทยจะจัดพื้นที่ให้กลุ่มสหกรณ์ กลุ่มแม่บ้านที่ผลิตสินค้าประมงมาร่วมออกบูธจำหน่ายสินค้าดังกล่าวด้วย เพื่อเพิ่มโอกาสทางการค้าและช่องทางการตลาดให้กับผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดเล็ก
สำหรับประเด็นหลักที่จะมีในการสัมมนา อาทิ การพัฒนามาตรฐานการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ อาหารปลอดภัยและมาตรฐานสินค้าประมง การพัฒนาการประมงอย่างยั่งยืนและสมดุลกับธรรมชาติ และการค้าสินค้าประมงระหว่างประเทศ เพื่อนำมาใช้เป็นแนวทางการปรับปรุงการดำเนินงานความร่วมมือระหว่างประเทศสมาชิกอาเซียนให้มีการพัฒนาภาคการประมงอย่างยั่งยืนและได้รับความเชื่อมั่นจากประเทศผู้นำเข้า
“กระทรวงเกษตรฯ จะใช้โอกาสจากการเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนในการขยายฐานการผลิตและการค้าร่วมกัน เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันสินค้าประมงไทยในตลาดโลก ซึ่งนโยบายดังกล่าวได้ดำเนินงานมาแล้ว 1 ปี ตั้งแต่ปีงบประมาณ 2556 โดยมีเป้าหมายพัฒนาภาคการประมงสู่การเป็นศูนย์กลางการผลิตและการค้าสินค้าประมง (Seafood Hub) ภายในปี 2558 เนื่องจากเล็งเห็นความสำคัญในภาคการประมงไทยที่สร้างรายได้ให้ประเทศ โดยมูลค่าการส่งออกในปี 2555 มีมากกว่า 264,000 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าไทยจะสามารถสร้างความเชื่อมั่นและยั่งยืนให้กับระบบการผลิตสินค้าประมงในประเทศ และสร้างฐานการผลิตร่วมกับประเทศสมาชิกอาเซียน เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันสินค้าประมงไทยไปยังตลาดโลกได้” นายศิริวัฒน์กล่าว