นายชาย นครชัย อธิบดีกรมส่งเสริมวัฒนธรรม กล่าวว่า ที่ผ่านมากรมส่งเสริมวัฒนธรรมก็ได้ทำงานในด้านการรักษาและส่งเสริมวัฒนธรรมอย่างมากมาย ซึ่งก้าวต่อไปกรมก็จะปรับนโยบายให้เข้ากับยุทธศาสตร์ชาติและนโยบายของกระทรวงในการปรับบทบาทไปสู่กระทรวงสังคมกึ่งเศรษฐกิจ โดยนำสิ่งที่มีอยู่แล้ว มาต่อยอดให้มีคุณค่าทางเศรษฐกิจเพิ่มมากขึ้น เช่น มรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมที่จับต้องได้ และจับต้องไม่ได้ เป็นต้น สำหรับการต่อยอดโครงการทางด้านการส่งเสริมวัฒนธรรมในปี 57 นั้น มีแนวคิดที่จะสนับสนุนงบประมาณให้ทางสภาวัฒนธรรมทั่วประเทศ จัดกิจกรรมส่งเสริมวัฒนธรรม 12 เดือน โดยค้นหารากวัฒนธรรมของแต่ละจังหวัดขึ้นมานำเสนอผ่านกิจกรรมเด่นๆเป็นรายจังหวัด หรือเป็นรายภาค เช่น จังหวัดภูเก็ตมีเทศกาลกินเจเป็นประจำทุกปีอยู่แล้ว แต่จังหวัดใกล้เคียงอาจจะคิดกิจกรรมที่สอดคล้องกับเทศกาลกินเจ ก็จะสามารถนำสิ่งเหล่านี้มาร่วมกันจัดกิจกรรมหรือเทศกาลที่ใหญ่ขึ้น ส่งผลให้มีนักท่องเที่ยวเพิ่มมากขึ้น ตลอดจนก่อให้เกิดรายได้สู่ประเทศตามยุทธศาสตร์ชาติ
“การขับเคลื่อนงานทางด้านวัฒนธรรม จะมุ่งส่งเสริมไปสู่เด็กและเยาวชน โดยการเปิดศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทยให้เป็นแหล่งเรียนรู้ให้กับประชาชน เพื่อให้คนรู้จักงานวัฒนธรรมมากยิ่งขึ้น ที่สำคัญจะต้องสร้างภาพลักษณ์ให้คนภายนอกมองกรมส่งเสริมวัฒนธรรมใหม่ ไม่ใช่แค่ว่าเป็นหน่วยงานที่ต่อต้านเรื่องไม่ดีที่เกิดขึ้นในสังคมเพียงอย่างเดียว แต่จะต้องทำให้คนรู้ว่าเป็นหน่วยงานหลักที่ทำหน้าที่ในการส่งเสริมและต่อยอดงานทางด้านวัฒนธรรมให้กับสังคม และชุมชนเป็นสำคัญ” อธิบดีกรมส่งเสริมวัฒนธรรม กล่าว