โดยมีนางศิริพร กิจเกื้อกูล รองปลัดกระทรวงศึกษาธิการ และผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงศึกษาธิการ ร่วมเป็นเกียรติในพิธีลงนาม ณ ห้องประชุมราชวัลลภ อาคารราชวัลลภ กระทรวงศึกษาธิการ
รศ.ดร กิตติ ลิ่มสกุล กล่าวว่าเมื่อ ๗ ปีที่แล้วรัฐบาลเน้นเรื่อง e-Government โดยจะยกร่างการจัดตั้งสถาบันเทคโนโลยีเพื่อการศึกษา ใน มาตรา ๕๕ ได้หารือกับ กสทช.เพื่อจัดทำข้อมูลให้เป็นระบบมากขึ้นและประสานภายในเกี่ยวกับเนื้อหาการเรียนรู้ให้ได้มาตรฐาน เพื่อวางแผนการจัดการการเรียนการสอนให้ดีขึ้น กระทรวงศึกษาธิการจึงเร่งดำเนินการในส่วนของข้อมูลข่าวสารที่จะมีในแต่ละแท่ง เช่น สกอ.มีข้อมูลจำนวนมหาวิทยาลัย และนักศึกษากระจายมาก สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ กศน. สช. สกสค. และคุรุสภา มีข้อมูลครูและบุคลากรทางการศึกษามากเช่นกัน ทั้งหมดนี้กระจายออกไปคนละส่วน ตลอดจนหน่วยงานอื่น ๆ ในสังกัด ศธ.ผู้บริหารระดับสูงต้องการรู้ผลการเรียนการสอนทั้งระบบโดยไม่ต้องลงไปสำรวจในโรงเรียน แต่สามารถดูในระบบข้อมูลได้ทันที เมื่อจัดทำแล้วจะนำรายงานถึงนายกรัฐมนตรีให้ทราบว่ากระทรวงศึกษาธิการ มีแนวทางในการจัดระบบข้อมูล นักเรียน ครู และบุคลากรทางการศึกษา เมื่อเข้าสู่สมาคมอาเซียนแล้ว จะมีแรงงานต่างชาติไหลเข้ามาทำให้การจัดทำข้อมูลยุ่งยาก ต้องแยกเชื้อชาติให้ชัดเจน ในส่วนของหมายเลขบัตรประชาชน สามารถบริหารจัดการด้านความมั่นคง ความรู้ เศรษฐกิจ และด้านอื่น ๆ ได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น กระทรวงศึกษาพยายามเต็มที่ในการจัดการข้อมูลโดยอาศัยความร่วมมือจากหลายกระทรวง เพื่อเป็นจุดแลกเปลี่ยนข้อมูลที่เป็นประโยชน์ในการบริหารราชการแผ่นดิน
นางศิริพร กิจเกื้อกูล รองปลัดกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวว่าวัตถุประสงค์ในการลงนามครั้งนี้เพื่อประสานความร่วมมือในการจัดทำและพัฒนาข้อมูลสารสนเทศด้านการศึกษาของประเทศการแลกเปลี่ยน เชื่อมโยง และประยุกต์ใช้ข้อมูลสารสนเทศด้านการศึกษาร่วมกันได้ ให้สามารถตอบสนองต่อการพัฒนาการศึกษาของประเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพและเป็นรูปธรรม รวมถึงเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพและคุณภาพของระบบข้อมูลสารสนเทศด้านการศึกษาสำหรับใช้ในการบริหารราชการ การพัฒนาบริการด้านการศึกษาของภาครัฐ และการยกระดับความสามารถในการให้บริการแก่ประชาชน ข้อมูลที่บูรณาการของประเทศมีประโยชน์ในการสืบค้น ถูกต้อง ครบถ้วน มีประสิทธิภาพในการวางแผน ตัดสินใจในการบริหารจัดการการศึกษา